28 ตุลาคม 2553 22:44 น.
**.. เช่นรวีโชติ..**
๑. สายฝน ลมหนาว จากราวฟ้า
เย็นทรวง ฉ่ำอุรา เอิบหน้าหนาว
หยดน้ำค้าง ต่างแต้ม ดุจแวมดาว
พรายระยับ วับวาว ณ ราวไพร ...
๒. จิบกาแฟ กลิ่นกรุ่น ละมุนหอม
ดมดอม มาลี พิสมัย
ความสงบ ภพเย็น เป็นที่ใจ
ลืมโลดไล่ ไขว่คว้า สักนาที ...
๓. เหนือขุนเขา เมฆม่าน ทะยานกล้า
ฝูงปักษา สง่าหงส์ ทรงศักดิ์ศรี
แต่คนเรา ทะเยอทะยาน งานทวี
อุปสรรค มากนี้ มีรายทาง ...
๔. หลับตาลง เพื่อหลบ ความวายวุ่น
ปล่อยโลกหมุน ตามใจ แต่ใครสร้าง
พักสายตา เคลิ้มคล้อย และปล่อยวาง
สุขสว่าง กระจ่างเพริศ บังเกิดพลัน ...
๕. สายฝน ลมหนาว อาจร้าวลึก
แม้ตรึก นึกตรอง ต้องไหวหวั่น
เราวาดภาพ หลังเวลา เปิดตานั้น
จะพบวัน โสภา เบื้องหน้าเรา ...
ด้วยความหวังดี
**.. เช่นรวีโชติ ..** (ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
ประพันธ์ พ. ๒๗ ต.ค. ๒๕๕๓
1 ตุลาคม 2553 22:29 น.
**.. เช่นรวีโชติ..**
๑. เห็นเธอยิ้มอิ่มเอมฉันเปรมยิ่ง
มีมวลมิ่งมิตรหมายรายรอบข้าง
กุหลาบล้วนกลีบโปรยโรยเปิดทาง
สู่หอคอยงาช้างอย่างภูมิใจ ...
๒. ถ้อยบันทึกจดหมายเป็นลายลักษณ์
สร้อยสลักเผื่อเธอนึกรำลึกได้
เป็นสายทาง สะพานฝัน เป็นบันได
เพื่อรองเท้าเธอก้าวไกลในหนึ่งวัน ...
๓. ปรารถนาอนาคตเธอสดใส
อย่ามีภัยใครคิดคอยกีดกั้น
ฝากห่วงใยหนักเน้นเป็นสำคัญ
และฝากขวัญคำนึงยังตรึงตรา ...
๔. ฉันส่งเธอถึงยังปลายฝั่งแล้ว
แอบซ่อนแววหวนไห้อาลัยหา
พบกันอีกหรือไม่ใช่นำพา
สิ่งผ่านมาด้วยรักจักตอบแทน ...
๕. จดหมายปิดผนึกซ่อนลึกอยู่
รอคอยผู้อ่านนี้ทีละแผ่น
จนกระดาษขาดวิ่นเหมือนหมิ่นแคลน
ปลิวลมแล่นลิบลี้สีหมึกจาง
๖. เห็นเธอยิ้มอิ่มเอมฉันเปรมยิ่ง
มีมวลมิ่งมิตรหมายรายรอบข้าง
กุหลาบล้วนกลีบโปรยโรยเปิดทาง
สู่หอคอยงาช้างอย่างภูมิใจ ...
ด้วยความหวังดี
**.. เช่นรวีโชติ ..** (ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
ประพันธ์ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