20 ตุลาคม 2547 12:39 น.
เชา
สุริยาขับฟ้าแล้ว นภาพิศผ่องแผ้ว
ชีวิตเริ่มต้น อีกนา
ตริตรองคิดจิตไซร้ ขาดคนเคียงใกล้
จักใฝ่ฝันหา แต่ผู้ชิดชม บทนา
.................................
นรชน ณ วิเวกอ้าง ว้างจิต เซ็งเฮย
ตริหาผู้พินิจ- คิด ชิดใกล้
ชีวาผ่านชีวิต สงบเงียบ สุขฤๅ
เปิดจิตปล่อยตนไว้ แด่ผู้ ไฝ่แล
เบิกเบื้องทั้งคู่เนตร มองไป
อกหักจัก - มงคลไชย ไป่บ้า
ปุถุชนบ่นอยากใกล้ ดาราเด่น นางฤา
เพี้ยงเพียงอยากพบหน้า แห่งเจ้า พาขวัญ
......................................
นั่งทำมึนแต่เช้า อยู่เฝ้าคอมเหมือนบ้า ข้าวปลาไม่ยอมกิน ยังไม่ชินกับรักร้าง
แสนอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว อยากไปเที่ยวไปเล่น ใจเย็นเย็นน้องชาย อย่าริหมายสิ่งใด ใจชกช้ำข้าเอ๋ย นั่งเฉยเฉยไปก่อน นอนเถิดนอนซักงีบ งีบซักงีบค่อยตื่น
ตื่นแล้วตื่นต้องเดิน เดินแล้วเดินไปไหน ...ดีน้อ T T
สุริยะ จ จับฟ้า คราใด
เพียงฤทัย จับจิต คิดหลง
บาทาก่าย หน้าผาก หากพะวง
หนึ่งอนงค์ คงฝักราก ยากหักใจ
ทิตยะ สุริยง ปลงสุดจิต
นิรฤทธิ์ พิษรัก จักหาย
รักษาจิต ชีวิต นิมิตรกาย
ชีวาวาย คงมิคลาย พายพัดไป
............................................
ขี้เกียจละ ง่วง
17 ตุลาคม 2547 23:56 น.
เชา
รักร้าว รานรอน เรื่อยล้า
รักล้ม ร่วงรา ร้างไหล
รักร้อน รุมเร้า เรไร
รักรา เลือนไร ร้างเรา
หยาดน้ำฟ้า หลั่งมา ห่าฝน
หนึ่งคน ทนทุกข์ รุกเร้า
ธารา - นัยน์ตา เป็นเพื่อนเงา
แสนเหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย
หนึ่งคน กมลร้าว กราวแหลก
หนึ่งคน แตกแยก แหลกสลาย
หนึ่งคน สมจิต พริ้งพราย
หนึ่งคน หมดความหมาย ทลายลง
ครืนโครม กระหน่ำซ้ำ พายุ
วาหุ แห่โหม โทรมสรง
นำตา เอื่อยไหล อ่อนลง
ฉันปลง ฉันไป ทำใจ...ว้อยยย
15 เมษายน 2547 23:57 น.
เชา
กลิ่นคลุ้ง ฟุ้งคาว เน่าเละ
ฟอนเฟะ แฉะเยิ้ม หลั่งไหล
เหลืองอ่อน กลิ่นคลุ้ง ตลบไกล
ตับไต ไหลทะลัก ผลั่กพลัน
แดงฉาน ชาดหลั่ง โลหิตย้อย
ตาห้อย ค่อยหลุด จากขัณฑ์
ชันกาย ลุกขึ้น ขาพลัน
หักสะบั้น แขนขาด ปราดนอน
กรีดร้อง กังวาล พล่านพุ่ง
สุวานมุ่ง ระส่ำ พร่ำหอน
แสยะยิ้ม คืบคลาน ตัวขาดพอง
ไหลลงกอง สยองไส้ ไหลลงดิน
กลิ่นเลือด น้ำเหลือง เนืองเคล้า
กลิ่นกาย เหม็นเน่า ชั่วช้า
อยากตาย แต่ไม่ มรณา
ตัวข้า อมตะ เพราะเคยตาย
คืบคลาน นานมา มังสาหลุด
ครืดหยุด ติดดิน ถิ่นพื้น
กายา หลุดออก ไม่คืน
ข้าฟื้น กลับมา จากอเวจี
โหยหวน ครวญคราง พลางจิต
ยามอาทิตย์ พ้นฟ้า ข้าคงหนี
กลับลงสู่ ใต้พื้น ธรณี
ตรงที่ ข้านอนซุก สุขนิรันดร์
ลองแต่งแนวนี้ดูครับ
ยังไม่ดีเท่าไหร่...
เปลี่ยนแนวบ้าง
แต่งแนวรักมากเกินมันจะเลี่ยน
ปล. รูปข้างบน ลองดูตรงกระจกดีๆครับ
13 เมษายน 2547 00:46 น.
เชา
ฝากให้ฟ้า นภา ดาราจักร
ให้เธอพัก จากงานหนัก ที่มาหา
ให้ใจฉัน ปันห่วงใย ทุกเวลา
จากนภา จรดพิภพ ซบลงนอน
เพียงคืนนี้ ค่ำวันนี้ มีจันทร์กล่อม
ดาราล้อม ฝันดี ยามกอดหมอน
มีสายลม พัดความโศก ยามเธอนอน
ร้อยบทกลอน สะท้อนจิต คิดถึงเธอ
ห่วงห่วงเธอ อยากเจอ เพียงหน้า
สบตา บอกรัก ภักดิ์เสมอ
จะเอื้อมฟ้า คว้าดาว มาให้เธอ
ขอพบเจอ พิศวาส ทุกชาติไป
ค่ำคืนนี้ แค่เธอ ไม่มีเรื่อง
ขุ่นเคือง ทำร้าย เสียใจ
กลอนนี้ เป็นลม พัดไป
เพียงให้ เธอสุขใจ ... นิรันดร์