19 พฤษภาคม 2550 23:12 น.
เทพระวี
ไหลเป็นทางผ่านแก้มหยดแย้มไหล
คือน้ำตาที่อาลัยจากใจหมอง
หยาดเป็นรอ่งรอยช้ำย้ำเนืองนอง
มือทั้งสองเช็ดป้ายไม่วายวาง
กว่าจะผลิ กว่าจะแย้ม ขึ้นบานดอก
กว่าจะมาช้ำชอกดอกร่วงร้าง
กว่าจะหอมละมุนมาสิ้นกลิ่นจากจาง
กว่าจะสร้างดอกกลีบงามมันนานนัก
ร่างกายนี้ ใจดวงนี้ พร้อมพลีให้
เพราะมั่นใจ ในรัก อันแน่น หนัก
ทุกนาที ลีลา ท่าแห่งรัก
แจ่มประจักษ์ ท่วงท่า ดารา VDO....
19 พฤษภาคม 2550 15:59 น.
เทพระวี
(1) จำใจใจจำด้วย จำตน
จำอยู่จำสับสน สติต้อง
จำรับจำจำนน ทั้งหมด
จำเพื่อพ้องพี่น้อง เผ่าพันธุ์
(2) จำเพียรเพียรจำสร้าง เที่ยวทาง
จำบทอดจำขวาง ขัดข้อง
จำก่อก่อจำวาง มัดจำ
จำจดจ้องจำจ้อง จู่โจม
(3) จำเป็นจำแลกด้วย น้ำตา
จำหลั่งไหลรินมา อาบแก้ม
จำยิ่งจำราคา ชีวิต
จำยิ่งจำยิ้มแย้ม ยิ่งจำ
(4) จำโป้จำปดป้อง ลีลา
จำวาดร่ายราคา แข่งค้า
จำคดจำโกงมา มุ่งเก็บ
จำกอบกำช้าช้า สะสม
(5) จำใจใจจำด้วย จำเป็น
จำละ ลด ลำเค็ญ ขัดข้อง
จำสร้างอย่างที่เห็น เป็นอยู่
จำรุก จำร้อนจ้อง จำรวย
-------------------------------------------
แด่ ทุนนิยม
**********************************
19 พฤษภาคม 2550 14:13 น.
เทพระวี
( 1 ) ดินดำน้ำชุ่มชื้น................แผ่นดิน
ดินก่อกำเนิดชีวิน....................วาดหล้า
ดินมาเดือดห่ากิน....................ดินเดือด
ดินแตกดินแล้งล้า..................ลวกร้อนรอนลน
( 2 ) น้ำลึกล้ำหล่อเลี้ยง............สรรพสัตว์
น้ำจากฟ้าลงพัด......................ล่างพื้น
น้ำแห้งเหือดอัตคัด..................ข้นขอด
น้ำจิตจางใจสะอื้น..................จืดแท้ใจคน
( 3 ) ลมวนพัดวูบเวิ้ง................ร้อนคลาย
ลมถ่ายเทมากมาย...................เปลี่ยนให้
ลมปากเป่าละอาย...................ลมปาก
ลมหลอกเล่ห์ร้ายไซร้................มนุษย์ร้ายพ่นลม
( 4 ) ไฟตะวันสาดพื้น.................พสุธา
ไฟโชติเปลวกล้ามา...................เร่าร้อน
ไฟจริตริษยามายา....................มนุษย์
ไฟโลภหลงสั่งซ้อน.................สุ่มซ้อนเพลิงสุม
( 5 ) ธาตุสี่วิปริตร้าย...............ร่างคน
เคล้าคละปะเปปน...................ผิดเพี้ยน
มนุษย์สุดมืดมน................ทมึนม่าน
ใครจักรักบ่งเสี้ยน.....................พิษร้ายภายใน
( 6 ) ดินยังหวังแด่หล้า..................ค่าดิน
น้ำย่อมหวังหลั่งริน........................ค่าน้ำ
ลมโลมทุกชีวิน..........................คลายคลั่ง ค่าลม
ไฟส่องสว่างแสงล้ำ....................เลิศล้ำค่าไฟ.......
*****************
18 พฤษภาคม 2550 00:02 น.
เทพระวี
ความรักผลิบานแล้ว ณ ลานหินผา
ผลิท้า ลม ฟ้า ดิ น ฝน ไฟ
ค่อยงอก ค่อยงาม ตามหัวใจ
ผ่านวันลึกชีพชีวี
ผ่านวันผ่านคืนคลุ้มคลั่ง
หมอกหนา ฝ้าบัง ปีเดือนหลบลี้
ตื่นตุ่มตา นับวินาที
เท่าที่จะผลิ จะแย้มเยือน
เกลียวคลื่นแห่งพายุฤดูใด
หินผาหลับใหล ใจกระจายเกลื่อน
เปียกโชก หนาวเหน็บเตือน
สติตื่น เคลื่อนนิ่งจับนับวัน
กว่าจะผลิ กว่าจะเเย้ม ขึ้นบานดอก
สายลมล้อหลอก ลวงฝัน
เมฆทมึนกั้น ขวางตาวัน
กี่ชั้น กี่ชั้น สูงสับสลับไป
ความรักผลิบานแล้ว ณ ลานหินผา
ผลิท้า ดินฟ้า ลมฝนไฟ
ค่อยงอก ค่อยงาม ตามหัวใจ
ร้อยดอกเป็นมาลัยบูชาครู
17 พฤษภาคม 2550 01:48 น.
เทพระวี
1.เพลงราตรีกรีดร้อง ระงมดึก
เสียงหวีดก้องกรีดลึก ลับเร้น
จากฟ้าขอบไหนนึก หน้านิ่ว
กังวานอยู่มิวายเว้น บี บเค้นหฤทัย
2.ใจเอยเคยคิดบ้าง ไหมใจ
อยากหยุดฟังเพลงใด ที่แท้
ไยภักดิ์จักจั่นเรไร เ ล่นปีก
กี่ดึกกี่ดื่นแม้ ตื่นสู้สังขาร
3.ผ่านเสียงเพียงผ่าวร้อน ลมปราณ
สดับนิ่งในความหวาน ว่างนี้
วังเวงแว่วเวิ้งวาร วงสงบ
พบสัจจะดนตรีลี้ ซ่อนซึ้งเสน่ห์เพลง
4.บรรเลงทั่วหล้าภพ จบไตร
ไร้เลือกทุกข์สุขใ ด หลีกเว้น
ณ รัตติกาลไกล อวกาศ
เสนาะสนั่นปีกเสียดเร้น เ สี ยดห้วงดวงใจ