๑. ความคิดถึงดึงจิตให้คิดหวัง
ตั้งแต่ยังไม่มีสิทธิให้คิดถึง
ประทับรอยทรงจำห้วงคำนึง
รอยรักซึ่งซึ้งเสมอเธอคนดี
๒. มิใช่คนแรกคบหรือพบหน้า
แต่คิดว่าเธอแหละใช่คนหมายที่
ฉันหวังเคียงครองอยู่คู่ชีวี
ใจหยุดที่เธอแล้วนะแก้วตา
๓. อาจต้องรอเธอทานการพิสูจน์
จริงตามพูดหรือฉันให้ได้มากกว่า
บางคราวรักไม่ต้องการด้านเวลา
แม้สบตาแรกเห็นก็เป็นใจ
๔. ยังศรัทธารักแท้ไม่แปรเปลี่ยน
ถือความเพียรและพร้อมจะยอมให้
บนหนทางบากบั่นอันยาวไกล
ก็แสนใกล้เพราะเธอคู่อยู่ร่วมทาง
๕. ความคิดถึงรู้สึกดังกึกก้อง
ทั้งสี่ห้องหทัยอยู่ไม่ห่าง
เฉกเช่นหงส์พงศกรร่อนลงกลาง
ใจเคยร้าง...ก็กลับล้น...รักจนเต็ม
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร
(พ. ๑๔ กันยายน ๒๕๕๙)
๑. นั่นกลุ่มคน “หนุ่มสาว” ผู้ห้าวหาญ
ซึ่งรอดผ่าน “สนามสอบ” จนบอบร่าง
หิ้วเงินกู้ “ค่าเทอม” ประเดิมพลาง
เลือกตามอย่างสังคม “นิยม” กัน
๒. ระหว่างทางโพล้เพล้ “มีเล่ห์ร้าย”
“ผับ” ที่หมายเมาปลิ้นดิ้นสนั่น
เรื่อง “รักรักใคร่ใคร่” ได้ทุกวัน
ไม่ก็ชั้นเชิงเพียบ “เหยียบ” กันเรียน
๓. กองหนังสือบูชาเกลื่อนฝา “หิ้ง”
ไว้เป็นมิ่งมงคลบนเหนือเศียร
“นกขุนทอง” ท่องตำราแทบอาเจียน
ซุ่มเป็น “เซียน” ศักดินาสูงกว่าใคร
๔. ปัญญาชนหนุ่มสาวเคยห้าวหาญ
หลงตำนาน “ปริญญา” ว่ายิ่งใหญ่
ปลายทางการศึกษามาหาอะไร
คำตอบที่...มหา’ลัย...ไม่เคยมี !!
(หลังเสร็จกิจพิชิตฝันวันออกไป
เพิ่งรู้โลก...นี้กว้างไกล...ไม่เคยเรียน !!)
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
(เช่นรวีโชติ/ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
::: เธอคือครู ? :::
๑. เพราะเธอไม่ปรารถนามาเป็น “ครู” เพียงชั่วครู่ประเดี๋ยวก็เทียวหนี สิ่งที่เธอทำอยู่ย่อมรู้ดี ทนเพราะเป็นหน้าที่มีเงินเดือน
๒. จิตเธอดั่งบัวใบใต้โคลนตม
กิเลสซัดทับถมซากจมเกลื่อน เธอมองศิษย์ตั้งแง่แถมแชเชือน ทำเขาเหมือนผู้น้อยด้อยปัญญา
๓. ที่ขาดไร้ในธรรมคือ “สำนึก” มิตรองตรึกทบทวนสิ่งควรค่า เธอถือโกรธเหนือเหตุความเมตตา อวิชชาครอบงำใจดำทมิฬ
๔. เธอต้องเป็นผู้สร้างทางให้ศิษย์ สร้างชีวิตสู้โศกวิโยคสิ้น มือสร้างดาวพราวพรรณปั้นจากดิน และสร้างถิ่นสร้างธรรมนำผู้คน
๕. “ครูที่ดี” เป็นอย่างไรใคร่รู้แน่ ขอเพียงแค่ “เป็นด้วยใจ” ไม่สับสน ถ้ากลัวเหนื่อยและเหยียดหยามกับความจน กลัวทุกข์ทน ... บ่นลำเค็ญ ... “อย่าเป็นครู”
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
(เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
๖ พ.ย. ๒๕๕๘ : เอื้ออมรสุข ถนนริมทางรถไฟสายเก่า
๑. ขอกรวดน้ำคว่ำขันแต่วันนี้
ละจิตที่เคืองคิดริษยา
ฉันเจ็บลึกด้วยกรรมเธอทำมา
กายวาจา...และใจ...อภัยทาน
๒. ลืมอดีตลืมฝันวันเก่าเก่า
ใครบอกเราร่วมสุขทุกสถาน
ใครเสแสร้งแกล้งยิ้มอิ่มชื่นบาน
ใครสัญญา...สาบาน...รักนานยาว
๓. วันนี้ฉันทำได้คือไม่รัก
ไม่รู้จักไม่เจ็บไม่เหน็บหนาว
ไม่รับรู้ไม่ถามความยืดยาว
ไม่ปวดร้าว...เพราะใจ...ฉันไม่มี
๔. บรรจงกราบน้อมใจพระไตรรัตน์
ช่วยเป่าปัดเล่ห์ร้ายภัยหน่ายหนี
ฝากถึงเธอหนึ่งน้อยถ้อยวจี
จงจากกัน...ด้วยดี...“อโหสิกรรม”
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
(เช่นรวีโชติ/ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
๑. ณ ครั้งหนึ่งซึ่งผ่านมานานแล้ว
เคยมีแววตาใสเปี่ยมไฟฝัน
อยู่ในความทรงจำและสำคัญ
จวบคืนวันหมุนเวียนคนเปลี่ยนไป
๒. ส่งเธอยังฟากฟ้าเวหาหาว
เด่นสกาวพราวพริบระยิบใส
ดาวดวงซึ่งแรมร้างทางแสนไกล
สู่เส้นชัยฟากฝันฉันยินดี
๓. ภาพเหล่านี้เลือนลดจนหมดสิ้น
เธอกลับชินเฉยชาเบือนหน้าหนี
ฉันคนจรที่ยังคงหวังดี
แม้ไม่มีสิ่งใดเหลือให้เธอ
๔. ณ วันหนึ่งวันนี้ที่เปลี่ยวเหงา
ยังคอยเฝ้าประคองค้ำสม่ำเสมอ
ขอเพียงสิ่งสุดท้ายไม่เลิศเลอ
จากมือเธอ...ช่อไม้จันทน์...เมื่อฉันตาย
ด้วยความหวังดี
เกรียงไกร รอบรู้
(เช่นรวีโชติ / ก.ประแสร์ ศิษยาพร)