5 สิงหาคม 2550 16:26 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
นางสาวก. จบด็อกเตอร์ ชอบรถเบ็นซ์ เพราะรถเบ็นซ์สวยดี
นาย ข. เพิ่งจบป.ตรี ก็ว่า รถเบ็นซ์ สวยดี แต่เขาไม่ชอบรถเบนซ์ เพราะ ครั้งหนึ่ง เพื่อนรักเขาเคยโดนรถเบนซ์ชนตาย
นางสาว ก. พยายาม จะ บอก ให้นาย ข ชอบ รถเบ็นซ์ เพราะรถเบ็นซ์ สวยดี แต่นายข. ยังฝังใจเรื่องเดิม ทั้งที่ก็ยอมรับว่ารถเบ็นซ์สวยดี แต่ เขาก็ทำใจให้ชอบรถเบ็นซ์ไม่ได้
นางสาว ก. ก็เลยด่านาย ข. ว่า "ไม่มีตังค์จะซื้อรถเบ็นซ์ละสิ แกเลยไม่ชอบรถเบ็นซ์"
นาย ข. บอกว่า "ไม่ใช่ นะ รถเบ็นซ์ มันก็สวยดี และก็จริงอยู่ ที่ผมไม่มีตังค์ แต่ ถึงผมมีตังค์ ผมก็คงไม่ซื้อรถเบ็นซ์"
นางสาวก. ก็เลย "เรียกพรรคสมัครพวก" มารุมด่า นาย ข. ว่าเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว รถเบ็นซ์มีดีขนาดนี้ ไม่มีตังค์จะซื้อรถเบนซ์ แล้ว ยังจะไม่ชอบรถเบ็นซ์ อีก
พวก นางสาวก. ก็มารุมเออ ออ ห่อแมว กับ นางสาว ก. ด้วย เพราะรถเบ็นซ์ เป็นที่นิยม กับคนหมู่มาก และในคนหมู่นั้น ก็ไม่เคยมีใคร ที่มีเพื่อน โดน รถเบ็นซ์ ชนตาย เหมือน เพื่อนนาย ข. สักคน
30 กรกฎาคม 2550 16:52 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
มีเด็กวัยรุ่นที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ ร้านก๋วยเตี๋ยวในตลาดใหญ่ อยู่คนหนึ่ง เขาเป็นแฟน มีความรักกับเด็กเสิร์ฟสาว ร้านเดียวกัน
ทีแรก ทั้งสองก็รักกันดี
แต่พอเวลาผ่านไป เด็กเสิร์ฟสาว บอกเลิกกับเด็กเสิร์ฟชายคนนั้น
เด็กเสิร์ฟชาย เสียใจมาก ร้องไห้โฮ บ่นบ้า โอดครวญ ตามประสา คนใจร้อนที่ไม่เคยมีแฟน และเพิ่งเคยโดน "บอกเลิก" เป็นครั้งแรกในชีวิต
ในบรรทัดฐานทางสังคม เวลาอกหัก ผู้ชายต้อง "เงียบ" ห้ามร้องไห้โวยวายอะไรทั้งสิ้น
ไม่น่าประหลาดใจเลยที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว และ เพื่อน เด็กเสิร์ฟ (แม้จะวัยย่างใกล้สามสิบแล้ว) คนอื่นๆ จะเข้าข้างฝ่ายหญิง
เมื่อผู้ชายพูดมาก เจ้าของร้านจึงร่วมใจกับเด็กเสิร์ฟ คนอื่น ๆ ในร้านลงโทษ เด็กเสิร์ฟ ผู้ชายด้วยการ ติดป้ายด่าพ่อด่าแม่ เด็กเสิร์ฟ คนนั้นทั่วร้าน แถม ยังไปเกณฑ์ แม่ค้าขายส้มตำข้างร้าน มาร่วมวงไพบูลย์ ด่า เด็กเสิร์ฟคนนั้นอยู่นานกว่า หกสิบวัน ติดต่อกันแบบนอนสต็อป
ทั้งหมดทั้งมวลที่ทางร้านและพวกผอง ทุ่มทุนสร้าง ลงมือกระทำไปนี้ เกิดจากสาเหตุที่ว่า ไอ้เด็กเสิร์ฟ คนนี้มันอกหัก แล้วไม่รู้จัก "เก็บอารมณ์"
------------------------
ด้วยความที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มีอยู่ร้านเดียวในตลาด คนทุกคนจึงมักจะมาบริโภค อาหารภายในร้าน
ไม่นานนักไอ้เด็กเสิร์ฟผู้ชาย ก็ถูกประจาน สาวไส้ ไปทั้งตลาด
(อดีต) เด็กเสิร์ฟผู้ชายเสียใจมาก เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แค่อกหัก มันก็ ทำใจลำบากแล้ว ยังมาโดนนายจ้าง กับเพื่อนคนอื่น ๆ รุมเหยียบอีก
มันจึงจากร้านก๋วยเตี๋ยว พร้อมกับทิ้งจดหมาย ขู่นายจ้างไว้ ว่า วันนึงมันจะกลับมาแก้แค้น ฆาตรกรรมวิปริตพิศดาร ยิ่งกว่า hannibal rising ก็ไม่ปาน
