12 กรกฎาคม 2550 10:27 น.
เทพระวี
มนุษยชาติ
ไฉนลืมเลือนเงื่อนปมของสามัญ
สัมพันธภาพแห่งชายจริง หญิงแท้
เพียงเพื่อสืบพงศ์คงเผ่า
การคัดสรรจากธรรมชาติอันพิสุทธิ์
อย่าปล่อยให้ลีลามหัศจรรย์อันแปลกต่างของชีวิต
เป็นเพียงบทระ บาย ปรารถนาใดๆ
จากจิตใจอันลึกเร้น
การก้าวกระโดดของอารยะ
ฤาที่สุดของมนุษย์นั้น
จักเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทำเทียม
อย่าแปรปรวน อย่า รวนเร
********************************
ด้วยความเคารพ
ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี
11 กรกฎาคม 2550 11:10 น.
เทพระวี
เขี่ยขยะจากร่องสมอง
หยุดเข็มของนาฬิกา
ฟังเสียงเพรียกจากภายในกระซิบถาม
ถึงสายลมแห่งชีวิตของวันพรุ่ง
จักบรรจงพลิ้วมุ่งไปในทิศใด
เพียรผ่านทางไหน
ให้ยิ้มสรวลกับมรสุมแห่งอุปสรรค
ทายทักด้วยไมตรีดุจมิตรสหาย
แม้น้ำตากรีดม่านมาพร่าพราย
หลั่งชโลมรดล้างริ้วรอยบาดแผลแห่งแส้ประสบการณ์
แม้นวัยแห่งความหวังสิโรยลับกลับกลาย
ใจจักผลิตุ่มตาแห่งจินตนาการ
ให้แตกดอกออกช่อรอรับอรุณรุ่งแห่งยุคสมัย
เพียงหยัดชีพเพื่อซึมซับ
ชะตากรรมแห่งชีวภาพ
ตราบวันคืนจะทวงถาม
ให้ยอมจำนน
**********************
แด่การจรไกลอีกครึ่งหนึ่ง
ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี
10 กรกฎาคม 2550 13:54 น.
เทพระวี
ฝากฝนที่ซัดสาด
ฝากเวิ้งหาดและโขดหิน
ฝากสายน้ำและพื้นดิน
ฝากคนสิ้นแรงใจไปเยี่ยมเยือน
กายที่ล้าแรงที่โรยใจโหยอ่อน
งานที่หนักทับซ้อนซ่อนปมเงื่อน
มันรุมสุมกระหน่ำซัดซ้ำเตือน
จำพักเลื่อนผละงานมาเติมไฟ
ให้ธรรมชาติเยียวยารักษาไข้
เสริมเติมไฟเคี่ยวให้เป็นใจใหม่
เป็นใจกล้าใจแกร่งที่แรงไว
สรรค์ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่กายกรำงาน
ยินคลื่นอ่อนโยกหยอกหลอกโขดเขิน
ฟังแล้วเพลินผ่อนคลายหายฟุ้งซ่าน
ตะวันเย็นแนบน้ำอำลาวาร
หมอกค่ำก็โรยม่านทะมึนมา
ลมฝนแผ่วเนื้อจึงรู้หนาว
ฝนเม็ดพราวต้องแสงเทียนมาต้องหน้า
ไอฝนไอชื่นชื้นดวงตา
จักให้ไหลลงเปียกศรัทธาของดวงใจ
ล้อมชีวิตด้วยธรรมชาติ
ล้อมวงพอสาดแสงเทียนไหว
ล้อมวงพอมือที่เอื้อมไป
ล้อมวงล้างใจให้สู้ทน
ให้ราตรีที่เคล้าฝนกระหน่ำบ้าน
ให้ลมดึกโลมผ่านกะไอฝน
ให้หาดหินดินทรายสายน้ำและผู้คน
เป็นหนึ่งเดียวเคี่ยวปนกับดวงใจของศรัทธา
**********************************
แด่การจรไกลอีกครึ่งหนึ่ง
ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี
6 กรกฎาคม 2550 21:42 น.
เทพระวี
แม่หญิง
ภาระแห่งเธอ สามโลก จักก้องเกียรติ์กำจาย
แม่หญิง
แม้น หลั่งโลหิตเพื่อการผลิบานแห่งชีวิต แม่ยอมยิน
แม้น หยาดเหงื่อโลมร่างเพื่อสร้างโลก แม่ยอมยิน
แม้น หยาดน้ำตาหล่นหลั่งเพื่อปลอบประโลมขุนศึก ผู้พ่าย สงคราม แม่ยอมยิน
แม้น กาลเวลาที่หอมหวานแห่ง เธอ พร้อมพลีเป็นทุกข์เข็ญ แม่ยอมยิน
แม่หญิง
น้ำใจอันยิ่งใหญ่ กว้าง กว่า ทะเลน้ำนม แห่งนารายณ์
จักเทิดเธอด้วยเหนือเศียร
ขอคารวะ ด้วย ชีวิต แล วิญญาณ
ขอจุ่งจำเริญด้วยศรัทธา เมตตา แด่ผองผู้ทุกข์ยากที่ว่ายเ วิ้ง วัฏฏะสังสาร
แม่หญิง
แม้นเหน็บหนาวบ้าง ในคืน พายุ คลั่ง
ตะวัน จักเจิดจำรัส รอคอย ครา อรุณรุ่ง แห่ง ยุคสมัย
โปรดรับ
ดวงใจแห่งข้า
ทีพลีบูชาด้วยดวงใจนี้เถิด
ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี
4 กรกฎาคม 2550 20:13 น.
เทพระวี
สวยสีรุ้ง โค้งลง ตรงขอบฟ้า
หลังฝนหลั่ง นกเริงร่า ออกบินว่อน
พุ่มไม้อิ่มน้ำฝนจนเปียกปอน
ผีเสื้อร่อนลิ้มเกสรนานาพันธุ์
แด่คนสีขาวของชาวโลก
ผู้จะลบทุกข์โศกทั้งหลายนั้น
ผู้เพียรงานเพียรงามตามความฝัน
ผู้พลีสุขทุกคืนวันสละตน
วันเวลาก็ผ่านมาด้วยล้าอ่อน
ถ้าเหนื่อยหนักก็พักผ่อนอย่าหมองหม่น
หลับให้อิ่มยิ้มให้ชื่นเถิด จอมชน
ค่อยมารับปณิธาน อันหนักล้นของศรัทธา
เธอหวัง อะไร ในชีวิต
เธอคิด อะไร วันข้างหน้า
เธอมองเห็น มองหาแล้ว หรือยัง
ทอดตาในแผ่นดิน
คนจนทั้งสิ้นเจ็บรั้ง
ระงมร้องทุกข์ ท้อลำพัง
เขาหวังรอใคร ไปผ่อนปรน
เธอ ไงหล่ะ คนสีขาว
ผู้สง่าพร่าพราว เลิศล้น
ไปเถิดไป เช็ดน้ำตา ประชาชน
ที่แบกทุกข์หนักล้น ปนน้ำตา
********************************
********************************
ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี