25 สิงหาคม 2553 23:08 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ศิลเปรอะเขรอะอยู่ใกล้........ตัวกู
เลอะเทอะเละเทะดู........แปลกหน้า
บ้างเสียงปู๊ดปาดหู..........หันผึ่ง
กลิ่นตดเหมือนบูดบ้า........แบบนี้เรียกเหม็น
ศิลเปรอะเขรอะโลกทุกโศกเศร้า
ศิลเปรอะเรื่องเก่าเราไม่เบื่อ
ศิลเปรอะสร้างเงินทุนไว้จุนเจือ
ศิลเปรอะปลุกความเชื่อเพื่อมวลชน
ผู้คนเราร่ำรวยด้วยศิลเปรอะ
แม้เลอะเทอะแต่มากฤทธิประสิทธิผล
สร้างตลาดลดอดอยากความยากจน
เลิกทุกข์ทนมาแจกทองน้องพี่เรา
ไว้ตั้งพรรคการเมืองประเทืองชาติ
คืออำนาจศิลเปรอะเขรอะวงเหล้า
เล่นระบำรำฟ้อนก่อนจะเมา
เคาะจานเก่ากระจกแก้วแล้วเฮฮา
ต่อด้วยหมอกควันไฟใส่เลาปี่
แล้วพิรี้พิไรร้องกับน้องหมา
ระบายภาพใส่ขนคนลือชา
กลุ่มพวกข้าศิลเปรอะเขรอะทางเดินฯ
23 สิงหาคม 2553 12:55 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
นิราศแล้วยังคะนึงถึงความหลัง
เชษฐภัทรหวั่นไหวในภวังค์
สิ่งพลาดพลั้งในอดีตยังติดตาม
ชาติก้าวย่างยิ่งใหญ่ไปข้างหน้า
สิบปีรถไฟฟ้าน่าเกรงขาม
รักที่เคยยึดถือคือนิยาม
คู่กับความเป็นประชาธิปไตย
จากหมอชิตวิ่งย้อนไปอ่อนนุช
อีกสายสุดบรรจบตรงวงเวียนใหญ่
ความรักเก่าเพ้อพล่ามบอกความใน
ความรักใหม่จึงมีหน้าตาอย่างนี้
ความคิดคนวนเวียนไม่เปลี่ยนผัน
ทุกคืนวันหวาดผวาการปาหี่
เลือกตั้งชาติไม่ทันมั่นคงดี
เดี๋ยวก็มีปฏิวัติมาจัดการ
แล้วฉีกรัฐธรรมนูญเปลี่ยนศูนย์ถ่วง
ให้ลุล่วงคำสัตย์รัฐประหาร
เลือกตั้งใหม่เพื่อจัดรัฐบาล
ให้ผู้แทนรับประทานบ้านเมืองกัน
ถึงมีรถไฟฟ้ามาใหม่วิ่ง
แอร์พอร์ตลิ้งค์โยงเส้นทางงานสร้างสรรค์
คนคงคิดแบบเก่าอย่างเมามัน
วงจรเดิมดื้อรั้นพันใจกาย
"พญาไท" ทางแพร่งแบ่งอีกเส้น
สถานีโดดเด่นเห็นอีกสาย
เผื่อจะเปลี่ยนดวงจิตที่ปิดตาย
สู่จุดหมายมุ่งหน้าหาความจริง
ไทนี้มิใช่ทาสประกาศชัด
ให้เจนจัดคิดครวญทวนทุกสิ่ง
เมื่อหลายฝ่ายขัดแย้งยิ่งแย่งชิง
อย่าพึ่งพิงองค์ความรู้อยู่ชุดเดิม
มิใช่ทาสนิยามรักเพียงสักชุด
เราต้องขุดตั้งคำถามตามตอบเสริม
หลายหลายมุมหลายเสียงสำเนียงเติม
เพื่อจะเริ่มเป็นผู้รู้เล่ห์กล
มองสถานีเบื้องหน้า "ราชปรารภ"
ตรองระบบการศึกษาพาฝึกฝน
มหาวิทยาลัยสอนคนให้เป็นคน
หรือเป็นแค่ผลิตผลหุ่นยนตร์ทุน
ผลิตทุกนิยามความฉาบฉวย
เร่งเร็วช่วยสร้างกำไรไหวปรับหมุน
ลืมสอนให้ตรึกตรองมองบาปบุญ
ศีลธรรมคำจุนทุกทุนนี้
เป็นอีกเรื่องเดิมเดิมเสริมปรารภ
