25 กุมภาพันธ์ 2552 11:33 น.
เทพธัญญ์
กระท่อมน้อยบนดอยใหญ่ ไร้ชีวิต
ดูมืดมิด จิตเหว่ว้า น่าใจหาย
ดอยก็หม่น คนก็เศร้า เหงามิคลาย
น้องจากเหนือเมื่อปีกลาย หลายเวลา
แม่ดอกเอื้องเมืองหนาว สาวแรกแย้ม
ผลิดอกย้อยคอยแต่งแต้ม แซมภูผา
พึ่งแตกสาวเจ้าก็พราก จากบ้านมา
เข้าเมืองกรุงมุ่งสู่ฟ้า ลา ยอดดอย
เก็บเสื้อผ้า ลาแม่พ่อ ขอพรพระ
ด้วยใจนี้มีมานะ จะไม่ถอย
หวังเงินตรา มาจุนเจือ เพื่อคนคอย
ลงจากดอย กลอยเดินสู่ประตูวัง
ด้วยความหวัง ดั่งแสงทอง ของวันใหม่
ด้วยหัวใจ ใสและซื่อ ถือความหวัง
ความลำบากต้องพรากถิ่น บินจากรัง
สู้ลำพัง ในวังวน คนต่างใจ
เข้าเมืองกรุง มุ่งหางาน สานฝันต่อ
แม่ดอกอ้อ กอหวาน บานสดใส
ถูกจิ้งจอก หลอกขายร่าง สร้างกำไร
ต้องจำใจ ใช้ร่างกาย หมายเงินตรา
เป็นดอกเอื้อง เปลื้องผ้าผ่อน นอนแลกทรัพย์
อยู่ในผับ กับผู้ราก มากตัณหา
สนองใคร่ ให้ผู้ชาย คลายกามา
ใช้เงินตรา มาแลกร่าง สร้างสำราญ
น้ำตาหยด รดหัวใจ ใครจะรู้
ต้องทนสู้ อยู่เหว่ว้า น่าสงสาร
อยู่กับวัน อันโหดร้าย หลายชั่วกาล
ใจร้าวราน ผ่านความเจ็บ เหน็บอุรา
เพราะความจน คนอยู่หลัง ยังทุกข์ยาก
ด้วยลำบาก ใช่อยากได้ ใคร่ตัณหา
ไม่อยากทำ จำต้องกลืน ฝืนอุรา
หวังเงินตรา มาจุนเจือ เพื่อครอบครัว
แม่ดอกเอื้องเมืองหนาว สาวดอยซื่อ
อะไรหรือ คือความฝัน อันสลัว
แม้สุดท้าย ปลายทางฝัน นั้นน่ากลัว
จะดีชั่ว ตัวเจ้าพร้อม ยอมรับมัน
นี่นะหรือ คือรางวัล อันทรงค่า
ที่ได้มา น้ำตาพราก จากความฝัน
ต้องเจ็บป่วย ด้วยโรคร้าย วายชีวัน
จบความฝัน อันขื่นขม ตรมอุรา
สิ้นดอกเอื้องเมืองหนาว สาวลาโลก
ทิ้งความโศก จากโลกไป อยู่ไหนหนา
เจ้าหมดเคราะห์ เพราะโรคร้าย วายชีวา
เอื้องจากไปไม่กลับมา หาคนคอย
ดอยคงหม่น คนเฝ้ารอ ก็โศกเศร้า
ลมหวนไห้ไพรก็เหงา เขาก็หงอย
เอากระดูก ผูกผ้าขาว สาวเอื้องดอย
คืนกลับมาหาคนคอย ดอยคร่ำครวญ
กระท่อมน้อยกลางดอยดง คงรกร้าง
เหน็บน้ำค้าง กลางลมหนาว คราวลมหวน
ไม่มีแล้ว แก้วกลางดอย กลอยไม่ทวน
สายลมครวญ หวนไห้ ไร้วิญญาณ
10 กุมภาพันธ์ 2552 11:12 น.
เทพธัญญ์
สามสิบเธอยังสวย รวยเสน่ห์
ยังเที่ยวเร่ เสน่ห์ร้าย ให้ชายหลง
ดูเปล่งปลั่ง ดั่งสาวน้อย ร้อยรำวง
ใครก็คง หลงมายา คราได้มอง
แม่มะพร้าวเนื้อตัน มันทั่วร่าง
นวลเนื้อนาง ช่างงามงด หมดความหมอง
ผิวเนียนนวน ชวนหลงใหล ให้ใฝ่ปอง
อยากแตะต้อง ลองโลมไล้ ให้ทั่วเรือน
เสน่ห์เจ้า สาวเยาว์วัย ไม่อาจเทียบ
เรื่องกามาอย่ามาเปรียบ เทียบเสมือน
ลีลาเร้า เย้ายวนใจ ไม่ลบเลือน
ไม่คลาดเคลื่อน เหมือนอายุ ครุดั่งไฟ
ยามเดินย่าง ช่างเอนอ่อน ร่อนดั่งหงส์
หุ่นชะอง ทรงสง่า น่าหลงใหล
เดินโยกย้าย ส่ายสะโพก โยกมาไป
วาบหวามใจ ในท่วงท่า ลีลาพราว
ปทุมถัน ชันชู ดูเต่งตึง
อยากเคล้าคลึง คะนึงแอบ แนบเนื้อสาว
สวยสะพรั่ง ดั่งไฟลุก สุกสกาว
สามสิบปีนี้ยังพราว สาวกว่าวัย
รสเสน่ห์ เล่ห์แพรวพราว สาวสามสิบ
เหมือนได้จิบ ทิพย์สุรา น่าหลงใหล
กลิ่นพะยอม หอมรัญจวน ชวนจิตใจ
ถึงสวรรค์ชั้นคาลัย หากได้ยล
*** คำเตือน กลอนออกแนวอีโรติกนิดนึง แต่ขอให้มองเป็นศิลปะ
-อายุต่ำกกว่า 30 ปี ควรมีผู้ปกครองแนะนำ
จากใจผู้แต่ง