19 มีนาคม 2546 22:30 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
พักสายตา คู่นี้ ที่แสนหวาน
แม่จะเล่า นิทาน แต่กาลหลัง
ร้องเพลงกล่อม ลูกน้อย ค่อยระวัง
ลูกค่อยค่อย คอยฟัง อย่างตั้งใจ
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว จะขอกล่าว
มีเรื่องราว ของตะเกียง กับยักษ์ใหญ่
ถิ่นแบกแดด ดินแดน อันแสนไกล
แดนอาหรับ เกรียงไกร ให้เลื่องลือ
เจ้ายักษ์ใหญ่กับตะเกียงวิเศษ
มักมีเหตุ ถึงหู ผู้เลื่องชื่อ
หากผู้ใด เป็นผู้ดี มีฝีมือ
ย่อมใคร่ถือ ยึดตะเกียง แม้เสี่ยงภัย
เขาจะมี พลัง บังคับยักษ์
เพื่อปกปัก ดินแดน แคว้นเล็กใหญ่
เพื่อพิทักษ์ เขตขันธ์ อันวิไล
เป็นสุลต่าน มิเกรงใคร ในอาระเบีย
บัดนี้ เจ้ายักษ์ใหญ่ เปลี่ยนไปแล้ว
สิ้นวี่แวว ผู้รับใช้ ใจละเหี่ย
สุลต่าน ก็สิ้นหวัง ทั้งอ่อนเพลีย
กรุงแบกแดด คงสิ้นเสีย สักครานี้
ไอ้ยักษ์ใหญ่ หวังขยี้ กรุงแบกแดด
ส่งเสียงแผด ผาดรุก ไปทุกที่
สุลต่าน สิ้นพิษสง คงเสียที
ถูกยักษ์ร้าย มันโจมตี ขยี้กรุง
แม่เฝ้าโอ๋ ลูกจ๋า อย่าร้องไห้
หากยักษ์ร้าย มันได้ยิน แล้วจะยุ่ง
แม่จะหยิบ เอาจันทร์เสี้ยว เกี่ยวสายรุ้ง
ไออบคลุ้ง เคล้าดินหอม กล่อมลูกยา
พักสายตา เถิดลูกน้อย ค่อยค่อยหลับ
แม่จะนับ ดาวเดือน เพื่อนหมอกฝ้า
มาเรียงร้อย เป็นเกล็ด เช็ดน้ำตา
นะลูกจ๋า หลับตาลง ช่าง..สงคราม
17 มีนาคม 2546 21:08 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เพียงดาวกระพริบ ระยิบระยับ ประดับฟ้า
ผืนนภา ก็พราวพร่าง กลางเดือนดับ
เพียงหริ่งหรีด ระงมบอก ระลอกรับ
ก็รู้ว่า มีเสียงศัพท์ คีตศิลป์
เพียงหนึ่งยิ้ม พิมพ์ใจ บนใบหน้า
ก็รู้ว่า ความหวัง ยังไม่สิ้น
เพียงเศษซาก กากเกลือ ที่เหลือกิน
ก็ปรากฏ รสไอริณ จนสิ้นกัลป์
เพียงหนึ่งรส บทกวี ที่ขับขาน
ก็รู้ซึ้ง ถึงความหวาน สราญสันต์
เพียงสักเสี้ยว เศษใจ ที่ให้กัน
ทุกชีวัน ก็มีค่า ราคาคน
เพียงไอรัก สักวูบหนึ่ง ซึ้งประจักษ์
แม้ไม่เคย เอ่ยว่ารัก เลยสักหน
แม้ไม่เคย เผยความใน ให้ยินยล
ก็สุขล้น ด้วยประจักษ์ ในรักจริง
ชีวิตหนึ่ง ของคนเรา ก็เท่านี้
หนึ่งชีวี แค่มีรัก และรักยิ่ง
ถึงความรัก ถูกเมินหมาง คนร้างทิ้ง
แต่จงเชื่อ เชื่อในสิ่ง ที่ได้ทำ
ถึงความรัก ของฉัน มันไร้ค่า
ด้วยเธอไร้ ปรารถนา อารมณ์ร่ำ
แค่เพียงเผย ได้เอ่ยถ้อย ร้อยลำนำ
ประจักษ์คำ ย้ำว่ารัก ก็สุขใจ
16 มีนาคม 2546 10:54 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ผีเสื้อ
เมื่อผีเสื้อบิน
สีสรรพ์สวยศิลป์
ก็บินจากใจ
รุ่งเช้า
เช้าของวันใหม่
ผีเสื้อ สดใส
หัวใจ เบ่งบาน
ลอยพริ้ว
เริงลิ่ว หวิวผ่าน
มวลไม้ หมอกม่าน
สายธาร แสงทอง
สดสี
ผีเสื้อ พริ้วล่อง
หัวใจ ประคอง