ไม่เคยจบไม่เคยจำย่ำกับที่
จะอีกหมื่นร้อยวันอีกพันปี
ก็ไม่หนีแนวทางอย่างเดิมเดิม
"มักกะสัน" ตลอดนักรักกระสัน
ทุกคืนวันวนวิ่งยิ่งฮึกเหิม
พัฒนาชีวิตคิดปรับเติม
เพื่อริเริ่มก้าวย่างอย่างเข้าใจ
ปฏิวัติกี่ครั้งกี่ครั้งแล้ว
คงไม่แคล้วหิวสตังค์อีกครั้งใหม่
เผด็จการหรือประชาธิปไตย
ก็กระสันอยู่ร่ำไปจำให้ดี
"รามคำแหง" สื่ออักษรแบบลายสือ
จากลายมือเป็นพิมพ์ดีดขีดวิถี
แล้วเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เวิ่นเว้อวจี
เครื่องบีบีมาใหม่ใช้ให้ทัน
อักษรสื่อข่าวสารการรู้รอบ
ทุกคำตอบหลากหลายวุ่นวายหวั่น
ข่าวจริงลวงหวานขมผสมกัน
ยิ่งเร็วยิ่งเลือกสรรหมั่นตรึกตรอง
แช็ตบีบีบอกรักกันสักนิด
แนบสนิทนิ้วชี้-กลางจิ้มอย่างคล่อง
ข่าวระเบิดประท้วงกันต้องกลั่นกรอง
เลือกบอกน้องให้ระวังสังวรตาม
ถึง "หัวหมาก" หากมั่วข่าวชั่วร้าย
จะวุ่นวายหากลืมย้ำตั้งคำถาม
หัวข้อข่าวสำนักข่าวสืบสาวนาม
อย่ามองข้ามความลำเอียงเสียงสื่อลวง
อย่ายึดติดตามข้างอย่างที่ชอบ
ทุกกฎกรอบรัก-เกลียด-กลัวคือตัวถ่วง
ยึดติดเหมือนหมากฝรั่งเหนียวทั้งยวง
เสียงทุกข้างใช้ชั่งตวง ทั้งปวงไป
ถึง "ทับช้าง" ทางเปลี่ยวโดดเดี่ยวแท้
ยังต้องแก้งานช้างกันอย่างใหญ่
ทัศนคติความเป็นคนพลเมืองไทย
สิทธิ์การเมืองใครใครให้เท่ากัน
จริงที่ความรวยจนคนแตกต่าง
บนเส้นทางการลงแรงความแข็งขัน
แต่สิทธิ์การเลือกผู้นำย้ำทุกวัน
ไม่แบ่งชั้นแบ่งชีวิตติดราคา
สวัสดิการการศึกษาสาธารณสุข
บำบัดทุกข์คนยากไร้ให้คุณค่า
ฉันบอกเธอเช่นนั้นทุกวันมา
เธอก็รับพยักหน้าว่าเออ-ออ
"ลาดกระบัง" ข้างหน้าเมื่อมาถึง
ยังอลอึงภวังค์เก่ามัวเมาต่อ
วงจรเก่าหมุนมาใหม่ไม่เคยพอ
เลยอยากขอ กำบังจากสังคม
บางทีอยากละวางทางชีวิต
ทุกจริตเลวดีที่สั่งสม
ลมปากด่า - ลมระรื่นคนชื่นชม
จะขอกำบังลมหลบมาพัก
แต่ชีวิตยังคงต้องเดินหน้า
หยัดอยู่ท้าทายโลกทุกข์โศกตระหนัก
บางปัญหาแก้ไม่ได้วุ่นวายนัก
ก็แค่ทำความรู้จักแล้วปล่อยวาง
หากปัญหาแก้ไม่ได้ไม่ต้องแก้
ขอเพียงแค่ยืนยัดกล้าอย่าทิ้งขว้าง
ค่อยปรับเหตุหลากหลายทางสายกลาง
ลองอยู่อย่างเข้าใจคิดให้ดี
"สุวรรณภูมิ" ถึงจุดหมายเหมือนง่ายมาก
แต่ก็ยากถ้าทบทวนให้ถ้วนถี่
ประวัติศาสตร์โศกสุขทุกกรณี
กว่าจะถึงวันนี้ที่เป็นคน
โลกผ่านผันวันปีอย่างที่เห็น
ทุกประเด็นคำถามความสับสน
อาจยังวุ่นเหว่ว้าสาละวน
หากไม่ค้นไขว่คว้าหาบทเรียน
เทคโนโลยีก้าวหน้าไทยกล้าแกร่ง
