29 มกราคม 2547 20:50 น.
เดะบ้า
ฉันเป็นใคร ตัวฉันย่อมรู้ดี เด็กหญิงขี้แย ขี้งอน ดื้อรั้น ไม่มีความมั่นใจ หวาดกลัว สิ่งเหล่านี้คือฉัน แต่เมื่อฉันได้ก้าวมาอยู่ในอีกสังคมหนึ่ง มีหลายอย่างสอนฉันให้ต้องปิดบังในสิ่งที่ฉันเป็น จากที่ฉันเคยเป็นตัวฉัน ฉันต้องปรุงแต่งบางอย่างให้มาปิดบังความอ่อนแอในตัวฉันทั้งสิ้น ภาพที่คุณเห็น ดูเหมือนว่าฉันเข้มแข็ง ฉันเป็นผู้นำ ฉันทำได้ทุกอย่าง นั้นมันคือสิ่งที่แต่งแต้มไว้ เป็นเกราะกำบังไม่ให้ใครมาทำร้ายฉัน แต่ถ้าใครได้รู้จักฉันจริง ๆ แล้ว ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีความเป็นผู้หญิงอย่างครบถ้วน ไม่ได้เข้มแข็งเกินผู้หญิงคนใดเลย อาจจะอ่อนแอกว่าทุก ๆ คนด้วยซ้ำไป
แต่วันนี้ที่ฉันมายืนอยู่ตรงนี้ได้ ก็เพราะเพื่อน เพื่อนเป็นพลังแรงใจทำให้ฉันได้เข้มแข็ง วันใดที่ฉันมีความสุขอยู่กับเพื่อน สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาไม่เคยหวั่นไหว ฉันไม่กลัว ถึงแม้ในใจกำลังเต้นด้วยความหวาดระแวง แต่ร่างกายได้แสดงออกเต็มที่ ว่าฉันเข้มแข็งนะเมื่อมีเพื่อน ๆ อยู่ข้าง แต่ถ้าวันใดที่ฉันต้องเข้าใจผิดกับเพื่อน ตอนนี้แหละคุณจะเห็นฉันอ่อนแออย่างที่สุด จากราชสีห์ที่องอาจ กลับกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ มันแตกต่างกันมากเลย แต่นั้นคือตัวฉัน เมื่อขาดแรงใจ ขาดพลังจากเพื่อน สิ่งที่เป็นตัวฉันมันจะกลับมา "ทุกคนหนีความเป็นตัวของตัวเองไม่ได้หรอกนะ ถึงจะแต่งแต้มตัวเองให้เป็นอย่างไร สุดท้ายเมื่อเราทุกข์ใจ หรืออ่อนล้ากับสิ่งต่าง ๆ สภาพของความเป็นตัวเรามันจะกลับมา ฉันพยายามไม่แต่งแต้มความเข้มแข็ง แต่กำลังพยายามเปลี่ยนความอ่อนแอให้เป็นความเข้มแข็งแทน มันทำยากกว่ามาก ที่จะเข้มแข็งตลอดไป ไม่อ่อนแอให้ใครเห็น แต่ความเข้มแข็งนี้มันจะอยู่กับฉันถาวร
ไม่เหมือนอย่างตอนนี้ ฉันกำลังอ่อนแอ ฉันขาดกำลังใจ ขาดพลัง เหนื่อยนะที่ต้องทำอะไรไม่ใช่เป็นตัวของตัวเอง ฉันนับถือคนที่เปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรบางอย่าง อย่างความรักทำให้คนเปลี่ยนไปเป็นอีกคนโดยคาดไม่ถึง ฉันว่าความรักเป็นพลังอย่างหนึ่งที่ทำให้คน ๆ นั้นเปลี่ยนได้ การเปลี่ยนตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉันเปลี่ยนได้แค่ชั่วคราว ตอนฉันมีกำลังใจจากเพื่อน ๆ เท่านั้น ฉันไม่อยากให้ใครมาผิดหวังในตัวฉัน อยากให้เพื่อนได้รู้สึกว่า ฉันเป็นที่พักพิงที่อบอุ่น ดุจขุนเขาที่แข็งแรงถาวร แต่ความจริงฉันเป็นเพียงไอน้ำ ที่อยู่กับเพื่อนก็กลายเป็นก้อนเมฆให้ดูแข็งแรงก็เท่านั้น แต่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้หรอก
ฉันก็แค่ไอน้ำ ที่บางวันก็เป็นไอน้ำที่อ่อนแอ บางวันก็เป็นก้อนเมฆที่เข้มแข็ง ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่พร้อมจะเข้มแข็งเมื่อมีเธอนะ ฉันจึงขาดเธอไม่ได้ เพื่อนรักของฉัน
29 มกราคม 2547 20:35 น.
