17 มีนาคม 2552 19:01 น.

บนเส้นทางที่เดินคนเดียว

เทพธิดาอเวจี

บนเส้นทางอันแสนจะยาวไกล
ไม่มีใครเดินเคียงอยู่ข้างข้าง
เปล่าเปลี่ยวเดียวดายและอ้างว้าง
หนาวสะท้านทั้งกายและหัวใจ

ชีวิตดำเนินไปอย่างเรื่อย เรื่อย
ชั่งอืดเอื่อยเฉยชาไม่สดใส
ธรรมดาเรียบง่ายทั่วทั่วไป
ทำอะไรไม่สนุกมุขไม่ฮา

หน้าเคร่งครึมเหมือนคนที่ตายซาก
ยากลำบากแบกความทุกข์ขุ่นหนักหนา
แววตาเศร้าหมองใบหน้ามินำพา
ดั่งชีวากล่ำกลืนฝืนทนอยู่ไป

เดินคนเดียวฤทัยช่างเงียบเหงา
ไร้รอยเงาคนเดินคู่อยู่ที่ใหน
ครึ่งหนึ่งของดวงแดอยู่ที่ใด
นานเท่าไรจึงจะพบสบสายตา

กาลเวลาพาใจให้เหี่ยวเฉา
ไร้คนเฝ้าห่วงใยให้ปรึกษา
เจอปัญหาคราใดต้องลุยฝ่า
เผชิญหน้าเพียงคนเดียวอยู่ร่ำไป

ไม่ต้องการผู้ใดมาสงสาร
เวทนาอาทรเพราะอ่อนไหว
ต้องการเพี่ยงหัวใจที่จริงใจ
ไม่ใช่เพียงอารมณ์สงสารกัน

เพราะความสงสารมิยั่งยืน
นานวันคืนหมุนเวียนอาจเปลี่ยนผัน
หากวันใดหมดความสงสารกัน
ในวันนั้นคงหมดรักเช่นกันเอย				
15 มีนาคม 2552 10:52 น.

อย่าประมาทกับชีวิต

เทพธิดาอเวจี

อย่าประมาทว่าตัวนั้นเก่งกาด
ยังสามารถอยู่ได้นานอีกมากโข
ร่างกายนั้นแข็งแรงแกร่งใจโต
ทำคุยโวโอ้อวดว่าอยู่ได้นาน

ถึงอายุปาเข้าไปจะใกล้ฝัง
ก็มิหวั่นลั่นวาจาองอาจหาญ
ว่าตนเองอยู่อีกหลายเพลากาล
ทั้งชำนาญความจำแม่นยำจริง

แต่ใครจะรู้ล่วงถึงสังขาร
ที่พ้นผ่านช่วงเวลาเริ่มถดถอย
กำลังมิสู้ดังครั้งหนุ่มน้อย
ไม่เต็มร้อยเหมือนครั้งก่อนเมื่อเยาว์วัย

แม้กระทั้งหนุ่มสาวอย่าละเว้น
ประมาทเห็นว่าตนยังสดใส
เต่งตึงแข็งแรงกว่าใครใคร
ไม่พ้นอุบัติเหตุคึกคะนอง

โรงศพมีไว้ให้คนตาย
ร่างไร้วิญญาณอาศัยอยู่
ไม่มีใครหนีพ้นเถ้ากระดูก
ตั้องถูกเผาสิ้นเมื่อชีวาวาย				
14 มีนาคม 2552 17:32 น.

ความหึงหวง

เทพธิดาอเวจี

ความหึงหวงคืออารมณ์บ่มนิสัย
ดุจดั่งภัยใกล้ตัวมองไม่เห็น
มันกำเนิดเกิดในจิตคิดลำเค็น
ช่างยากเย็นจะหยั่งรู้ดวงฤทัย

ใครจะรู้หน้าซื่อใสบริสุทธิ์
งดงามดุจนางฟ้านภาสวรรค์
ดั่งเทพบุตรลงมาจุติพลัน
ข้างในนั้นมืดมนหม่นหมองมัว

ด้วยอำนาจด้านมืดในจิตใจ
ที่ทำให้กำเนิดเกิดหึงหวง
สะสมเป็นริษยาพาหลอกลวง
ดิ่งลงห้วงอเวจีทุกทีไป

จะเกิดสุขในจิตใจอย่างไรเล่า
ถ้านำเอากองไฟมาสุมใส่
เผาไหม้ใจเราอยู่ร่ำไป
แล้วเมื่อใดจะสงบสุขร่มเย็น				
10 มีนาคม 2552 12:56 น.

จากละครสู่กลอน สาปภูษา

เทพธิดาอเวจี

วาจาหว่านล้อมมาอ้อมโอบ
เล้าโลมโปรดความงามเจ้าศรีเกตุ
ปากหวานล่ำคำสัญญาว่าชัดเจน
ทำบรรเลงรักจริงหวังแต่งนาง

เมื่อดมดอมสุขสมอารมณ์หมาย
ก็กลับกลายเป็นความหยาบต่ำช้า
ละทิ้งนางศรีเกตุไปช้ำอุรา
คำสัญญาแค่ลมปากจากคนเลว

นางศรีเกตุเสียใจด้วยช้ำรัก
มาสลัดประหัตประหารสลายสิ้น
ยังถูกเหยียบย่ำซ้ำเติมเกินกลืนกิน
ว่าเจ้าหญิงต่ำศักดิ์จากต่างแดน

ช่างใจร้ายเหลือแสนชายที่รัก
จะแต่งกับหญิงอื่นยื่นสวมแหวน
นำผ้ามาให้นางปักจนเจ็บแค้น
ทนนั่งแทงเข็มปักผ้าทุกข์ระทม

นางศรีเกตุสุดจะทนอดไม่ไหว
ว่าทำไมชีวิตข้าเป็นเช่นนี้
จึงหยดเลือดลงคำสาปในทันที
ผู้ใดมีผ้าผืนนี้ต้องบรรลัย				
4 มีนาคม 2552 17:22 น.

หน้าซื่อใจคต

เทพธิดาอเวจี

บางคนทำดีอยู่ข้างหน้า
กล่าววาจามีน้ำใจให้ผ่องศรี
ช่วยเหลือเกื้อกูลมอบไมตรี
มารยาทดีใครเห็นก็เอ็นดู

เพื่อได้มาในสิ่งที่วาดหวัง
ทำปิดบังความจริงที่ซ่อนอยู่
คือประโยชน์ผู้ใหญ่ท่านนั้นอุ้มชู
ใครจะรู้ที่อุ้มชูคืองูพิษ

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก
ฤทธิ์งูชักออกแผลงแสดงผล
คนดีกลับไม่ดีอย่างที่ผ่านพ้น
แสดงตนทาสแท้แน่ตัวจริง

ความเคารพอยู่ที่แห่งหนใหน
ความใส่ใจเคยมอบให้นั้นสูญสิ้น
เหลือเพียงความเฉยชาทำดูหมิ่น
ทำเป็นหยิ่งถือตัวไม่สนใคร

สนแต่เหล่าเผ่าพงตนเท่านั้น
ว่าต้องมั่นคงทนเจริญไกร
ส่วนคนอื่นต่างสายเลือดช่างปะไร
แม้ดองไว้เป็นญาติก็แค่ดอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพธิดาอเวจี
Lovings  เทพธิดาอเวจี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเทพธิดาอเวจี