13 กุมภาพันธ์ 2550 21:57 น.
เทวารติกร
ร่ายสุภาพ
สิบสี่กุมภมาส
รักพิลาสรื่นรติ
มาลย์ผลิทัดหทัย
โลกวิลัยวิสุทธิ์สวย
รื่นรวยรสสุคนธ์
ปะปนด้วยรอยยิ้ม
พร่างพริ้มพรมพิมพ์พักต์
จนประจักษ์แจ้งจินต์
ธานินเนืองนองรัก
ชนสมัครสามัคคี
ทุกชีวีสุขสันต์
รักอนันต์คงอยู่
คู่ทุกผู้ทุกนาม
เร่งรุกลามร่างสุข
สร่างสิ้นทุกข์ท้นเทวษ
แสนวิเศษสัมพันธ์สร้าง
ความว้างลางเลือนสูญ
สิ้นอาดูรโดยรักร้อย
สวมสร้อยสังวาลศรี
มอบมณีวจีหวาน
ก้องกังวาลเสนาะโสต
ปราโมทย์มากปราณี
เปรมปรีดิ์กรุณา
เมตตาตราตรึงจิต
ทุกชีวิตควรอาทร
ริดรอนริษยา
พริบตาอาจบรรลัย
จักปราชัยไปทุกผู้
จงเรียนรู้การอภัย
ให้หทัยห่างอิจฉา
ปลดมายาแห่งเปลือก
อย่าเลือกรักเพียงใคร
อย่าใคร่เพียงกำหนัด
จงขจัดความเคียดแค้น
แน่นแฟ้นไมตรีมาด
หยดหยาดแห่งรักริน
ยลยินเพลงศานติ
ลดอริราชศรัตรู
ร่วมเชิดชูความรัก
สานถักมิตรภาพ
ทอทาบผืนปฐพี
จากนี้นิรันดร์ แลนา
6 กุมภาพันธ์ 2550 07:13 น.
เทวารติกร
ภพอดีตขีดภาพอนาคต
ปลายปากกาจารจรดชะตาชาต
พรหมลิขิตคู่ฤๅแคล้วแล้วแต่วาด
ล้วนยากมาดหมายกำหนดตามกฏกรรม
สมุดชีพชุ่มโชกหมึกโลกอดีต
จารึกรสบทสังคีตครั้งเก่าคร่ำ
มิใช่เพียงพรมหยดหนึ่งน้ำคำ
แต่เพื่อย้ำเพรงกาลวารเวลา
ประตูกาลพานพบบรรจบชิด
แนบสนิทสานสรรค์สิเหน่หา
สร้างสะพานสองภพเพื่อพบพา
อตีตาผลกรรมนำสัมพันธ์
คู่คนคอยคร่ำครวญจึงหวนกลับ
สู่ผลลัพธ์แห่งสัจจาสัญญามั่น
จักจงรักภักดีชั่วชีวัน
แม้อาสัญสูญกายวายวิญญาณ
พลังรักเที่ยงแท้มิแปรผัน
แม้จากกันกฎกรรมยังนำสาน
เพียงอดทนยึดมั่นสัญญามาน
อาจพบพานผูกพันหนึ่งวันใด
จึงสรรค์สร้างร่างกานท์ด้วยสรรเสริญ
ขอพรพระผู้เจริญน้อมกราบไหว้
องค์เทวารติกรเกียรติเกริกไกล
ทรงคงรักมั่นไว้ในโลกา