เดะบ้า
อกหักดีกว่ารักไม่เป็น คุณรู้จักกับคำนี้ใช่ไหม ฉันก็กำลังอกหักนะ แต่มันจะแตกต่างกับคนอื่นก็ตรง ฉันอกหักทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้รัก คุณคงจะงงว่ามันเป็นอย่างไร ก็ฉันอกหัก เพราะ....
ฉันแอบรักเขาข้างเดียวนะสิ ฉันเต็มใจนะที่เป็นฝ่ายแอบรัก เต็มใจที่เก็บความรักที่ฉันมีให้เธอ โดยที่เธอไม่รู้ หรอกว่ากำลังได้รับความรักจากใจของฉัน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เธออยู่ที่ไหน เธอเป็นอะไร ฉันได้รับรู้เรื่องของเธอทุก ๆ อย่าง ฉันก็มีแต่ความสึกปลาบปลื้มเมื่อได้เจอเธอ (แค่ผ่านหน้าบ้านก็มีความสุข) คิดถึงเธอ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ได้คิดถึง เป็นห่วงยามเธอไม่สบาย รู้ทั้งรู้ว่าเธอรับความห่วงใยจากใจของฉันไม่ได้เลย แต่ฉันก็พร้อมที่จะรู้สึก ฉันไม่ได้บังคับมันเลยนะ ความรู้สึกเหล่านี้ออกมาจากใจจริงของฉัน
ถึงฉันจะอยู่ในฐานะคนแอบรัก แต่ฉันไม่คิดที่จะเปลี่ยนฐานะของฉันให้เป็นมากกว่านี้ ฉันมีความสุขที่จะได้แอบรักใครคนหนึ่ง อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้รู้จักความรัก ถึงมันจะสวยงามสำหรับฉันเพียงคนเดียว แต่มันก็ไม่ได้สวยงามตลอดเวลาหรอกนะ เพราะถึงวันนี้ฉันก็ได้เจ็บกับมันแล้ว เจ็บกับการแอบรัก ฉันเห็นเธอไปกับคนอื่น คน ๆ นั้นยืนอยู่ในใจเธอในฐานะแฟน ฉันเสียใจทั้ง ๆที่ฉันน่าจะรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ฉันแอบรักเธอแล้ว ฉันน่าจะรู้ว่าสักวันเธอต้องมีใคร ฉันน่าจะเผื่อใจไว้ให้กับความเสียใจในวันนี้ แต่ความรักไม่ได้กักเก็บไว้อย่างกับน้ำในท่อปะปา ที่วันไหนจะเปิดมากเปิดน้อยตามใจคนเปิด ความรักไหลออกมาจากใจโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉันร้องไห้ ฉันเสียใจ ฉันไม่อยากให้เธอมีใคร ไม่อยากเห็นเธอกับเขา
แต่แวบหนึ่งของความคิดได้เข้ามาในความรู้สึกของฉัน ฉันเลือกเองไม่ใช่เหรอ ที่เป็นคนแอบรัก คนแอบรักไม่มีสิทธิ์เรียกร้องความรักจากอีกฝ่าย ความสุขของเราคืออะไร คือการได้มอบความรักให้คน ๆ นั้น โดยที่ไม่ต้องการความรักตอบแทน ใช่แล้วสินะ พอถึงเวลานี้ฉันได้คิดแล้วว่า อย่างน้อยฉันได้เป็นคนแอบรักอย่างสมบูรณ์แบบ ฉันมอบความรักให้เธอได้ แม้ว่าเธอจะมีใคร ฉันต้องรู้สึกมีความสุข ถึงแม้ใจกำลังร้องไห้ เมื่อเห็นเธอไปกับเขาอย่างสนิทสนม ฉันยังคิดถึงเธอ ถึงแม้ตอนนี้เธอมีคนให้คิดถึงแล้ว ฉันยังยิ้มกับตัวเองเมื่อได้เจอเธอ ถึงแม้ข้าง ๆ เธอจะมีเขาอยู่ นี้มันคือความสุขของฉัน ฉันพอใจที่เป็นอย่างนี้ ฉันหาตัวเองพบแล้ว
ถ้าวันหนึ่งฉันได้เจอใครสักคน เขามา บอกรักฉัน ฉันคงรักเขามั้ง เพราะอย่างน้อยเขาก็กล้าที่จะบอกรักฉัน หรือถ้าเขาเก็บมันมานานแล้ว ฉันก็อยากบอกเขา ว่าอย่างน้อยฉันเข้าใจความรู้สึกของคนแอบรักดี แต่คงอีกนานกว่าฉันจะมีใคร เพราะตอนนี้ฉันกำลังมีความสุขกับการแอบรักเธอคนนั้นอยู่ คุณอย่าอิจฉาฉันเลยนะ คุณทำได้ ถ้าคุณมีความสุขกับมัน มองโลกอย่างฉัน แล้วคุณจะพบว่าการได้แอบรักใครสักคน โดยที่เขาไม่รู้ มันไม่ได้ทุกข์มากมายอย่างที่ใครเขาบอกกัน เพียงแต่เราจะพอใจแค่ไหนก็เท่านั้นเอง คนแอบรักคนนี้มีความสุขแล้วคะ
23 มกราคม 2547 20:18 น.
เดะบ้า
หลายต่อหลายคนที่ต้องเลิกกัน (เลิกในที่นี้อาจจะเป็นความรักหลายแบบนะ แบบเพื่อน แบบคนรู้จัก แบบญาติมิตร หรืออาจจะแบบแฟน) เพราะมีระยะทางมาขวางกั้น ความห่างไกลกลายเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ถ้าเราต้องอยู่ห่างคนที่เรารัก คุณเคยคิดไหม คุณจะมีความรู้สึกอย่างไร . . .
ฉันนั่งนับถอยหลังเสมอเมื่อวันที่เริ่มจากคนที่ฉันรัก เพื่อจะรอคอยการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของเขา ทุก ๆครั้งที่จากกัน ฉันเฝ้าถามตัวเองเสมอ ยังไม่ชินกับการเจ็บปวดที่ต้องจากคนรักอีกหรือ ฉันตอบได้เลยว่าไม่ กี่ครั้งกี่หนที่ฉันต้องยืนมองหน้าเธอเพื่อลาจาก ทุก ๆ ครั้งฉันยิ้มให้เธอ แต่เธอรู้ไหมใจฉันร้องไห้อยู่ มันร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เหมือนทุกครั้งแต่ใจมันไม่ชินเลย แต่ยิ่งทวีคูณความเจ็บปวด ฉันต้องคิดถึงเธอมากอีกแล้วสินะ ฉันต้องเก็บความรัก ความห่วงใยไว้อีกแล้ว มันจะล้นใจทุกครั้งที่เราไม่ได้เจอกัน ฉันเศร้า เหงา และหว้าเว้ แต่ฉันมักจะปลอบโยนใจเสมอว่า การรอคอยได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เธอเริ่มเดินจากไป ครั้งต่อไปเรายังได้เจอเธอ นั้นคือความหวังของฉัน
