9 กันยายน 2552 02:23 น.

เทียนไข.. กับชีวิต

เด็กกล่อง

มีครั้งนึงที่บ้านไฟดับ ฝนตก ลมแรง

..แรงจนอาคารไหว..

นั่งดูทีวีอยู่เพลิน ๆ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครเอาถุงสีดำมาคลุมหัว

มืดขนาดนั้น (รึตัวเองขาดวิตามินก็ไม่รู้)

อยู่บ้านคนเดียวอีกต่างหาก

คิดดูสิ ผู้ชายตัวน้อย ๆ ถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว แถมไฟดับ อะไรมันจะซวยขนาดนั้น

รอซักพักให้ตาเริ่มชินกับความมืด แล้วก็เดินคลำ ๆ ไปหาเทียนไข เตะนู่นเตะนี่ไปตามทาง (เตะราวแขวนผ้าล้มอีกต่างหาก คิด

ในใจว่า พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นมาเก็บ ไม่งั้นโดนเล่นแน่ ๆ กรู)

ยังดีที่ซื้อเทียนไขเก็บไว้ตั้งแต่ครั้งทำค่ายพัฒน์ อันใหญ่ยังกะเทียนพรรษา (คนทำค่ายคงนึกออก ขนาดเดียวกับที่ใช้เปิดใจคืนสุด

ท้าย)

พอเจอเทียน ให้ตายเถอะพระคุณรุนช่อง ดันไม่มีไฟแช็ค จะจุดกะเตาก็ไม่ได้ บนคอนโดห้ามใช้เตาแก๊ส

คลำเข้าไปในห้องพ่อ บุญแท้ ๆ ที่เจอไม้ขีดกลักนึง ไม่รู้เก็บไว้ตั้งแต่สมัยไหนแล้ว

จุดเทียนเสร็จแล้ว ถือเทียนกลับมานั่งที่เดิม (แล้วจะจุดหาพระแสงอะไร)

เลยได้โอกาสนั่งคิด...

-----------------------------------

เทียนไข.. มีความพิเศษในตัวมันเอง

ให้ความสว่างกับคนที่ถือมัน ปกป้องและดูแลมันเท่านั้น

ถ้าเราเดินถือเทียนแบบไม่ป้อง ซักพักเทียนก็จะดับ

.. ดับเพราะลมที่เกิดจากการเดินของเรา ..

บางอย่างในชีวิตของเราก็เหมือนเทียนไขเล่มเล็ก ๆ เล่นนึง

ถ้าเราจุดมันขึ้นมา มันก็จะให้ความสว่างกับเรา ในยามที่เราต้องอยู่ในความมืด

แต่ถ้าเราไม่รักษามัน ไม่ดูแลมันไปตลอดการเดินทางของเรา

.. ซักพักมันก็จะดับ ..


แล้วคุณล่ะ?

เจอเทียนเล่มนั้นแล้วหรือยัง?

แล้วถ้าเจอ..

คุณจะดูแลมันไปตลอดการเดินทางของคุณหรือเปล่า				
31 พฤษภาคม 2552 12:14 น.

Thank you...

เด็กกล่อง

Leaving you once was hard enough, to have done it the second time would have been impossible. 
I loved you too much to have let you go again. Though I'm still grieving over what might have been, 
...find myself thankful that you came into my life for even a short period of time. In the beginning, 
I'd assumed that we were somehow brought together to help me through my time of grief. 
Yet now, four years later, I've come to believe that it was the other way around.

Ironically, I was in the same position I was in the first time we met. 
As I write, I am struggling with the ghost of someone I loved and lost. 
I now understand more fully the difficulties I was going through, 
and I realized how painful it must have been for me to move on. 

Sometimes, my grief is so overwhelming, and even though I understand 
that we could never see each other again, there is a part of me that wants 
to hold on to you forever. Yet, this is the paradox: 

Even though I miss you greatly, 
it's because of you that I don't dread the future. You taught me that it's
possible to move forward in life, no matter how terrible your grief. 
And in your own way, you've made me believe that true love cannot be denied.

Right now, I don't think I'm ready ... but this is my choice. 
Do not blame yourself. Because of you, I am hopeful that there will 
come a day when my sadness is replaced by something beautiful.
Because of you, I have the strength to go on.

I will sense your presence everywhere.
When I listen to the ocean, it will be your whispers; when I see a dazzling sunset,
it will be your image in the sky. You are not gone forever, no matter who comes into my life. 
You are standing alongside my soul, helping to guide me toward a future that I cannot predict,.


It is better to have loved and lost, than never to have loved at all. Maybe we're not meant to be together in this lifetime. 
But if by chance we meet again in our next life, I promise I will never let you go.... 

Thank you ... for being...


----------------------------



*Rearrange from multiple of sources*				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กกล่อง
Lovings  เด็กกล่อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กกล่อง
Lovings  เด็กกล่อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเด็กกล่อง
Lovings  เด็กกล่อง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเด็กกล่อง