ยิ่งเรืองแรงรักในใจไม่เคยเปลี่ยน
นิราศใหม่ใจเก่าเฝ้าวนเวียน
ยังพากเพียรตั้งคำถามเพ้อพล่ามไป
เชษฐภัทรประพันธ์เพลงบรรเลงนิราศ
ป่าวประกาศสุขและทุกข์อีกยุคสมัย
ด้วยรักและศรัทธาประชาธิปไตย
ผ่านวิสัยคำกวีอีกทีเอย
23 สิงหาคม 2553 00:15 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ไม่อยากให้วรรณกรรมย่ำกับที่
เราต้องมีนิสัยใฝ่การอ่าน
เริ่มแรกจากวิสัยทัศน์รัฐบาล
ต้องจัดการปลุกกระแสแก้ไขกัน
ให้นักเขียนเป็นบุคคลควรยกย่อง
ค่านิยมเรียกร้องต้องมุ่งมั่น
ให้นักเขียนเป็นตัวอย่างก้าวย่างกัน
สถาบันการศึกษาพาเริ่มเลย
ลดกระแสหลีดงานบอลผ่อนลงบ้าง
เพื่อสรรสร้างให้ราคาความผ่าเผย
ให้ความรู้นักศึกษาอย่าเฉยเมย
อย่างที่เคยตามกระแสแค่เปลือกคน
ทั้งรายการโทรทัศน์จัดคุณค่า
โฆษณาให้งานเขียนเพียรฝึกฝน
เลิกเถิดพวกชวนโหวตลิงโลดลน
เหล่าดาราสาละวนบ่นบ้ากาม
รัฐบาล มหาวิทยาลัย ใช่ทั้งหมด
สื่อมวลชนต้องกำหนด บทคำถาม
ค่านิยมเยาวชนผลเพาะตาม
ทุกรูปนามที่เป็นไปในสังคม
หากส่งเสริมให้คนหมั่นสร้างสรรค์คิด
เลิกยึดติดความฉาบฉวยช่วยเพาะบ่ม
มีสติสตังค์จัดวัตถุนิยม
ปัญญาจะเริ่มสะสมลับคมเติม
คนจะเลิกหลงใหลในเปลือกกระพี้
ตามวิธีสืบสานการอ่านเสริม
คือช่างคิดพิจารณาพาประเดิม
ก่อความคิดริเริ่มเพิ่มเติมมา
เป็นเพราะงานวรรณกรรมนำพาสร้าง
แผนเน้นทุกเส้นทางอย่างมีค่า
ปลุกความคิดการเมืองประเทืองปัญญา
ปลุกราคาความเป็นคนคือผลดี
กริ๊ง +++ กรี๊ง!!!! นาฬิกาปลุกให้ลุกตื่น
สะดุ้งยืนจากเตียงกว้าง พลางเหม็นฉี่
อะไรแฉะบนที่นอนในตอนนี้
อ้าวบัดสี น่าอดสู กูฝันไป!!!
22 สิงหาคม 2553 20:42 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
หากคิดเป็นนักเขียน
ก็ต้องเพียรเป็นนักอ่าน
เป็นนักดูรู้งาน
หูตาเราต้องว่องไว
แล้วต้องเป็นนักคิด
ตรองถูกผิดในจิตใจ
ละเอียดละเมียดละไม
ทุกอณูรู้ใคร่ครวญ
จนเราอยากเล่าเรื่อง
จึงยักเยื้องความคิดหวน
กลั่นกรองอักษรทวน
ทุกความคิดประดิดประดอย
จึงเกิดเป็นงานเขียน
รักจึงเพียรผลิตถ้อย
ทุกคำใส่ใจคอย
ยิ้มน้อยใหญ่ในผลงาน
ใส่ใจให้กับกิจ
ใส่ชีวิตจิตวิญญาณ
ดื่มดำทุกทิพย์ฌาณ
ขณะเพ่งอักษรกล
ทั้งยามว่างไม่ว่าง
ทุกก้าวย่างเหมือนต้องมนตร์
เขียนได้ตลอดจน
กระทั่งทุกลมหายใจ
งานหลักคืองานสอน
ส่งเสริมย้อนงานเขียนได้
หลัก-รอง คล้องสายใย
โยงรากฐานงานมั่นคง
อาจไม่รวยล้นฟ้า
เงินไหลมาน่าใหลหลง
แต่จิตใจทรนง
ยิ่งใหญ่รวยด้วยผลงาน