ฉันอยู่กับการรอคอยมานาน จนการรอคอยผันเปลี่ยนเป็นกิจวัตรประจำวัน ฉันใกล้ใคร มันอาจจะหวั่นไหวนะ เหมือนที่ใคร ๆ พูดรักแท้แพ้ใกล้ชิด แต่เมื่อใดฉันนึกถึงความรักระหว่างเรา อยากให้เธอรู้ ความห่างไกลจะดลบันดาลทำให้ฉันรู้สึกว่าตนเองต้องซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์กับคนที่รอความรักฉันอยู่ ความรักฉันอาจจะโบยบินไปหาเธอไม่ได้ แต่มันอยู่ระหว่างใจสองใจ เธอก็รู้ว่าฉันรัก ฉันก็รู้ว่าเธอรัก เท่านี้ก็คงเพียงพอ ฉันรู้นอกจากความรักของเรา เราแต่ละคนมีความฝัน มีอนาคตเป็นของตัวเอง ทุกคนมีสิทธิ์ทำตามฝันที่ตนตั้งไว้ ก็อย่าสละความฝันเพื่อความรักเลย เพราะถ้ากันจริง ก็คงรอกันได้ เหมือนที่ฉันตั้งใจรอคอยเธอ การกลับมาของเธอมันเป็นความหวังของฉัน ความรักของฉัน ทำให้ฉันปล่อยให้เธอทำตามฝัน ฉันไม่รั้งเธอ เพื่ออนาคตอันสดใส ฉันจะไม่รั้งเธอเลย ยินดีที่จะเป็นฝ่ายรอ และจะเป็นคนยืนดูเธอประสบความสำเร็จ
ความระแวงเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการห่างไกลกัน ฉันยอมรับ ฉันมีความระแวง แต่ฉันคิดจะไม่ให้ความระแวงมาทำลายความรักระหว่างเรา ฉันยอมให้เธอมีคนดูแลอยู่ใกล้ ๆ ขอแค่ไม่ลืมฉัน มันอาจจะเจ็บปวดที่ต้องรู้ว่าเธอมีใคร แต่ความไกลทำให้ฉันไม่สามารถเป็นคนใกล้ชิดคอยดูแลเธอได้ มันคงเป็นความผิดอย่างหนึ่งทำให้ฉันไม่คิดจะระแวงเธอ ความระแวง หรือไม่ไว้ใจกัน เป็นเรื่องเล็ก ฉันเชื่อในความรักของฉัน ถึงแม้ตอนนี้เราอาจจะไม่ผูกพันกันด้วยการใกล้ชิด แต่เราผูกพันกันในระยะทาง ยิ่งไกล ฉันยิ่งรัก และซื่อสัตย์ต่อเธอ
จะมีใครรอคอยในความรักอย่างที่ฉันเป็น คุณควรจะดีใจที่ระยะทางความไกลจะไม่เป็นอุปสรรคต่อคุณ ความภูมิใจจะทำให้คุณซื่อสัตย์ เหมือนที่ฉันเป็น ถึงแม้ฉันจะไม่รู้เลยว่าตัวเขาเองจะซื่อสัตย์ต่อฉันหรือไม่ แต่ถ้าทุกวันเราคุยกันด้วยความเข้าใจ และความรัก คุณอย่ากังวลหรือกังขาคนที่คุณรักเลยนะ ไม่มีความสุขเปล่า ๆ คิดเสียว่าเรารักกันอยู่ 2 คน ส่วนเขาจะมีคนที่ 3 คนที่ 4 มันเป็นสิทธิ์ของเขา ฉันก็มีสิทธิ์ เพียงแต่ฉันไม่ขอใช่สิทธิ์ตรงนั้นเอง เต็มใจที่จะมีคนเดียว เพราะการรอคอยทำให้เกิดรักที่ยิ่งใหญ่
21 มกราคม 2547 20:06 น.