------------------------
หกเดือนผ่านไป เด็กลูกจ้างในร้านที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงาน ถูก "เก็บ" ไปทีละคนสองคน
ไม่มีใครล่วงรู้ว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นตายร้ายดีอย่างไร
ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าของร้านไม่มีงบ จ่ายค่าลิโพตำรวจ
เหตุการณ์เยี่ยงนี้ ยังความกลุ้มใจให้กลับเจ้าของร้านยิ่งนัก
นับวัน ความวิตกกังวลยิ่งสุมอก
เจ้าของร้านก็เลยตัดสินใจ "ยกพรรคยักพล" ที่ยังจะพอเหลือหลงชีวิตอยู่ ผู้เคยร่วมสังฆกรรมด่า อดีตเด็กเสิร์ฟของตนไปทำบุญ ที่วัดข้างตลาด ด้วยหวังว่า จะสบายใจขึ้นมาบ้าง
----------------------
พอไปถึงวัด
หลังจากทำบุญ รับพร กรวดน้ำ แล้ว
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว จึงได้ ปรับทุกข์กับเจ้าอาวาส
"พระคุณเจ้าคะ เกิดมาตั้งแต่จำความได้ อิชั้นไม่เคยนึกเกลียดใครเลยเจ้าคะ มีแต่อ้ายนี่ อิชั้น คิดถึงน้ำหน้ามันทีไร จิตใจก็ตกต่ำ ไม่เป็นอันสงบ ต่อไปนี้ ถ้ามันจะ พยาบาทเบียดเบียน จองเวร กับอิชั้นก็เชิญเถอะเจ้าคะ อิชั้นขี้คร้านจะถกเถียงกับมันให้มากความ"
หลวงพ่อจึงพูดว่า
"แล้วโยมจะทำยังไงต่อไป"
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวจึงตอบกลับ
"อิชั้นก็คงจะทำได้แค่เพียง ทำบุญกรวดน้ำให้มันเท่าที่จะนึกได้ กระมังคะ ชาติก่อน อิชั้น คงทำร้ายมันไว้มากมายหลายขนาด ชาตินี้ มันถึงได้จองเวรกับอิชั้นขนาดนี้"
หลวงพ่อ นั่งนึก อมยิ้ม แล้วตอบว่า
"โยมแน่ใจนะ ว่าที่โยมไปทำร้ายเขานะ เป็นชาติที่แล้ว"
เจ๊เจ้าของร้านนิ่งอึ้งหยุดคิด
หลวงพ่อจึงพูดต่อไปอีกว่า
"คิดดูให้ดี ว่าไม่ใช่เมื่อหกเดือนที่แล้วหรอกหรือ "
3 พฤษภาคม 2550 01:49 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
แม้ว่าผมจะมีนิสัยประหลาดที่ชอบเฝ้าสังเกตอากัปกิริยาของสรรพสัตว์โดยทั่ว
แต่ ผมก็ต้องสารภาพเลยว่า สัตว์ประเภทที่ผมชอบ มอง ชอบสังเกตที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นสุนัข
----------------
บ้านผมไม่เคยถึงกับซื้อสุนัขมาเลี้ยง
แต่กระนั้น ก็ยังคงมี สุนัขมากมายนับสิบมาอาศัยอยู่บริเวณบ้าน
อาจจะเป็นเพราะว่า ที่บ้านผมมีอาหารเหลือที่เลี้ยง คนงานทหาร อยู่เยอะ
สุนัขเหล่านั้นก็เลยถือวิสาสะ มาร่วมรับประทาน รวมกิน ร่วมเจ็บร่วมตาย กับสมาชิกในบ้านของผม แม้จะไม่ได้รับ เชิญ แต่ทุกคนก็เต็มใจให้ที่พักพิงแก่ เพื่อนร่วมโลกที่มีสี่ขากับอีกหนึ่งหางเหล่านั้น โดยไม่รังเกียจเดียดฉันท์แต่ประการใด
ในหมู่ฝูงสุนัขทั้งหมดนั้น
มีสุนัขพันธุ์ไทยจรจัดอยู่ตัวหนึ่ง ที่ท่าทีกวน ๆ ของมันมาเตะตาผมเสียได้
หูมันตั้ง หางมันดาบ ได้ลักษณะดี อย่างหมาพันธุ์ไทยแท้ ดูกรวนตรีนสิ้นดี
ผมเลยจัดแจงแต่งชื่อให้มันว่า ไอ้ "ชูหางศ์"
หลายคน คง จะสงสัยว่า ทำไม "ชูหางศ์" ต้องมี "ศ.ศาลาการันต์"
คำตอบที่ผมพอจะมีให้ได้ก็คงจะเป็นประมาณว่า