แสงส่อง ประกาย
บ่ายหน้า
บินหา ที่หมาย
หมู่มวลดอกไม้
หวังได้ ชื่นชม
เคยหนาว
น้ำค้าง พร่างลม
หนาวความขื่นขม
หนาวพรมน้ำตา
ใจหนาว
คราวใจเหว่ว้า
หนาวนักหนักหนา
อ่อนล้า อ่อนแรง
แต่ไฟ
ไฟฝัน เป็นแหล่ง
เปลวไฟเป็นแสง
จุดแรงศรัทธา
ผีเสื้อ
บินไปข้างหน้า
หัวใจ หรรษา
เพียงค่าเปลวไฟ
จุดชีพ
ประทีปส่องใจ
ส่องทาง สว่างไสว
เปลวไฟ ตระการ
ผีเสื้อ
ระเรื่อ ล่องผ่าน
ดอกไม้ ก็บาน
ขานรับ ชีวา
เปลวไฟ
ลุกให้ คุณค่า
ผีเสื้อ ถลา
เริงร่า แต่ไกล
ไฟฝัน
ใฝ่ฝัน จากใจ
เปลวไฟ ไม่ไร้
ผีเสื้อ จึงบินฯ
14 มีนาคม 2546 16:31 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
จักจั่น ร้องปลุกเรา ทุกเช้ามืด
เสียงยานยืด มันร้องถี่ ตอนตีห้า
-รักแจ๋วแหวว- เป็นระลอก บอกเวลา
ไอ้พวกบ้า ฉันหนวกหู ตูจะนอน
-รักแจ๋วแหวว- บ้านไหน อะไรยะ
ฉันก็มี ภาระ จะพักผ่อน
เฝ้าส่งเสียง เฝ้าตะโกน เดี๋ยวโดนฆ้อน
แนะ!ทำอ้อน รักแจ๋วแหวว- ฟังแล้วคัน
อุตส่าห์ปิด บานประตู คู่หน้าต่าง
หวังได้หลับ ได้นอนบ้าง อย่างสุขสันติ์
-รักแจ๋วแหวว- ยังแว่วเหมือน มาเยือนกัน
ร้องปลุกฉัน ทุกตีห้า จนชาชิน
เพลินฟังเสียง ฟังซ้ำ จนจำได้
หนอกระไร เสียงสร้างสรรค์ มันสรวลศิลป์
ไอ้พวกนี้ มีอารมณ์ ศิลปิน
เริ่มจะอิน กับอารมณ์ ผมรักแจ๋ว
นอนคอยเสียง รักแจ๋วแหวว- แว่วตอนเช้า
หูคอยเฝ้า รอเพื่อนแท้ อย่างแน่แน่ว
เปิดแอร์รอ อย่างตั้งใจ แต่ไร้แวว
เอเพื่อนแก้ว ใยเงียบฉี่ เยี่ยงนี้หนา
แล้วเสียง ฉ่า- จากครัว ก็รัวถี่
ทำหน้าที่ หนสุดท้าย หรือไรหว่า
ถูกทอดกรอบ จนสุก คลุกน้ำปลา
จักจั่น สิ้นชีวา คาห้องครัวฯ
13 มีนาคม 2546 15:34 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
อีหล่า บ่ทันหลับ
เบิ่งห้องหับ บ่ทันเมี้ยน
หญ้าตัด บ่ทันเตียน
เพิ่นมาเฆี่ยน เพราะผิดใด?
ฝรั่งสิมาบุก
บ่ฟ่าวลุกบ่ฟ่าวไป
แจแม่นย่าน แจแม่นไข้
จั๊กแม่นไผ สิแม่นหยัง
เสียงแส้ เพิ่นฟาดฟาด
เสียงปืนกราด เพิ่นบ่ยั้ง
เข่นฆ่า เบิดเวียงวัง
พวกฝรั่ง สิครองเมือง
กิโยติน กระหายเลือด
เวียงจันทน์เดือด อยู่เนืองเนือง
เพิ่นว่า สิยึดเมือง
ลาวกะเซื่อง เบิดลานซ้าง
ยึดลาวไปเบิดแล้ว
ยังฆ่าแกวเบิดทั้งห้าง
เป็นหยัง บ่มียาง
ฮู้จักบ้างบ่บาปบุญ?
เจ็บใจข้อยเคียดแค้น
อยากสิแฮ่น พวกสถุล
เวียงจันทน์ ข้อยวอดวุ่น
เพราะพวกจุ้น เมส์ซิเยอร์
กึ้นหัวคนจนกุด
ยังมาฉุดหญิงอีกเด้อ
ฉุดไปได้ปรนเปรอ
บำรุงกาม พวกหยาบช้า
เลอรัว เดอ แวร์ซายส์
ข้อยซ้ำใจ เป็นหนักหนา
แม่หญิง ข้อยฮักมา
ฮั่นหลงบ้า ฝรั่งไป
เสียเมืองกะซ่างเมือง
แม้นแค้นเคืองบ่ปานใด๋
แต่แค้นย้อนเจ็บใจ
แม่หญิงไซร้ไปนำมัน
ฮ้องไห้บ่คลายโศก
งึดนำโลกนำนงครัญ
ลามูร์ เพิ่นโจษจัน
แจแม่นฮ้าย พ่อนายเอ๋ยฯ