เดะบ้า
ถ้าเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดกับใครสักคน เขาคงไม่ได้อยากเล่าให้ใครเพื่อขอคะแนนความสงสาร แต่เป็นอุทาหรณ์เพื่อให้คิดว่า ถึงแม้ความรักจะทุกข์ แต่คน ๆ หนึ่งก็พร้อมที่จะรัก บางคนอาจจะคิดว่ารักทำไม รักแล้วทุกข์ แต่สำหรับคน ๆ นี้เขามีความรักที่เหนือความทุกข์ ความทุกข์เป็นเรื่องเล็กน้อยกว่า ความรักที่ไม่ได้รัก คนนี้ ๆ อาจจะเป็นฉันที่กำลังถ่ายทอดความรู้สึกในตอนนี้ให้ทุกคนได้รับรู้
ทุก ๆ วัน เวลาเดิมเป็นเวลาที่ฉันใช้เขียนหนังสือ เพราะมันจะมีอารมณ์มากมายได้ถ่ายทอด อารมณ์นั้นก็ไม่พ้นอารมณ์รัก รักทำให้เกิดได้หลายอารมณ์ แต่สำหรับฉันรักมักจะทำให้เกิดอารมณ์เหงา ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะ คุณเคยคิดถึงใครแล้วคุณไม่สามารถบอกเขาได้ว่าคิดถึง คุณทรมานไหม กับการที่ต้องเก็บความคิดถึงไว้ในใจตลอดเวลา คุณเคยอยากเจอใคร แล้วคุณไม่ได้เจอไหม คุณจะทุรนทุรายมากเพียงใด แล้วคุณเคยรักใคร เขาคนนั้นก็รู้ว่าคุณรัก เขาก็บอกว่ารักคุณ แต่การกระทำของเขาไม่ได้เป็นไปตามคำว่ารักที่เขาพูด คุณจะรู้สึกอย่างไร
ฉันนั่งหาทางออกให้ตัวเอง ไม่มีใครบังคับให้ฉันต้องรักเขา แต่ฉันก็ไม่อาจหยุดรักคน ๆ นั้นได้ ถึงแม้ฉันจะเป็นคนที่ได้ชื่อว่า เขาบอกรัก แต่ถ้ามันไม่มีความรักออกมาจากหัวใจเขา มันจะมีประโยชน์อะไร ฉันสามารถหยุดรักเขาได้นะ ฉันบ่นกับตัวเอง แต่ฉันเลือกที่จะไม่หยุดรัก ต้องเป็นฝ่ายทน ทนให้ได้กับสิ่งที่เขาจะทำ เพราะทนได้ก็จะได้อยู่กับเขา ทนไม่ได้ก็จะไม่ได้อยู่กับเขา คำว่าทน คงแทนคำว่ารักของเขาสินะ ไม่ได้อยู่กันด้วยความรัก แต่อยู่ด้วยกันเพราะความอดทน แต่สำหรับฉันความรักดลบันดาลให้ฉันต้องทน ทนเพื่อจะได้มอบรักให้เขา ถึงแม้มันจะทุกข์ที่ต้องเหมือนอยู่คนเดียว โดดเดียว ไร้คนรัก แต่ฉันยังรู้สึกดีที่ได้มอบรัก เกิดมาเพื่อรักใครสักคน คน ๆ นั้นอาจจะเป็นคุณนะ คุณคิดว่าใครเคยรอการกระทำที่เรียกว่ารักของคุณหรือเปล่า อย่าปล่อยให้เขารอเลยนะ เพราะเขากำลังทุกข์ทรมานกับความรัก
เหมือนที่ฉัน Dekba กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องวิ่งมอบรักกับคนที่ไร้ซึ่งความรัก แต่ฉันก็มีรักที่มั่นคง ฉันจะไม่หยุดรักเขาคนนั้น จะรักตลอดไป ฉันไม่ได้งมงาย หรือหลงไหลในความรักหรอกนะ แต่มันเป็นรักที่เกิดขึ้นจากใจที่เสน่ห์หา ถึงแม้จะทุกข์ แต่ในใจของฉันก็ไม่เหือดแห้งความรัก เพราะความรักทำให้ฉันมีแรงใจจะก้าวต่อไป
21 มกราคม 2547 19:53 น.
