23 กรกฎาคม 2548 13:15 น.
เถ้าธุลี
หัวใจดวงหนึ่ง
กับวันซึ้งซึ้งที่เลยผ่าน
หัวใจดวงนั้นเมื่อวันวาน
ได้พบเจอแต่ความหวานทุกทุกวัน
หัวใจหนึ่งดวง
เฝ้าห่วงหวงเฝ้าดูแลไม่เปลี่ยนผัน
เพราะหัวใจดวงหนึ่งดวงนั้น
อาจสูญสลายไปตามวันและเวลา
หัวใจก็เป็นเช่นกระดาษ
จะวาดเขียนอะไรไปก็ได้หนา
แต่ความระวังต้องมีให้มากกว่า
ควรรู้ว่ามันบอบบางกว่าอื่นใด
บรรจงสร้าง บรรจงสรร บรรจงเขียน
แต่ก็ต้องเรียนรู้ให้ดีก่อนเผลอไผล
เผลอทำร้ายทำอะไรรุนแรงลงไป
อย่าเพิ่งคิดได้เมื่อหัวใจสูญสิ้นลง
19 กรกฎาคม 2548 19:50 น.
เถ้าธุลี
เดินผ่านร้านเดิมที่เคยนั่ง
ได้ยินเพลงเคยฟังเมื่อวันเก่า
มองหนังสือยังมีชื่อของสองเรา
บรรยากาศเหงาเหงาเหมือนเคยเป็น
ภาพเดิมเดิมเคลื่อนผ่านดูเคยคุ้น
ความทรงจำอันอบอุ่นยังมองเห็น
ยังคงอยู่ในเบื้องลึกอันหนาวเย็น
ในจิตใจคนที่เป็นเพียงวันวาน
จะมองเห็น จะได้ยิน จะสัมผัส
ภาพวันเก่ายังแจ่มชัดแม้วันผ่าน
ไม่จางหาย ไม่เปลี่ยนผัน ไปตามกาล
แม้ความหวานเลือนไปกลายขมแทน
18 กรกฎาคม 2548 10:50 น.
เถ้าธุลี
แม้อยู่ใกล้แต่ใจกลับคิดถึง
ยังดื้อดึงแม้รู้ไร้ความหวัง
เสียงเต้นของหัวใจยังก้องดัง
ความคิดยังดันทุรังไม่เปลี่ยนแปลง
ความเปลี่ยนไปตามเวลาที่เคลื่อนผ่าน
ความร้าวรานที่เพิ่มพูนคอยแอบแฝง
เก็บซ่อนอยู่ในจิตใจอย่างรุนแรง
แม้หัวใจไร้แสงยังเฝ้ามอง
เคยเป็นอย่างไรยังอย่างนั้น
ยังติดอยู่ในภาพฝันของเราสอง
แต่ก็ได้แค่คิดฝันไม่อาจต้อง
แค่จ้องมองอยู่แสนไกลอย่างเงียบงัน
เธอจะทำสิ่งใดฉันไร้สิทธิ์
ไม่อาจคิดแม้หัวใจไม่เปลี่ยนผัน
ไม่อาจมีความหึงหวงหรือผูกพัน
แต่ยังดื้อดึงดันแม้รู้ดี
18 กรกฎาคม 2548 10:45 น.
เถ้าธุลี
ใช่ว่า นิ่งเงียบ จะเยือกเย็น
ใช่ว่า แค่เห็นแล้ว ตัดสินได้
ใช่ว่า แค่ดู แล้วรู้ ถึงข้างใน
ใช่ว่า อยู่ใกล้ จะรู้ถึงความจริง
ทุกสิ่ง ฤาเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ฤาจะคาดเดาเหตุจากทุกสิ่ง
การดำเนินความเป็นไปไม่หยุดนิ่ง
ล้วนไร้ซึ่งความจริงเพียงหลอกลวง