29 มีนาคม 2546 02:02 น.

รักน้องหมวย

เชษฐภัทร วิสัยจร


แอบมักผู้สาว
ควมลาวข้อยนี่
หลงมักผู้ลี
สิเฮ็ดจะใด

อ้ายมักน้องหมวย
คงสวยหน้าใส
ฮักหมกหัวใจ
ให้หมวยคงเลียว

สิเฮ็ดจังใด๋
ให้หมวยแลเหลียว
อ้ายบ่ชางเชี่ยว
เกี้ยวสาวบ่เป็ง

อ้ายบ่ฮู้เรื่อง
คงเมืองอากเห็ง
ว่าอ้ายลำเค็ง
เป็งคงจังไร

หมวยขี่รกเบ็งซ์
อ้ายเข็งรกไถ
บ่เก๋คือใคร
ไผเขาสิรอ

หมวยเอิ้น ปาป๊า-
อ้ายว่า อีพ่อ-
สิฮู้เรื่องบ๋อ?
คุงพ่อ นายพิมพ์

หมวยดื่มเก็กฮวย
ฮ่วย!อ้าย เก๊กซิม
ได้แต่นั่งยิ้ม
จิ้มปลาแดกตวง

มักลูกสาวหล่า
มาม้าคงหวง
คงบ่มีดวง
สิควงสิคอย

วองน้องหมวยจ๋า
เมกตาอ้ายหน่อย
เถิงอ้ายเงิงน้อย
แต่ข้อยฮักจริง

ยิ้มให้อ้ายบ้าง
อย่าหมางทำหยิ่ง
พอได้พักพิง
เป็งหิ้งพักใจ

ส่ำนี้ก็พอ
สิบ่ฮักไผ
สิบ่แนมใคร
ฮักหมวยคงเลียว

อภิธานศัพท์
1. มัก แปลว่า ชอบ
2. ฮัก แปลว่า รัก
3. ฮู้ แปลว่า รู้
4. ไผ แปลว่า ใคร
5. อีพ่อ แปลว่า คุณพ่อ
6. ปลาแดกตวง คือ ปลาร้าที่ตวงแล้ว
7. ลูกสาวหล่า คือ ลูกสาวคนเล็ก หรือ ลูกสาวคนเดียว
8. ส่ำนี้ แปลว่า แค่นี้
9. แนม แปลว่า มอง
10. เฮ็ด แปลว่า ทำ
11. ควม แปลว่า ความ				
27 มีนาคม 2546 17:54 น.

ทางเดิน

เชษฐภัทร วิสัยจร

หนูขยัน หมั่นเพียร อยากเรียนรู้
แต่หนูเบื่อ คำครู ผู้สั่งสอน
ไม่อยากเดิน อยู่บนกรอบ ระบอบตอน
หวังพี่คือ ไว้วอน ขอสอนที

กติกา จารีต ขีดเป็นเส้น
คุณครูจัด ชัดเจน เน้นเป็นที่
หนูต้องก้าว ตามถนน บนวิธี
ยึดวิถี ที่ครูสอน ตอนหัดเดิน

จนหนูเชี่ยว ชำนาญ การศึกษา
สหวิทยา จำขึ้นใจ ไม่เคอะเขิน
กรอบระเบียบ ทฤษฎี ที่เผชิญ
ก็เป็นเพียง สิ่งผิวเผิน ดำเนินตาม

อย่าให้กฎมาเป็นกรอบครอบชีวิต
แม้ข้อคิด ก็มิได้เน้นเป็นข้อห้าม
เป็นเพียงบท ให้ศึกษาพยายาม
มิให้หลง เลอะตาม ความนิยม

อะไรใช่ อะไรคือ แก่นหรือเปลือก
หนูต้องรู้ต้องเลือกให้เหมาะสม
อย่าหลงเชื่อ คนง่าย หลงงายงม
ยึดอัตตา โคลนตม เข้าข่มใคร

แล้วจงเลือก ทางเดินของชีวิต
เลือกตามสิทธิ์ ศักดิ์ศรี ที่ฝันใฝ่
สุดเส้นทาง สายนี้ อยู่ที่ใจ
คือเส้นชัย ตามครรลอง ของน้องเองฯ				
26 มีนาคม 2546 03:38 น.