เดะบ้า
ห้องสี่เหลี่ยมนี้ อย่างไรมันก็ไม่เปลี่ยน อิฐทุกก้อน ปูนที่ฉาบ สีที่ทา มันเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนคงเป็นองค์ประกอบที่ถูกฉันสรรสร้างให้แตกต่างไปจากเดิม ก่อนหน้าที่ฉันจะมีสิทธิ์จัดห้องนอนด้วยตัวของฉัน ฉันเคยนอนห้องเดียวกับพี่สาว พี่สาวฉันจะไม่ค่อยให้ฉันจัดห้องมากนัก อาจจะเป็นเพราะ พี่สาวฉันโตแล้ว ส่วนฉันยังเด็กอยู่ พี่สาวคงไม่อยากให้ตุ๊กตามารกรุงรังห้องนอน ห้องนอนของฉันเป็นสีส้ม เป็นเพราะพี่สาวฉันชอบสีส้ม ซึ่งต่างกับฉันโดยสิ้นเชิง ฉันเคยเกลียดห้องนี้ ห้องสีส้มนอนแล้วปวดหัว วิงเวียนด้วยสีอันแสบตา แต่แล้ว ณ วันนี้ฉันกลับชอบห้องนอนนี้ เพราะอะไรนั้นเหรอ ตอนนี้ฉันได้นอนห้องนี้คนเดียว ฉันมีสิทธิ์แต่งแต้มห้องนอนตามฝันที่เคยวาดไว้
ฉันมองดูห้องนอนตัวเองในวันนี้ คุณรู้ไหมนอนที่ไหนก็ไม่สุขเหมือนนอนในห้องนอนของฉัน ฉันไม่ได้โม้นะ ทุกวันนี้แม้จะเหนื่อยกับสิ่งต่าง ๆ ในโลกภายนอก หากฉันได้กลับมาที่ห้องนอนของฉัน ความเหน็ดเหนื่อยต่าง ๆ ก็มลายหายไปเลย ห้องของฉันอาจจะไม่กว้าง สีห้องก็เป็นสีส้ม คุณคงคิดว่ามันสบายได้อย่างไร สิ่งสำคัญที่อยู่ในห้องนี้คือความอบอุ่น ไม่ใช่ความอบอุ่นของผ้าห่มหรอกนะ แต่มันคือความอบอุ่นของหลายชีวิตในห้องนี้ ฉันไม่ได้หมายถึงสิ่งมีชีวิตจริง ๆ เพราะถ้ามันมีชีวิตจริง ๆ ฉันคงวิ่งหนีเป็นคนแรก แต่หลายชีวิตที่ฉันหมายถึง คือตุ๊กตาที่อยู่ในห้องของฉันมีเกือบ 40 ตัว มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ กับการได้อยู่กับสิ่งที่เรารัก ฉันพูดกับตุ๊กตาได้ ฉันไม่ได้บ้า แต่ฉันสื่อกับเขาได้ทางใจ ฉันอยู่กับพวกเขาแล้วฉันอบอุ่น ฉันยินดีที่จะแนะนำตุ๊กตาแต่ละตัวให้คุณรู้จักนะ เพราะพวกเขาคือเพื่อนของฉัน
ก้าวแรกที่เดินเข้าห้องนอนของฉัน คุณต้องเลื่อนประตูไปทางซ้าย คุณจะพบกับปลาในตัวละคร Disney ปลาตัวนี้จะยิ้มทักทายคุณ ก้าวแรกที่คุณก้าวเข้าไป อย่าพึ่งตกใจว่าคุณหลงมาอยู่ในร้านขายตุ๊กตา ไม่ ๆๆ มันไม่ใช่ร้านขายตุ๊กตามันเป็นห้องนอนของฉันเอง มองไปที่หน้าต่างคุณช่วยทักทายพิน๊อกคิโอ้หน่อยนะ เขามีความสุขจะเฝ้าหน้าต่างให้ฉันหละ มองมาบนหลังตู้ที่ไม่สูงมากนัก เป็นตู้สามชั้นไว้เก็บของส่วนตัวของฉัน