"ไม่รู้สิ หน้าตาท่าทางมันเหมือนคนดีมั้ง ดีไม่ดี มันอาจจะโดนเพื่อนหมา ด่ามันเวลาโกรธว่า "ไอ้ชาติคน" เหมือนอย่างที่เราด่าคนอื่นว่า "ไอ้ชาติหมา" เวลาโกรธก็ได้ ดังนั้นผมเลยอยากตั้งชื่อให้มันคล้ายมนุษย์ โดยการเติมการันต์ เข้าไปท้ายชื่อมัน"
ไอ้ชูหางศ์ มีนิสัยดีมาก ๆ เป็นสุภาพบุรุษ คอยดูแลเทคแคร์ เหล่าสุนัขตัวเมีย ในบ้านผมอยู่เสมอทุกตัว จน ผมว่า สุนัขตัวเมีย สาวแก่แม่หม้ายหลายตัว คงหลงเสน่ห์ไอ่ชูหางศ์เป็นแถบ ๆ
ผมว่านะ ถ้ามันเป็นคน มันคงได้ฉายาว่า "ยอดสุภาพบุรุษ" ไปแล้ว
แต่นี่มันไม่ใช่คน เป็นแค่สุนัข ดังนั้น เพื่อน ๆ สุนัข ก็คงจะแต่งตั้งให้มันเป็น "สุภาพบุรุษชูหางศ์" แน่ ๆ
------------
อยู่มาวันนึง มีสุนัขเพศผู้จากบ้านหลังข้าง ๆ มาติดพัน กับสุนัขตัวเมียตัวหนึ่งในกลุ่ม ที่ไอ้ชูหางศ์ มีอิทธิพลอยู่
แต่อนิจจัง(ไร) สุนัขเพศเมีย เด็กในคอนโทรลไอ้ชูหางส์ตัวนั้นดันไม่เล่นด้วย แต่ถ้าจะไม่เล่นเดียวอย่างเดียว แล้วอยู่เฉย ๆ ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก
แต่นี่ เจ๊แก เล่นพาพวก (ก็ลูกน้องในคอนโทรลไอ้ชูหางศ์อีกนั่นแหละ) มารุม ขบ รุมกัดไอ้สุนัขตัวผู้ต่างถิ่นนั้น สุนัขตัวผู้ที่มาจากข้างบ้าน ก็เลยเสียอก เสียใจ ร้องไห้ระงม เห่าหอน โหยหวนอยู่ข้างบ้านให้เป้นที่น่าเวทนาอนาถใจยิ่งนัก
ญาติพี่น้องของไอ้สุนัขข้างบ้าน ซึ่งเป็นสุนัขเพศเมีย (ที่อยู่ข้างบ้านเช่นกัน) ก็อดสงสารเพื่อนตัวไม่ได้ สุนัขเพศเมียที่อยู่ข้างบ้านตัวนั้น ก็เลย ลอดรั้ว เข้ามา เห่า "ปราม" และ "ตักเตือน" สุนัขเพศเมีย รวมถึงลูกน้องเด็กในคอนโทรลไอ้ชูหางศ์เป็นการใหญ่
ไอ้ชูหางศ์ เห็นสุนัขเพศเมีย ที่มาจากข้างบ้าน มาเห่าสุนัขเพศเมียเด็กในคอนโทรลของตัวเอง แล้วถึงกับทนไม่ได้
เกิดต่อม "สุภาพบุรุษชาติหมา" อยากทำงานขึ้นมาทันที
เลยต้อง ลุกขึ้นมาเห่า และกัด สุนัขเพศเมีย ที่มาจากข้างบ้านนั้น เสียเสียรูปเสียโฉมร้องไห้ กลับไปครางหงิง ๆ อยู่ข้างบ้าน
คุณผู้อ่าน อ่านถึงตอนนี้แล้วรู้สึกประหลาด ๆ ไหมครับ
ไอ้ชูหางศ์ อยากเป็น "สุภาพบุรุษ" ด้วยการปกป้องสุนัขเพศเมียในคอนโทรลของตัวเอง แต่ขณะเดียวกัน มันกลับใช้ข้ออ้างของการเป็น "สุภาพบุรุษ" นั้น ไปทำร้าย สุนัขตัวเมีย ที่มาจากข้างบ้าน
เอาหล่ะ
มาถึงตรงนี้แล้วผมให้สงสัยนัก
เมือ่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้
ไอ้ชูหางศ์ ยังจะมีหน้าเรียกตัวเองได้ว่า "สุภาพบุรุษชาติหมา" ได้อีกไหม
1 พฤษภาคม 2550 21:35 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เรานี่มันแย่จริง ๆ นะ
เกิดมายี่สิบห้าปี
ปกติเคยเห็นแต่
พระปลอม
ตำรวจปลอม
ทหารปลอม
ไม่ยักเคยรู้มาก่อนว่า โลกนี้ จะมี "หมาปลอม" กะเขาด้วย
พระปลอม เนี่ย คนปลอม มีจุดประสงค์อาจจะอยากกินข้าวฟรี หรือไม่ก็เอาเงินที่คนทำบุญไปใช้ไปสอยสนุกสนาน
ส่วนตำรวจปลอม หรือ ทหารปลอมเนี่ย คงเป็นความทรงจำฝังใจวัยเด็ก ที่ปลื้มคนในเครื่องแบบ แต่ด้วยเหตุผลกลใด ก็ไม่ทราบ เขาคงไม่อาจจะฝ่าฟัน สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารอะไร ๆ ได้ กระมัง
เลยต้องมาปลอมตัวอย่างงี้
แต่เอ...