แม่รักลูก

เชษฐภัทร วิสัยจร


ลูก

แม่รักลูก

ลูกยังเล็ก
                     แม่ป้อนนมลูก

                     แม่ร้องเพลงกล่อมลูก

แม่กอดลูก
                     แม่จูบลูก
	
ก็แม่รักลูก

ลูกโตขึ้น

                     แม่เช็ดน้ำตาให้ลูก

                     แม่ปลอบลูก

                     แม่สอนลูก
	
ก็แม่รักลูก

ถ้าลูกดื้อ

                     น้ำตาแม่ไหล

ถ้าลูกเป็นเด็กดี


                     แม่มีความสุข

                     แม่เฝ้ามองลูกเติบโต

ก็แม่รักลูก

ลูกโตแล้ว

                     แม่ดีใจ

ลูกเรียนจบแล้ว

                     แม่สุขใจ

ลูกทำงานแล้ว

                     แม่ภูมิใจ

                     น้ำตาแม่ไหล

ก็แม่รักลูก

ลูกทำงานเป็นทหาร

มีใครส่งลูกไปรบ

                     ก็แม่ไม่รู้

ถ้ารู้แม่คงไม่อนุญาตให้ไป

                     แม่ตกใจ

                     แม่กังวล

                     ทำไมต้องเป็นลูก

                     น้ำตาแม่ก็ไหลอีกแล้ว

ก็แม่รักลูก

จนวันหนึ่งลูกถูกจับ

                     ก็แม่ไม่รู้

ถ้ารู้แม่คงไม่ปล่อยให้ถูกจับ
                     ลูก                                                            แม่

	ลูก                                                            รัก

                     ของแม่

                     น้ำตาแม่ไหลอีกแล้ว

	ก็แม่เสียใจ

ก็แม่รักลูก

แม่รักลูกจริง ๆ
				
25 มีนาคม 2546 02:21 น.

เดินตามตำราหมาไม่กัด-ย่างนำตำราหมาบ่สวบ

เชษฐภัทร วิสัยจร

ปรมาจารย์ กานท์กวี ผู้มีศักดิ์
ผู้คร่ำเคร่ง เก่งคัก คนมักหลาย
คำกะงาม ควมกะม่วน ล้วนลวดลาย
สำเนียงกลอน ขจรขจาย บ่หม้ายคำ

ข้อยฮั่นมัก ลำนำ จังนำอ่าน
ออนซานกานท์ งานเขียน เพิ่นเพียรพร่ำ
เพิ่นอ่อนซ้อย ข้อยซื่อบื้อ จังจื่อจำ
เป็นแบบบุญ หนุนนำ ลำนำเฮา

ข้อยจังคึด ไตร่ตรอง จังลองเขียน
เฝ้าพากเพียร เฮียนลอง ฮ้องนำเขา
ได้ยึดถือ ตำรา ภาษาเชาวน์
ข้อยมันคน โง่เขลา เว้าให้ดี

ตามประสา ผู้หัดเฮียน เพิ่งเขียนอ่าน
หัวกะหัด เขียนกลอนกานท์ งานอีหลี
ต้องย่างนำ แบบอย่าง ทางวิธี
นำกวี ครูสอน กลอนลำนำ

เคร่งครัดคำ นำควม ตามบรรทัด
จื่ออักษร กลอนจัด หัดเฮียนฮ่ำ
ย้อนรอยงึด ยึดรอยย้ำ ย้ำรอยจำ
วนเวียนซ้ำ ย้ำสอน กานท์กลอนไทย

คั้นย่างนำอีพ่อหมาบ่กัด
ย่างนำตำราหมาสิฟัด สิกัดไผ?
เว้นแต่ซุม หมาว่อ บ่ย่านใคร
ข้อยกะได้ แต่เฮ็ดใจ เด้ออ้ายเอยฯ


