26 กันยายน 2551 07:35 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เทวาลัยวิลาศฟ้า...................ฝั่งฝัน
สถิตอยู่บนดินอัน..................ต่ำต้อย
โยงจิตนภาพสวรรค์................ศรีวิเศษ
เกิดจากมือมนุษย์น้อย............เนื่องด้วยวิวิธศิลป์
เคยยินอัปสรเอื้อน.................อักษรา
เสนาะทิพยมนตรา.................แต่กี้
เสียงอดีตแล่กรีดกา-.............รุณยฆาต เราฤา
ถวิลทิวาเก่าชี้........................อกช้ำจำตรม
ชมภาพวันมืดครึ้ม...................ครวญถาม
ฟ้าก็อื้ออึงตาม.......................ตอบด้วย
เมฆโอบกอดตึกราม................เรียงเรียก เรานอ
ใจโศกปานมอดม้วย................หมกไหม้ใจหาย
รายเรียงตึกรอบล้อม...............ลั่นทม
รอยกลิ่นเร้าอกตรม.................ตรลบซ้ำ
เย็นปูนตึกเคยชม-....................เชยสัม-ผัสนา
การเปลี่ยนเวียนหมุนย้ำ.............ยกอ้างอนิจจัง
สังวรไตรลักษณ์แท้.................ทิพย์สถาน
เปลี่ยนรุ่นหมุนเวียนกาล............ก็แล้ว
กี่ร้อยนิสิตสืบสาน....................ธรรมศึก-ษานอ
ตึกก็เป็นขวัญแก้ว....................แกร่งกล้าทุกสมัย
ใจมนุษย์ช่างเล็กน้อย...............อนิจจัง
ทุกข์สุขเปลี่ยนเวียนสัง-.............เวชแท้
ศิลปะสิจีรัง.............................ลือโลก
คงอยู่นานตราบแม้....................ดับสิ้นสรวงสวรรค์
24 กันยายน 2551 22:06 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
สัตว์คนเมื่อสิ้นคิด
จึงสังคมเป็นสังคัง
มโนมรณัง
เมื่อมารหนุนหมุนมนุษย์
บัดสีบิดเบือนสัตย์
บัดซบซัดบริสุทธิ์
เลวทรามลามหลอนทรุด
ลวงหลอกเซ่นเล่นล้อทรวง
ความโลภขึ้นโลดแล่น
ตะคอกแค้นตะขิดตะขวง
ถ่อยถ้อยทักถามทวง
ซึ่งเสื่อมถอยสิ้นศรัทธา
ความโกรธคอยเกรี้ยวกราด
โอ้อุบาทว์อุบายบ้า
เจอพิษจิตใจพา
จนผิดเพี้ยนเจียนจวนพัง
ร้ายร้ายร้อนรุกราน
ความหลงลาญร่านตามหลัง
ชั่วช้าพาชิงชัง
เพื่อฉ้อชี้ผีโฉดฉล
หยุดที่ท่านหยุดเถิด
หยุดตายเกิดตามเล่ห์กล
สุขเคล้าเศร้าระคน
แล้วเคียดแค้นแค่นลำเค็ญ
รู้วงชีวิตวาด
ถูกผิดพลาดเพียรบำเพ็ญ
ยอกย้อนทุกร้อนเย็น
ที่ยั่วยวนทำย่ำยี
ภาวนาภาวะนำ
ตรำตรากถามตามวิถี
สติสิตามตี
ตัวภพ-ชาติพินาศเทอญ
22 กันยายน 2551 23:45 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
น่าอร่อยหอมเค้กโอ้................อบอวล
เสียงกระเพาะก็ก่อกวน................กลั่นแกล้ง
จากเตาอบเย้ยยวน.................เย้าหยอก เราฤา
กลิ่นบัตเตอร์ชีสแสร้ง.................สั่งน้ำลายสอ
บัตเตอร์ชีสเค้กป่วน
กลิ่นอบอวลแกล้งกวนใจ
หอมฟุ้งจากเตาไฟ
กระเพาะฟ้องอยากลองชิม
ทริปเปิ้ลช๊อกโกแลต
เป็นแฝดคู่กับไอติม
