19 ตุลาคม 2545 12:05 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ชีวิตนี้ สิ่งที่ราคาแพงที่สุด
ของมนุษย์ ปุถุชนคนชายชาติทหาร
มันก่อเกิด กำเนิดมาแต่โบราณ
หมุนเวียน เปลี่ยนผันผ่าน นานหลายชั่วอายุคน
เกิดเป็นชาย ลองสักครั้ง มีเสียใจ
จำเอาไว้ ราคาแพง ทุกแห่งหน
ในชีวิต ลูกผู้ชาย ใจวกวน
ต้องอดทน ถ้าอดได้ ลายยังมี
หนึ่ง เสียใจกับหน้าที่การงาน
เห็นสอบผ่าน ได้งานแน่ แบเบอร์อย่างนี้
แต่วันประกาศ ไหนชื่อกู ไม่เห็นมี
ทุกคนรู้ กูมีดี บอกได้ไม่อายใคร
สอง เสียใจเรื่องผู้หญิง
นี่เจ็บจริง เจ็บยิ่งกว่า การงานไซร้
เมื่อได้รู้ ว่าเธอ ไม่มีใจ
ลองดูได้เดินไกลเป็นสิบกิโล ยังไม่รู้ว่าเดินไปทำไม
ลองใครได้ เสียใจ อย่างที่กล่าว
จะได้รู้ กันคร่าวคร่าว แพงแค่ไหน
ซื้อรถเบ็นซ์สักสิบคันก็ไม่เท่าหนึ่งครั้งเสียใจ
จงรู้ไว้ แพงเหลือช้ำ จำให้ดี
หากวันพรุ่ง ยังมี ให้ถามหา
เก็บน้ำตา แล้วตรึกตรอง ของอย่างนี้
เรื่องวุ่นวุ่น ไม่หมดหรอก หากชีวิตยังมี
คงได้ แพง กันอีกหลายทีนะ เสียใจ
15 ตุลาคม 2545 10:18 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
คำคืนนี้ ณ ผืนฝ้า นภากว้าง
จันทร์กระจ่าง พร่างพราว หยอกดาวเล่น
กระพริบพริบ วะวิบวาว ดาวกระเด็น
นภาเด่น เห็นเดือน เพื่อนดารา
ฉันเหลือบเล่น เห็นแท่ง ดินสอสี
สีเทียนมี วางไว้ อยู่ตรงหน้า
นึกสนุก จึงลองแกล้ง แต่งดารา
ด้วยอิจฉา ดวงดาว พราวฤดี
จึงหยิบสี มาขีดเขียน เลียนแสงจ้า
วาดนางฟ้า บนดวงจันทร์ สรรสดสี
นั่งไขว่ห้าง กลางจันทร์เสี้ยว ดูเปรี้ยวดี
เฮี้ยวอย่างนี้ แหละนางฟ้า ในดวงใจ
แล้วหลับตา อธิษฐาน ผ่านความฝัน
ขอสักวัน นางฟ้าจ๋า เธอคงให้
แล้วขอพร วอนนางฟ้า ด้วยหัวใจ
ฉันนี้ไซร้ ไม่ลืมบุญ คุณที่มี
ขอให้ฉัน เขียนกลอนกานท์ ได้หวานซึ้ง
คนตะลึง เพียงได้อ่าน พล่านสุขี
ขอให้กล กลอนกานท์ ผ่านฤดี
ร้อยวิถี ชีวีคน บนความครอง
ขอให้ฉัน เล่นเปียโน ได้ไพเราะ
เสียงเสนาะ เหมือนเสน่ห์ เล่ห์ขับร้อง
จะได้เล่น ให้นางฟ้า ได้ตรึกตรอง
ผูกใจสอง ด้วยเสียงเพลง บรรเลงคีต์
ขอให้ฉัน พูดได้ เจ็ดภาษา
จะบอกว่า รักนางฟ้า ดินสอสี
Te quiero et Je taime แจ่มฤดี
พรข้อนี้ ก็สำคัญ ฝันทุกคืน
พรอีกข้อ ขอไว้ ให้สมหวัง
ใจผิดพลั้ง พลาดไป ใช่ไม่ฝืน
ไปหลงรัก นางฟ้าไว้ ใจกล้ำกลืน
ขอความรัก ฉันคืน ได้ไหมเธอ
14 ตุลาคม 2545 17:16 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เคยเชื่อมั่น ตื๊อเท่านั้น ที่ครองโลก
อุปโลก ว่ารักแท้ แค่มุ่งมั่น
เคยเชื่อถือ ความจริงใจ ไว้สำคัญ
หวังสักวัน เธอจะหัน มามองตา
จริงหรือ ตื๊อเท่านั้น ที่ครองโลก
ยิ่งตื้อ ยิ่งโศก โลกเหว่ว้า
เธอไม่รัก เรายังง่วน กวนบาทา
หลงคิดว่า รักข้าแน่ ไม่แพ้ใคร
ต่อให้ตื๊อ ตื๊ออย่างไร ไม่มีผล
ก็ใจคน มันไม่รัก ทำไงได้
ยิ่งตื๊อ เธอยิ่งเกลียด เพราะกวนใจ
ก็เธอไม่ รักเรา เข้าใจกัน