จะมีตุ๊กตาเซรามิคซินจังและหมีพูห์ เขาชอบวิ่งเล่นกันอยู่บนตู้ คงมีความสุขน่าดู ถัดจากตู้มองมาที่ชั้นหนังสือ 4 ชั้นสิ ฉันรู้มันดูน่าเบื่อ แต่แกะน้อยที่คอยเป็นคนนับหนังสือให้ฉันทุกวัน เขาจะบอกฉันเสมอว่าหนังสือครบ เขาไม่เบื่อกับการที่นับแกะ เอ่ย นับหนังสือเลยหละ มาดูชั้นว่างสเตอริโอของฉันจะมีหมีพูห์แต่งตัวเป็นอียอร์คอยอยู่ข้างบน จะคอยสะแครชแผ่น เป็นดีเจประจำห้องนอนแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ถัดจากชั้นนี้จะมีตุ๊กตาเซรามิกเกือบ 10 ชีวิตที่ฉันได้สะสมไว้ ว่างด้วยกันกลัวแตกมาก ๆ ถึงตัวพวกเขาจะแข็งนะ แต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้า กลับอ่อนโยนอย่างน่าแปลกใจ
เตียงนอนของฉันบนหัวเตียง และรอบ ๆ เตียงจะมีตุ๊กตาเยอะมาก สองตัวแรกเป็นของพี่สาวฉันที่เขายกให้ เป็นมดแดงคอยโบกมือให้กำลังใจฉันได้สู้ต่อไป และก็ลิงจาก rain flower ฉันเลยให้ลิงกับ tweety (ลูกไก่ตัวน้อย) นั่งอยู่ใกล้กัน เพราะถ้าฉันเอา tweety ไปไว้กับตุ๊กตาตัวอื่น tweety คงเป็นลูกไก่ในกำมือแน่ ๆ (ตุ๊กตาทุกตัวจะกำมือของมันคุณลองสังเกต แต่ลิงจาก rain flower มันแบมือ) ฉันเลยไว้ใจลิงมากกว่า ^___^ มองดูหัวเตียงด้านขวาสิ บรรดาสุนัขทั้งหลายกำลังเห่าทักทายคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหน้าย่น ที่เจ้าของมอบให้ฉัน แทนความคิดถึง ฉันเลยตั้งชื่อว่า เจ้าคิดถึง และมันเป็นความบังเอิญ ที่เจ้าคิดถึงตัวนี้ ดันมีหน้าตาไปเหมือนสุนัขหน้าย่นตัวเล็กที่พ่อซื้อให้ฉันสองตัว ฉันเลยให้สองตัว (ดำ กับ ด่าง) เป็นลูกเจ้าคิดถึงไปเลย ดำ กับ ด่าง ไม่งอแงจะชอบเล่นกับ สุนัข 101 ตัวนี้ฉันเป็นคนซื้อเอง เป็นตัวแรกที่เคยซื้อ เพราะตุ๊กตาประมาณ40 ชีวิต ที่อยู่ในห้องนี้จะมีคนซื้อให้ตลอด อ่อ !อย่าลืม ชิโร่นะ ชิโร่เป็นสุนัขของชินจัง ซึ่งชินจังก็นั่งข้าง ๆ ชิโร่นี่แหละ ถึงแม้ชิโร่จะตัวใหญ่กว่าชินจัง แต่ชิโร่จะเป็นคนดูแลชินจังเองนะ
