3 มิถุนายน 2550 21:29 น.
เทพระวี
รัติกาลโรยหม่นหล้า อาลัย
เย็นย่ำเยือนฟ้าบัง บดแก้ว
สนธยาห่มหัวใจ แห่งโลก
ตะวันผ่อนอ่อนล้าแล้ว ล่วงจร
แพรพันธุ์พฤกษ์โบกพริ้ว ลมพรม
ระบายระอุตะวันรอน รุ่มเร้า
เพียรภาวะที่สะสม สรรพสิ่ง
สรรพชีพทนเท้าก้าว เสาะแสวง
เทียวทางเปลี่ยวยิ่งร้าง รางเลือน
ละครหมอกมายาแสดง หยอกล้อ
วิญญาณถกปรัชญาเยือน ย้ำสติ
ยามทุกข์ทนแท้ท้อ ฟั่นเฟือน
พลันพายุสิคลุ้ม คลั่งคะนอง
ตวาดกวาดดาวและเดือน ดับด้าว
มืดกว่ามืดมั่นมอง ชีวิต
ปลอบจิตที่เร้าร้าว ลุกรน
ม่านมายาปิดฟ้า ลวงตา
แสงวิบวอมเวียนวน วาบท้า
เพียงตะเกียงแห่งปัญญา ปรากฎ
ส่องประกายให้ก้าวกล้า ดุ่มเดิน
แม้ตะวันรันทดแล้ว โรยลา
แสงแห่งตะเกียงเผชิญ รับใช้
เปลวประทีปแห่งศรัทธา มวลมนุษย์
ส่องจิตส่องสร้างไว้ ฝากตะวัน
***************************************
(ในราตรีที่ต้องมนต์ " นกเถื่อน " ของท่าน ระพินทรนาถ)
31 พฤษภาคม 2550 14:17 น.
เทพระวี
ดื่มด่ำน้ำพิษ
ลางเลือนมิ่งมิตร
อิสรภาพเมามาย
ดื่มด่ำสีอำพัน
รำพึงรำพัน
ที่มาและที่ไป
ดื่มด่ำอมฤตรส
ริ้วรอยปรากฎ
ลำบากอธิบาย
ดื่มด่ำชีวิต
ล้วนมือลิขิต
ท่วงทำนองไท
ดื่มด่ำตัวเอง
หวาดหวั่นกลัวเกรง
จัดมอดไหม้มลายหาย
ดื่ม ด่ำ ความ ฝัน
ถ้อยคำ จำ นรรจ์
กลั่นร้อยแรงใจ
******************
29 พฤษภาคม 2550 15:02 น.
เทพระวี
ให้ง่ายงามอย่างไร ในชีวิต
ก็ล้วนมือจักลิขิตจักคิดสร้าง
จงถักทอรุ้งฝันอันรางชาง
เป็นเทียวทางย่างเดินเผชิญชะตา
****************************************
เรียนเชิญทุกท่านร่วมต่อกลอนครับ
ด้วยความเคารพ
28 พฤษภาคม 2550 00:23 น.
เทพระวี
เพ่งเปลวเทียนควันธูปลมวูบไหว
หอมกลิ่นไหม้กำจายระบายกลิ่น
เพ่งดวงใจลมหายใจแผ่วผ่อนริน
ดับโสตสิ้นฟังเสียงเพียงภายใน
บริกรรมพร่ำพระคาถาทิพย์
สั่งกระซิบสื่อผ่านธารน้ำไหล
ปล่อยกาละเวลาล่าเลื่อนไป
ข่มจิตให้ไม่ฟุ้งซ่านลนลานหลง
น้อมนำธรรม พึ่งธรรมชาติแนบ
กายอิงแอบสรรพสิ่งสัมพันธ์ส่ง
ชีพโยงชีพ จิตเชื่อมจิต วิจิตรบรรจง
ขอนั่งลงเรียนโลกรู้ด้วยครูธรรม
หวังแววตาตื่นรู้รำลึกสติ
ห้วงสมาธิเพ่งพุทธสุดลึกล้ำ
กรรมใดพบย่อมพรากวิบากกรรม
อโสย้ำอำลาตาเปล่งแวว
ชำระใจอันโสมมแล้วก้มกราบ
ศิโรราบจิตใจผ่องใสแล้ว
สิละกิเศษอันก่อเกิดให้เพริศแพร้ว
หลอมดวงใจดั่งดวงแก้ว แล้วกราบลา....
27 พฤษภาคม 2550 22:15 น.
เทพระวี
๑. อัญเชิญอักขระแต้ม แต่งศิลป์
ขวัญคำระรวยริน รื่นสล้าง
สระวรรณยุกต์ยิน ยลยิ่ง
รวมหนึ่งร่วมร้อยอ้าง ออกศิลป์
๒. อัญเชิญมวลดอกไม้ สวนขวัญ
กอบเก็บเกล็ดพวงพรรณ พฤกษ์ ร้อย
มาร่วมเรียงมาลัยอัน พิสุทธิ์
มอบแด่คนผู้ด้อย ด่างฝัน
๓. อัญเชิญจากฟากฟ้า พญานก
มารื่นเริง เพลงวิหค เสนาะซึ้ง
กล่อมเจ้าหลับแนบอก พักผ่อน
นิทรา ณ. แก้วก้นบึ้ง ปรารถนา
๔. อัญเชิญดาวพราวพร่างฟ้า ฟากไกล
ระยิบระยับทอแสงใส ส่องหล้า
ร้อยดาวเคี่ยวดวงใ จ เป็นหนึ่ง
มณีหนึ่งนี้จรัสจ้า ประดับใจ
๕. อัญเชิญทวยเทพไท้ ทิพยพิมาน
สถิตย์ประทับ ณ . สถาน แห่งเจ้า
ปกปักรักษาสาน ม่านทิพย์
ภัยพิษฤทธิ์ร้อนเร้า บ่ถึง
๖. อัญเชิญขวัญแห่งเจ้า จอมขวัญ
ขวัญมิ่งขวัญคืนวัน สุขไซร้
ขวัญแก้วอย่าหมองฝัน หมองหม่น
ขวัญจิตเจิดจ้าให้ เปล่งขวัญ
***********************