ต่อให้ตื๊อ อยู่ห้าปี หรือ ยี่สิบ
จะโดนถีบ เอาง่ายง่าย หัวใจฉัน
เพิ่งเข้าใจ ว่ารักแท้ ไม่หวังฟัน
ตื๊อเท่านั้น มันไร้ค่า สำหรับเธอ
ต่อให้ร้อย เอาดวงดาว พราวทั้งฟ้า
ต่อให้พับ แผ่นนภา มาเสนอ
ต่อให้สอย เอาเดือนดาว แทบเท้าเธอ
รักเสมอ ใจคงมั่น เธอก็เมิน
ต่อให้เขียน กลอนกานท์ หวานจนเลี่ยน
ต่อให้พับ นักกระเรียน จนเหาะเหิน
รักเรา ยังเป็นขยะ เหมือนส่วนเกิน
ไม่เคอะเขิน พูดตรงตรง ไม่โกงใคร
ต่อให้เอ่ย คำรัก สิบภาษา
ต่อให้เอื้อน เอ่ยวาจา ไม่เฉไฉ
ไอเลิฟยู แต่ยู ไม่เลิฟไอ
เฮ็ดจังได๋ ละเถื่อนี้ ข้อยหละเอียน
ต่อให้เล่น เปียโน ที่เธอชอบ
เล่นให้ปอบ ฟังดีกว่า ไม่ปวดเศียร
กะจุดธูป อัญเชิญ ผีตะเคียน
ก็ความเพียร ไม่มีผล ฉันจนใจ
จริงหรือ ตื๊อเท่านั้น ที่ครองโลก
ยิ่งตื้อ ยิ่งโศก สารภาพได้
เธอไม่รัก แต่ฉันรัก ทำอย่างไร
ยิ่งตื้อไป ใจก็ยิ่ง เจ็บรอนราน
ตื๊อเท่านั้น ที่ครองโลก ไม่จริงหรอก
โดนเขาหลอก ความจริงใจ ใช้ประสาน
จริงใจบ้า ที่ไหนเล่า เจ็บแทบคลาน
เสียเชิง ชายชาญ ผลาญดวงใจ
13 ตุลาคม 2545 23:17 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ปลาใหญ่ กินปลาเล็ก
โหวยโหวกเหวก มันรุกไล่
มันแน่ เหนือกว่าใคร
ครีบมันใหญ่ เขี้ยวมันยาว
ไล่งับ แดกชาวบ้าน
ทำตัวกร้าน ดูสามหาว
มันถือ ว่ามือยาว
มันเลยสาว ได้สาวเอา
ผู้ใหญ่ รังแกเด็ก
หนูตัวเล็ก โดนเหยียบเท้า
หนูหรือ จะสู้เขา
สูงไม่เท่า โตไม่ทัน
นั่งมอง หนูร้องไห้
มันยังถีบ เอาตีนยัน
สู้ไว้ อย่ายอมมัน
โธ่น้องฉัน มันรังแก
รัฐใหญ่ ล่ารัฐด้อย
ประเทศน้อย ตายแหงแก๋
น้ำมัน โดนผลาญแน่
หาเรื่องแฉ แหย่หัวกู
ค่าเงิน ดอลลาร์สูง
หุ้นก็พุ่ง น่าอดสู
โอยตาย สูบเลือดกู
แล้วจะสู้ มึงอย่างไร
อาวุธ กูก็ด้อย
เงินกูน้อย ถอยไม่ได้
มึงบุก กูก็ตาย
ทำไงได้ ต้องกัดฟัน
อาหาร ยังไม่มี
หิวน้ำที ต้องลงขัน
โอยหนอ มะริกัน
สู้บ่ยั่น ตายเป็นตาย
12 ตุลาคม 2545 16:17 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
วันวาน ผ่านผัน วันเก่าเก่า
ซึมเซา เศร้าหมอง ลองคิดหวน
ความทุกข์ ผ่านไป ใจเรรวน
ทบทวน ความหลัง ครั้งยังเยาว์
เมื่อยังเด็ก เคยวิ่งไล่ ไล้ผีเสื้อ
แสนเจ็บเหลือ ผีเสื้อน้อย ไม่คอยเขา
เลือดไหลโชก เพราะหกล้ม สะดุดเงา
ฉันใดเล่า ฝันน้อยน้อย จึงลอยไป
วันนี้ มีรัก ให้ตามหา
ฉันตั้งตา หาความครัน ไม่หวั่นไหว
ขอสักครั้ง หวังไว้ ใจซื้อใจ
หารู้ไม่ ใจต้องช้ำ จำเจียนตาย
ผิดหวัง เมื่อยังเยาว์ ก็เน่าแล้ว
เหมือนใจแก้ว ไร้แววแยก แหลกสลาย
หกล้มไป ไล่ผีเสื้อ ไม่เหลือลาย
รักทำร้าย สิเจ็บช้ำ หนามตำตา
วันหน้า จะมองฟ้า ยังไม่เห็น
น้ำชืดเย็น มันปริ่มตา จะพร่าไหล
ต้องข่มกลั้น อั้นน้ำตา ระอาใจ
ต้องขื่นไว้ อย่าให้รอง ต้องธรณี
วันพรุ่งนี้ มีอะไร ให้ฝันอีก
จึงขอปลีก หลีกลบ หลบหนี
จากความรัก และผีเสื้อ พวกอัปรีย์
กว่าชีวี จะมอดไหม้ บรรลัยกัลป์