ชิโร่ตัวนี้คนที่ซื้อมาให้ฉันเล่าให้ฟังว่า เขาเดินเข้าไปร้านตุ๊กตา ถามเจ้าของร้านว่า ระหว่างชิโร่ตัวนั่งกับตัวนอนตัวไหนขายดี แม่ค้าตอบเสียงดังฟังชัดเลยว่า ตัวนั่งขายดีอาจจะหมดแล้วก็ได้ ส่วนตัวนอนขายไม่ค่อยได้เลย เขาเลยบอกไปว่า เอาตัวนอนก็ได้ไม่เป็นไร (จริง ๆ ตั้งใจจะซื้อแบบที่ไม่เหมือนใครเขา) พอคนขายออกมาบอกว่า ตัวนอนขายหมดแล้ว เหลือแต่ตัวนั่ง กลับกลายเป็นว่า ตัวนั่งขายดียังอยู่ แต่ตัวนอนขายไม่ดีหมดแล้ว แปลกดีจัง !! ฉันรักชิโร่ตัวนี้มากนะ มากพอ ๆ กับคนที่ให้ชิโร่มา ยังมีสุนัขอีกหลายตัวที่อยู่ข้าง ๆชิโร่ แต่แปลกที่ฉันมักจะเห็นชิโร่เป็นผู้นำฝูงก่อนสุนัขตัวอื่น คุยแต่เรื่องสุนัข หมีพูห์แอบกระซิบแล้วว่าน้อยใจ ฉันมีตุ๊กตาหมีพูห์ในห้องนี้ 5 ตัว มีตัวใหญ่สุดที่ชอบมาก นอนกอดทุกคืน หมีพูห์นอนกอดฉันด้วยนะ และบอกราตรีสวัสดิ์ฉันทุกคืน ยังมีหมีพูห์ฝาแฝดที่นั่งกินน้ำผึ้งโดยไม่สนใจใครเลย หมีพูห์ตัวเล็ก ๆ ลาย Tigger ถูกเบียด ฉันเลยจับมาไว้บนโต๊ะหนังสือ
บนเตียงนอนยังมีตุ๊กตาอีกหลายชนิด ทั้งหนอนหนังสือ ก่อนหน้านี้มันเคยอยู่บนโต๊ะหนังสือ แต่ว่ามือมันเป็นสีขาว เหมือนโบกธงขาวยอมแพ้อย่างไรก็ไม่รู้เลยถูกปล่อยไว้บนที่นอนนุ่ม ๆ โอ้ย ฉันคงบรรยายไม่หมดแล้วหละ ตุ๊กตายังเหลืออีก 20 กว่าตัว แต่ตัวอื่นเริ่มไม่พอใจแล้วสิที่ฉันไม่พูดถึงเขา ไว้คราวหน้าฉันจะแนะนำพวกเขาให้คุณรู้จัก รับรองคุณจะไม่ผิดหวังที่ได้รู้จะผองเพื่อนตุ๊กตาของฉัน
แต่ก่อนที่คุณจะออกจากห้องนอนของฉัน ฉันมีตุ๊กตาที่รักทีสุดจะแนะนำให้คุณได้รู้จักนะ ตุ๊กตาตัวนี้ไม่ได้น่ารักเลย น่ากลัว เพราะมันคือตุ๊กตา korn สภาพเซอ ๆ ไร้วิญญาณ มีตาข้างเดียว ที่พุงมีนุ่นโผล่ออกมา เย็บด้วยด้ายสีดำรอบตัว ฝุ่นเกาะเขรอะ ที่เขรอะเพราะฉันเคยเอาไปซ่อนไว้ใต้เตียง เพราะแม่ของฉันชอบเก็บไปซัก และเย็บตา เย็บไส้ (นุ่น) ที่โผล่ออกมา เติมผม (ไหมพรมสีดำ) ให้เต็มหัว korn ฉันเห็นแล้วอดขำไม่ได้ ฉันรู้ว่าแม่ไม่เข้าใจคำว่า korn หรอก เมื่อก่อนฉันไม่ชอบตุ๊กตาตัวนี้ ฉันกลัวด้วยซ้ำ แต่ถึงวันนี้ฉันเข้าใจในสิ่งที่เจ้าของ korn ได้มอบให้ฉันแล้วว่า คนเราไม่สามารถดูกันภายนอกได้ ถึงแม้ภายนอกจากน่าเกลียดน่ากลัวเพียงใด ถ้าในจิตใจสวยงามแล้วหละก็ มันก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับ korn ตัวนี้ถึงมันจะน่าเกลียดน่ากลัว แต่มันมีจิตใจดีที่จะอยู่เป็นเพื่อนให้ฉันหายเหงา ฉันจึงรักตุ๊กตา korn ด้วยเหตุผลนี้ และฉันก็เฝ้าคิดถึงเจ้าของ korn ตลอดไป