แกะออกจากรูปพิมพ์
ประณีตเพื่อคนสำคัญ
มัฟฟินมะเขือเทศ
ที่หอมหวนชวนเคลิ้มฝัน
รสหวานผสานมัน
เมื่อร้อนร้อนร่อนจากเตา
คัสตาร์ดบันโฮลวีท
สวีทไม่เท่ารักเรา
คำหวานเธอวอนเว้า
ไว้โรยเติมแทนน้ำตาล
แว่วแว่วว่าบอกรัก
วาบพะวักพะวงหวาน
นวดแป้งประหนึ่งปาน
เปรียบนวดเนื้อนิ่มชิมเพลิน
เค้กบลูเบอรรี่ชีส
สามชั้นสวยไม่ขวยเขิน
หลุนพลิ้วหวิวเหลือเกิน
ละลายพลันเมื่อพบลิ้น
มังกีช็อกโก้มูส
สูตรกล้วยหอมหล่อหลอมศิลป์
พลิกแพลงตะแคงดิน
โดดเด่นได้ด้วยสองมือ
ชูครีมมองบลองค์เสก-
สูตรญี่ปุ่นที่ฝึกปรือ
เสริมความเป็นไทยคือ
แค่ส่งยิ้มพิมพ์ลงไป
อีกพัมกิ้นชีสเค้ก
กินคู่กับเค้กทาร์ตไข่
อิ่มหนำสำราญใจ
จึงร้อยรักให้ถักทอ
ที่นี่เบเกอรี่
ที่แห่งนี้ที่เรารอ
อิ่มท้องอิ่มตาพอ
เพราะอิ่มรักอิ่มใจเอย
16 กันยายน 2551 16:20 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
แต่งตวยมโนเพ็ชรหื้อ..............หันประเทือง
จรัลแจ่มจำเริญเฮือง.............ฮุ่งแจ้ง
ลำนำแห่งกำเมือง................เกยม่วน
เสียงเสนาะบ่หันแห้ง............เหือดสิ้นตามสมัย
มโนเปิ้นคือเพ็ชร
แต้มภาพแจ่มจรัสเฮือง
แจ้งเวียงม่วนเสียงเมือง
ซึ้งม่วนใจ๋แต่ใดมา
ปี้สาวตี้หลงฮัก
ใคร่ฮู้จักเป๋นหนักหนา
ลือนามเลื่องล้านนา
เพลงลำนำภูมิลำเนา
ฮักสาวมอเตอร์ไซค์
อยู่เจียงใหม่ไกล๋เฮือนเฮา
รถถีบไปจีบเขา
บ่ตันแข่งแก้นควันตาย
ผมนี้เป๋นคนจน
มีกะใจ๋ไร้ความหมาย
สึ่งตึ๋งขนาดอาย-
บ่อวดบ้ากล้าดึงดัน
เพราะบ้านอยู่บนดอย
บ่ได้เป๋นเช่นเวียงสวรรค์
กิ๋นแต่ข้าวนึ่งกัน
ผักกาดจอผ่อทุกมื้อ
อยากของกิ๋นคนเมือง
กิ๋นของลำที่คนลือ
หากอุ้ยคำบ่ถือ
ยะหื้อกิ๋นจักยินดี
อุ้ยคำขี้คร้านยะ
เลยไปป๊ะกับมารศรี
ชื่อมะเมี๊ยะใจดี
ยะอาหารพม่าแทน
ยามเพลินล่องเวียงพิงค์
พิศดาวเฮืองอยู่เมืองแมน
แจ่มจรัสจรัลแสน
สวยดุจเพ็ชรพราวพิไล
เป๋นดาวดวงเดียวกั๋น
ยึดมั่นเป๋นกำลังใจ
คอยจ้วยคอยอวยจัย
อัญเจิญเสียงจากเวียงทอง
นามจรัลมโนเพ็ชร
ยิ่งลือเลื่องยิ่งเฮืองฮอง
ลำนำท่วงทำนอง.
ล้านนาศรีกวีเอย
11 กันยายน 2551 21:07 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
esame, besame mucho,
Como si fuera esta noche la última vez,
Besame, besame mucho,
Que tengo miedo a perderte, perderte despues [twice]
Quiero sentirte muy cerca mirarme en tus ojos verte junto a mí
Piensa que tal vez mañana yo ya estare lejos, muy lejos de ti
เถิดบรรจงจุมพิตอีกนิดหน่อย
ก่อนค่ำคืนเคลื่อนคล้อยค่อยเลือนหาย
จุมพิตเธอที่รักฝากทักทาย
หวั่นเสียเธอแทบตายวุ่นวายใจ
ตามองตาแล้วกอดออดอ้อนซึ้ง
ความคิดถึงผูกพันให้หวั่นไหว
หากวันพรุ่งพลัดพรากจากเธอไกล
ฉันคงไร้ความหมายตายทั้งเป็น