25 เมษายน 2549 17:51 น.
เด็กอยากศิลป์
ฟ้าข้างบนยังเป็นผืนเดียวกัน
ฟ้าผืนนั้นที่มันดูกว้างใหญ่
มีคนอยู่ใต้ผืนฟ้ามากมาย
มองแหงนขึ้นไปยามที่ใจทุกทน
แล้วโทษฟ้าว่าทำไมไม่เมตตา
ให้เกิดมายากลำบากแสนสับสน
คนยากมีมากมายล้วยปะปน
เพราะว่าความขัดสนนั้นจงใจ
หากว่าฟ้ายังเมตตา
ขอเถิดหนาสิ่งมาบรรเทาทุกข์
ฟ้าบอกว่าตัวเธอยังไม่ทำถึงที่สุด
แล้วจะขอสิ่งทีบรรเทาทุกข์นั้นไม่มี
24 เมษายน 2549 19:04 น.
เด็กอยากศิลป์
ในห้องเปล่ามีหญิงสาวอยู่
ฉันมองดูเธอนั้นยังคงเหงา
ตัวของฉันสัมผัสได้กับความเศร้า
บวกกับความเหงาที่รุมเร้าจิตใจ
สายตาเธอโรยราดูอ่อนล้า
เหมือนกับว่าไม่รู้ว่าไปทางไหน
ห้องเริ่มมืดมองไม่เห็นไม่มีใคร
ตัวเธอยังคงนั่งมองออกไปยังหน้าต่างบานเดิม
โลกข้างนอกนั้นเป็นอย่างไร
ดูชั่งสดใสสว่างกระจ่างฝัน
สิ่งเดียวที่ยังคอยอยู่ฉุดรั้ง
คือเงามืดเบื้องลึกของเธอนั้นที่ดึงไว้
24 เมษายน 2549 18:52 น.
เด็กอยากศิลป์
ถามว่าวันนี้ฉันเหนื่อยไหม
ตอบว่ายังไม่เท่าไหร่ยังสู้ต่อ
ในเมื่อยังมีกำลังอยู่มากพอ
ก็ยังพอทำได้เรื่อยๆไป
ในวันนี้ยังพอมีแรงกาย
แต่แรงใจชักหดหายไปไหนนั่น
อยากมีคนให้แรงใจในทุกวัน
ชีวิตฉันคงเป็นดั่งที่ต้องการ
หลายสิ่งในชีวิตนั้นเปลี่ยนผัน
แล้วมันทำให้ทุกอย่างอ่อนไหว
แต่เมื่อฉันมีเธออยู่ให้กำลัง
ทุกสิ่งล้วนผ่านไปได้ด้วยดี
ถึงเราห่างแต่ใจไม่เคยห่าง
ยังคงตามคิดถึงพึงห่วงหา
ยังเก็บเธอไว้ในใจตลอดเวลา
ยังคิดถึงและห่วงหาเหมือนเคย
23 มีนาคม 2549 18:16 น.
เด็กอยากศิลป์
คือเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา
คู่กับเวลาที่ผ่านเลยไป
มองสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาใหม่
ก็ไม่มีทางไหนที่จะสนใจได้เลย
จมอยู่กับคำว่ารอ
รออะไรหน่ะหรอ ตัวตนฉันไง
พบเมื่อไหร่จะปิดซอยเลี้ยงฉลองเลยไง
เอาหน่า ถึงไงก็ยังไม่สายที่จะรอ
ก็ชิวๆไป เรื่อยของเรา
และยินดีกับคนที่เขาเจอตัวตนคนใหม่
ฉันเป็นตัวฉันไม่อยากใส่ใจให้มันวุ่นวาย
โปรดเถิดเธอตามสบายอย่าได้บังคับกัน
18 มีนาคม 2549 19:32 น.
เด็กอยากศิลป์
เรื่องราวผ่านไปทุกวัน
ความฝันนั้นก็คงเอนไหว
ตัวฉันเมื่อไหร่จะเข้าใจ
ว่าสิ่งที่ผ่านไปนั้นไม่มีทางย้อนมา