30 กันยายน 2544 10:14 น.
เด็กเมืองยศ
มือเขาเราเห็นยกขึ้นไหว้
แต่ในใจอาจไม่เหมือนที่เห็น
แผนการร้ายหลายหลากประเด็น
พาลำเค็ญหากเชื่อตามสายตา
อ่อนแอจะแพ้พลาด
หากประมาทอาจเสียจนสิ้นท่า
คนโกงเฝ้ารอคอยวันเวลา
แสวงหาประโยชน์มาใส่ตน
30 กันยายน 2544 10:03 น.
เด็กเมืองยศ
.............ยาดีขมปากเหมาะแก่การรักษา
วาจาขัดหูเหมาะแก่การปฏิบัติ..........
30 กันยายน 2544 09:44 น.
เด็กเมืองยศ
คนอื่นเขาอยากให้เราเป็นคนดี
แต่พอทำความดีเข้าเขาหมั่นใส้
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน
29 กันยายน 2544 23:59 น.
เด็กเมืองยศ
เหม่อมองฟ้าเพื่อหาซึ่งคำตอบ
ใจฉันชอบหรือชังชีวิตหนอ
จะกอบโกยหาความสุขหรือจะพอ
เป็นผู้ขอหรือผู้ให้หนอใจนาย
บางทีนั่งท่องไปกับความคิด
ทำไมจิตสับสนซนเหลือหลาย
เกือบจะพลาดขาดสติประครองกาย
ไม่เข้าใจชีวิตที่เกิดมา
มีคำกล่าวชีวีนี้คือทุกข์
ฉันจะสุขเมื่อไหร่ในเบื้องหน้า
หรือจะทุกข์ชอกช้ำระกำอุรา
เสียดายที่เกิดมาเป็นคน
พุทธองค์ทรงตรัสสัจพจน์
ถือกำหนดสุขมีทุกแห่งหน
เพียงแต่ใจไม่มีกิเลสปน
จึงจะสูงกว่าคนเป็นมนุษย์
อย่าโลภ โม โทสันต์กระหายอยาก
ต้องตัดเสียสิ้นซากจนสิ้นสุด
รักษาสมดุลดั่งคำพุทธ
รับและให้อย่าหยุดเท่าเท่ากัน
....................เด็กเมืองยศ..............
29 กันยายน 2544 23:26 น.
เด็กเมืองยศ
ฝนตกไม่เลือกหล้าแหล่ง ตกไปทุกแห่งทั่วหล้า
ชุ่มฉ่ำสดชื่นในอุรา ฝนมาน้ำมีกินถิ่นอุดม
ฝนตกมากน้อยแล้วแต่ฝน เราเป็นคนมิอาจทำให้สาสม
ลอยผ่านม่านฟ้าด้วยสายลม หนักหน่วงพ่วงลมหล่นไป
เม็ดเล็กเม็ดน้อยย้อยหยด ลงพื้นพสุธาหมดไม่ไปไหน
จากสายน้ำน้อยน้อยรินเรื่อยไป เป็นมหานทีใหญ่ในพริบตา
ห้วยหนองคลองบึงลำละหาน สายธารซึมซับจากป่า
โขดหินดินน้ำตามเวลา ไหลลงสู่มหาสมุทรไป
ข้อคิดเห็นแม้เป็นตามกำหนด มิอาจลดการรับฟังลงได้
มหาสมุทรเค็มเต็มด้วยน้ำไป แต่หมื่นนทียังไหลไม่มีเต็ม
ความกรุณาปราณีต่อสัตว์โลก เหมือนฝนตกแม้น้อยเท่าปลายเข็ม
เมื่อปลายหลายหลากรวมอาจเต็ม มหาสมุทรเค็มใหญ่ได้ด้วยสายธาร
รักใดใหญ่เท่ารักพ่อแม่ ความจริงใดเที่ยงแท้เท่าสูญสังขาร
ความยิ่งใหญ่ไม่สู้หมื่นจักรวาล ไม่ตามใจสันดานประเสริฐจริง
...................เด็กเมืองยศ...............