1 เมษายน 2547 00:38 น.
เด็กบางขุนเทียน
อยู่ต่อหน้าหมาตัวนี้ไม่มีปาก
ไม่พูดมากไม่ลีลาไม่ก๋ากั่น
ทำหางหลุบตูบหูดูสำคัญ
เหมือนว่ามันซื่อสัตย์กว่าสัตว์ใด
แต่พอขยับลับหลังเพียงย่างก้าว
ไอ้สามหาวก็ขยับแอบงับใส่
ที่เคยรักเคยหวังเคยวางใจ
กลับทำให้บาดเจ็บต้องเจ็บจำ
ยังดีที่มีเพื่อนไม่เหมือนหมา
ดีต่อหน้าดีลับหลังวันยังค่ำ
เรื่องของการลอบกัดสัจธรรม(สัตว์-จะ-ทำ)
เป็นเรื่องสำหรับหมาอย่าไปกลัว
1 เมษายน 2547 00:15 น.
เด็กบางขุนเทียน
ฝนกำลังตั้งเค้าแผ่เงามืด
ต้นไม้ยืดกิ่งโน้มตามลมส่ง
กระไอดินกลิ่นเดิงเริ่มเย็นลง
ฝ้าฝุ่นผงขยายคลี่ม่านสีเทา
กลับมาถึงที่นี่ที่เคยนัด
มาสัมผัสรอยฝันของวันเก่า
หลับตตาหลบฝุ่นที่คว้างยังเห็นเงา
เหมือนกับเฝ้าความหลังที่ฝังใจ
มือเธอปล่อยจากฉันเมื่อวันก่อน
มมือฉันอ่อนเกินกว่ารั้งมาได้
มือที่สามเอื้อมมาจึงคว้าไป
ปล่อยฉันให้เคว้งคว้างอยู่กลางฟ้า
ธรรมชาติเป็นไปตามธรรมชาติ
แต่ฉันกลับเป็นทาสความปรารถนา
ธรรมชาติทำลายล้างแล้วสร้างมา
แต่เธอฆ่าอย่างเดียวไม่เหลียวแล
มายืนต้านพายุที่ดุร้าย
ทนฝนสาดที่ทุกสายดั่งปลายแส้
รักเธอดับกับฉันแล้วผันแปร
เป็นรักแท้กับคนอื่นชื่นสินะ
เทอารมณ์ออกละลายกับสายฝน
ประชดคนหลายใจเสียให้สะ
จากปลายผมถึงปลายเท้าเอาฝนชะ
แล้วฉันจะหลายใจบ้างเหมือนอย่างเธอ
1 เมษายน 2547 00:02 น.
เด็กบางขุนเทียน
อย่าพบกันดีกว่าถ้าไม่รัก
อย่ามาทักกันดีกว่าถ้าต้องฝืน
ทุกทุกอย่างฉันเต็มใจจะให้คืน
ถึงขมขื่นใจบ้างก็ช่างใจ
ดีกว่าการเสแสร้งแสดงออก
ดีกว่าหลอกลวงกันเชื่อฉันไหม
ทุกทุกสิ่งนับวันจะผ่านไป
ถึงห้ามไว้ก็ไม่อยู่ฉันรู้ดี
ถ้าไม่ลืมก็อย่าให้ใจคิดถึง
สักวันหนึ่งคงลืมได้เชื่อไหมนี่
ถ้าจะเมินก็อย่ามองขอร้องที
ฉันศักดิ์ศรีเธอศักดิ์สาวค่าเท่ากัน
คิดว่าเห็นเสาไฟหรือไม้ประดับ
ใช้สำหรับตอนเผลอเดินเจอฉัน
คิดว่าเปลี่ยนรองเท้าคู่นั้น
สำหรับวันสายสวาทตัดขาดลง
สอนเธอทำฉันก็ทำเหมือนคำสอน
ทิ้งมนต์กลอนทอนมนต์รักไว้ศักดิ์หงส์
ช้ำใจบ้างก็ช่างใจไม่พะวง
หวังว่าคงไม่ฆ่ากันด้วยการเมิน
ไม่พบกันดีกว่าถ้าไม่รัก
ไม่ต้องทักดีกว่าถ้าต้องเขิน
เมื่อต่างใจก็ต่างเส้นทางเดิน
หากบังเอิญพบกันก็เพียงมองตา