๑. และวันได้เปลี่ยนใครไปอีกครั้ง จนความหลังรางเลือนเพื่อนเก่าก่อน สิ้นเสียงร่ำบรรเลงขับเพลงกลอน คนสัญจร...พิงพัก...แล้วจากไป
๒. คงยศศักดิ์เงินทองกองตรงหน้า เปลี่ยนทีท่าสับสนกลายคนใหม่ ด้วยทะนงหงส์ฟ้าสง่าวิไล เหยียบใครใคร...ก้าวทอด...สู่ยอดหอคอย
๓. จำต้องลืมคนซึ่งเคยซึ้งซาบ มิตรภาพงามงดพลันถดถอย ไม่มีแล้วอาลัยรักจำหลักรอย ใจจึงพลอย...เปลี่ยนใจ...ไปตลอดกาล
เกรียงไกร รอบรู้ (เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร) ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ; คืนค่ำที่รังสิต
๑. เคยเทิดรักภักดีเป็นที่สุด
และสมมุติชีพสองร่วมครองฝัน
มิอยู่ใกล้แต่ใจอยู่เคียงคู่กัน
ความผูกพันล้นปรี่ทวีคูณ
๒. แต่เพราะหลากปัจจัยทำใครเปลี่ยน
จึงบทเรียนหวนกลับนับที่ศูนย์
อันสัตย์ซื่อดื้อท่าเป็นอาดูร
ความสมบูรณ์แห่งใจจึงไม่มี
๓. มันเคยเป็นแรงฤทธิ์พิศวาส
และหมายมาดรักเข้มจนเต็มที่
เมื่อลดน้อยถอยลับกลับท่าที
ใจร้าวนี้ ... ที่ยังเหลือ ... อยู่เพื่อใคร
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
(เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
(๖ ตุลาคม ๒๕๕๙: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต: วันฝนพรำ)
๑. ความคิดถึงดึงจิตให้คิดหวัง
ตั้งแต่ยังไม่มีสิทธิให้คิดถึง
ประทับรอยทรงจำห้วงคำนึง
รอยรักซึ่งซึ้งเสมอเธอคนดี
๒. มิใช่คนแรกคบหรือพบหน้า
แต่คิดว่าเธอแหละใช่คนหมายที่
ฉันหวังเคียงครองอยู่คู่ชีวี
ใจหยุดที่เธอแล้วนะแก้วตา
๓. อาจต้องรอเธอทานการพิสูจน์
จริงตามพูดหรือฉันให้ได้มากกว่า
บางคราวรักไม่ต้องการด้านเวลา
แม้สบตาแรกเห็นก็เป็นใจ
๔. ยังศรัทธารักแท้ไม่แปรเปลี่ยน
ถือความเพียรและพร้อมจะยอมให้
บนหนทางบากบั่นอันยาวไกล
ก็แสนใกล้เพราะเธอคู่อยู่ร่วมทาง
๕. ความคิดถึงรู้สึกดังกึกก้อง
ทั้งสี่ห้องหทัยอยู่ไม่ห่าง
เฉกเช่นหงส์พงศกรร่อนลงกลาง
ใจเคยร้าง...ก็กลับล้น...รักจนเต็ม
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร
(พ. ๑๔ กันยายน ๒๕๕๙)