อภิธานศัพท์
1. เก่งคัก แปลว่า เก่งจริง ๆ
2. คนมักหลาย แปลว่า คนชอบจริง ๆ หรือ มีคนชอบเยอะ ก็ได้  ( เป็นประโยคกำกวมอีสาน )
3. ม่วน แปลว่า เพราะ
4. บ่หม้ายคาม แปลว่า สิ้นความหมาย ความหมายไม่มีผล
5. ฮั่น แปล ตรง ๆ แปลว่า ที่นั้น แต่ในที่นี้ เป็นคำสร้อย ที่ติดปากคนอีสาน
6. ออนซอน แปลว่า ชื่นชมยินดี
7. เพิ่น เป็นสรรพนาม บุรษที่สาม ในที่นี้ คือ ท่าน ใช้กล่าวถึงกวี ที่เก่ง  ๆ อ้างจากในกลอน
8. จื่อจำ แปลว่า จดจำ
9. เฮา แปลว่า เรา
10. คึด แปลว่า คิด
11. จัง แปลว่า จึง
12. เว้า แปลว่า พูด
13. เฮียน แปลว่า เรียน
14. หัวกะ แปลว่า เพิ่งจะ
15. ย่าง แปลว่า เดิน  ก้าวย่าง เป็นคำซ้อนในภาษาไทย 
16.ซุม แปลว่า พวก
17. หมาว่อ แปลว่า หมาบ้า
18. ข้อย แปลว่า ฉัน
19. กะได้ แปลว่า ก็ได้
20. เฮ็ดใจ แปลว่า ทำใจ
21. เด้อ แปลว่า นะ เป็นหน่วยเสริม ใช้บอกมาลาของประโยค
22. อ้าย แปลว่า พี่ชาย

23.นำ แปลว่า ตาม  ไม่เหมือนกับ ภาษาไทย ที่นำ คือ นำหน้านะครับ อิๆ
      ย่างนำ เลย แปลว่า เดินตาม
24. ควม แปลว่า ความ
25. เฮียนฮ่ำ แปลว่า เรียนร่ำ
26. อีหลี แปลว่า จริง ๆ จริงจัง
27. งึด แปลว่า แปลกใจ				
22 มีนาคม 2546 13:02 น.

นกทาขมิ้น

เชษฐภัทร วิสัยจร

ลมบรรเลง ลำนำ กล่อมลำน้ำ
พลิ้วแผ่วตาม เพลงพ้อ ซอใบไผ่
โอดสะอื้น ขื่นขม ระทมใจ
ตามวิสัย คนจร ก่อนนิทรา

ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร
เห็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ร่อนถลา
หากเหนื่อยนัก ก็พักก่อน ผ่อนกายา
เจ้านอนได้ ทุกเถื่อนท่า ไม่อาทร

เสียงหริ่งหรีด กรีดร้อง ก้องแนวป่า
หยาดน้ำตา ก็หยดรอง ต้องปลอกหมอน
ยิ่งฝืนจำ ยิ่งช้ำใจ วิสัยจร
ถึงบังอร ยังย้อนยอก หลอกกมล

ใจเหว่ว้า อ้างว้าง วังเวงนัก
สิ้นแหล่งพัก หลักพิง ยิ่งสับสน
ไร้เสียงพร่ำ คำหวาน บันดานดล
ข้ามันคน จัดจร จะอ้อนใคร

โอ้อกเอ๋ย เคยฝัน ถึงวันหวาน
จากวันวาน ยังอาวรณ์ คนอ่อนไหว
พิษผิดหวัง ยังจำ ย้ำหทัย
ในหัวใจ จึงจากจร เร่รอนมา

เคยผ่านร้อน ผ่านฝน ทนลมหนาว
เคยเก็บเดือน เก็บดาว พราวหมอกฝ้า
รู้บทร้อย ถ้อยคำ จำนรรจา
เคยสัมผัส น้ำตา รสอาลัย

ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน
จะออดอ้อน ไออุ่น หนุนอกใคร
ตอบไม่ได้ ดอกหนา ข้าคนจร				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเชษฐภัทร วิสัยจร