แล้วไอ้ "หมาปลอม" เนี่ยมันปลอมตัวมันไปทำไมกันนะ
--------------
ก็เรานี่แหละที่โง่ เอง ที่ไปหลงเชื่อ ไอ้ "หมาปลอม" (doct. ปลอม) เสียสนิท
ไอ้ ตัวที่มันบังอาจปลอมตัวเป็นหมาก็ไม่ใช่ตัวอะไรหรอก
เผอิญ เราแค่ไปเจอ ตะกวดบางตัว จะให้มันแลบลิ้น ผงกหน้า ต่อสู้ ข้าศึกศัตรูอย่างชาติตระกวดตามประสามันก็คงกระไรอยู่
มันเลยอยากจะอุตริ เขย่งเก้าโย่งโย่ แล้วเห่าแบบ "หมา" เพื่อไปไล่กัดชาวบ้านบ้าง
อีกนัยหนึ่งคือคนชาติตะกวดจำพวกนี้ พยายามสร้าง "license to bite" หรือ "ใบอนุญาตให้ขบผู้อื่นเยี่ยงหมา" เพื่อจะได้พูดจาว่าร้ายกับคนอื่นได้โดย (ดูเหมือน) ชอบธรรม
แล้วแบบเพื่อน ๆ ที่เกิดเป็นชาตะกวด ก็สนับสนุน มันเป็นการใหญ่
เราก็สงสัยอยู่ว่า ถ้ามันเป็น หมา (doct) จริง ๆ ทำไม มันอ่านคำว่า pending กับ อ่านโคลง แม็คเบ็ธ ไม่ออก (วะ)
แต่ด้วยความที่เราช่างโง่นัก เราก็เลยหลงเชื่อ ว่ามันเป็นหมาจริง ๆ ไปตั้งนาน
เพิ่อนเราเพิ่งมาบอกเราเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ว่า อ้าย หรือ อี "ชาติตะกวด" ตัวนั้นมันใฝ่ฝัน อยากเป็นหมา (doct) มันเลยตั้งต้น ปราบดาภิเษกตัวเองเป็น "รางสาดหมาเต้อร์" (รส.มต.) ตั้งแต ยังไม่จบปริญญาโท
แล้วเที่ยวสร้างเขี้ยวเล็บปลอม ไล่กัดชาวบ้านไปทั่ว
เราดูแล้วก็ให้อนาถใจนัก
---------------
โดยปกติ แล้ว เวลามีข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ว่า พบ "พระปลอม" หรือ "ทหารปลอม" หรือ "ตำรวจปลอม" เนี่ย คนพวกนี้ มักจะโดนดำเนินคดีอาญาทั้งนั้น
แต่เราไม่รู้ว่า ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีทางอาญา กับพวก "หมาปลอม" ที่ไอ้คนชาติตะกวดมันปลอมตัวมา รวมถึงพวกที่สนับสนุน หรือเป็นตัวการชัยโยโห่หิ้วไปกับมันด้วยรึเปล่า
น่าคิดเนอะ
แต่ก็ช่างเหอะ
ก็เรามันโง่กฎหมายอาญานี่นา
ถึงแม้จะเรียนกฎหมายระหว่างประเทศมาก็ตาม
23 มกราคม 2550 09:55 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
.
รักและคิดถึง
จากต้นไม้^^