22 ตุลาคม 2546 23:56 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ชุติมานามนาฏนี้....................มณีสวรรค์
พรพระพรหมเสกสรร..........................ประดับฟ้า
นางจรจากฟากฝัน..............................แดนดุสิต
เพียงพิศเพ็ญเห็นหน้า............................ประหนึ่งเนื้อนางเอย
หอมเอยหอมกลิ่นน้อง...........นวลสะอาง
โอษฐ์แนบแอบพักตร์นาง.....................จรดแก้ม
เชยชมกลิ่นผมพลาง..............................ดังกลิ่น สุคนธ์ฤา
หอมกลิ่นฉมโฉมแฉล้ม..............................เฉกเชื้อชาวสวรรค์
โอบแนบแอบนิ่มเนื้อ.............เนียนนวล
ผิวนิ่มเชิญชักชวน.................................ดั่งแกล้ง
หวังหลอกยั่วหยอกยวน........................ชายโสด ใดฤา
ใจไม่อาจเสแสร้ง...................................หยุดยั้งเสน่ห์นาง
เสียงใดในโลกหล้า................ราตรี
หวานดั่งสำเนียงศรี-...............................เสน่ห์น้อง
ไพเราะเพาะไมตรี................................วจีจิตร
เสนาะศัพท์เสียงยังก้อง...........................โสดซึ้งตรึงใจ
มารยาทเธอแช่มช้อย...............ตามกาล-
เทศะภาวะวิจารณ์....................................รอบรู้
เฉียบคมปะฏีภาณ..................................ทันเท่า ชายเฮย
ชาญฉลาดชาญเชิงชู้...............................เก่งกล้าตามสมัย
รักเธอ เกือบ หมดแล้ว.......จากใจ
รักยิ่งกว่าหญิงใด....................................ยิ่งฟ้า
รักเผยเอ่ยความใน..................................ผจงผ่าน โคลงเฮย
ฉันรักเธอแทบบ้า.................................. เกือบ ทั้งหัวใจ
15 ตุลาคม 2546 22:18 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
บทที่สอง
เห่ชมธง
หลากชนหลายชาติพร้อม............................เพรียงใจ
เอเปกรวมสายใย........................................คู่ค้า
สองสิบเอ็ดธงไผท......................................เศรษฐกิจ
ลมพัดเริงระบัดท้า......................................โบกพลิ้ว ปลิวไสว
สยามเอยสยามรัฐ.........................................แห่งร่มฉัตรบวรชัย
ร้อยเยื่อรวมสายใย........................................ยี่สิบเอ็ดรัฐมาประชุม
เอเปกอุบัติแล้ว.............................................ธงเรียงแถวแนวชุมนุม
ธงไทยแอบหวังกุม.......................................อำนาจเหนือมะริกา
ผักชีขาดตลาด...............................................เพราะท่านวาดหวังตบตา
กรุงเทพฯเมืองเทวา.....................................ถูกท่านเลียนเปลี่ยนแนวไป
รถเข็นห้ามขายของ.......................................ต้องเหตุตามความปลอดภัย
สนามหลวงของปวงไทย..............................ถูกปิดไว้ให้แขกชม
อเมริกายังหวังโกย.........................................โดยเอา ดอลล์ มาให้ดม
อัตตาเปรอะโคลนตม.....................................เพลงตัณหามายากรรม
เมืองจีนหวังกู้หน้า..........................................ใช้โรค sars ฆ่าอาธรรม
ต่อสู้เป็นผู้นำ..................................................แห่งประเทศตะวันออกไกล
ญี่ปุ่นเจ้าเศรษฐกิจ...........................................ลูกอาทิตย์ยามอุทัย
หนังโป๊โร่ขายใคร...........................................เสน่ห์ชู้น่าชมเชย
เกาหลีเหนือและใต้........................................ฉลาดหลายเก่งจังเลย
ยังเถียงกันเหมือนเคย....................................โอ้พี่น้องท้องเดียวกัน
รัสเซียเพลียอ่อนล้า.........................................หมดเวลาให้โรมรัน
แต่ยังแอบรู้ทัน............................................... หลากร้อยเล่ห์อเมริกา
ฮ่องกงและไต้หวัน.........................................ยังโศกศัลย์กับโรค sars
แอบแพร่ ไปแคนาดา.....................................ประเทศล้าจึงอ่อนแรง
เม็กเอย เม็กซิโก..............................................อย่า ริโก้ ริกำแหง
เมืองข้าวยากหมากแพง...................................อย่างชิลีและเปรู
ฟิลิปินส์ยังหวังเลีย..........................................โอ้มายเดียร์ พี่จงดู
ปรามปราบคนต่างครู......................................ก่อการร้ายเครือข่าย อัล
อินโดเกาะบาหลี..............................................ที่เหมือนแม้นแดนสวรรค์
บัดนี้กลับเงียบงัน............................................คนถูกไถเพราะใครทำ
ปาปัวนิวกินี......................................................เร่งเร็วรี่ เร่งจดจำ
ไฮเทค สมัยนำ..................................................เพื่อเร่งรัด พัฒนา
ออสซี่ นิวซีแลนด์............................................สนุกแสน แดนหรรษา
ผู้ร้ายยังหมายตา...............................................ถล่มเมืองให้เลือดนอง
สิงคโปร์ มาเลเซีย............................................เลิกเชลียร์เลิกสนอง
ตามอย่างทางครรลอง......................................ของพี่ใหญ่ในโลกา
หลายชาติหลากความคิด.................................พึงพินิจพิจารณา
ร่วมใจใช้วิชา...................................................แก้ปัญหาประชาชน
ชาติใหญ่ช่วยชาติเล็ก......................................หยุดเป็นเด็กตามใจตน
สันติ์สุขทุกมณฑล...........................................ทุกประเทศทุกเขตคาม
ไทยพร้อมรับแขกเมือง.....................................สยามเรืองเลื่องลือนาม
ใต้ขอบฟ้าสีคราม..............................................ใต้ร่มสีธงไตรรงค์
ภูมิภาคจะมั่งคัง.................................................รวมพลังจะมั่นคง
เอเปก จะยืนยง..............................................และยึดมั่นอุดมการณ์ฯ
15 ตุลาคม 2546 19:25 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
บทที่หนึ่ง
ชมเรือ
สดับศรีอักษเรศร้อย.............................ภาษา
พลางพิศเรือสุวรรณาฯ............................ประดับแก้ว
หยาดโพยมหยอกธารา..........................เฉกเพชร พรหมฤา
ลอยสง่างามเลิศแล้ว..............................หน่อเนื้อ มณีสวรรค์
พิศเรือพระที่นั่ง......................................พราวสะพรั่งกลางชลธาร
ช่างศิลป์ช่างชำนาญ................................เชิงแตกฉานชาญศิลป์ไทย
สุพรรณหงส์ทรงภู่ห้อย............................งามชดช้อยลอยไฉไล
งามล้ำกว่าเรือใด......................................ล่อไอโสมโลมวารี
นารายณ์ทรงสุบรรณ...............................ศิลป์สวรรค์เทพสรรสี
ปีกรับจับมณี............................................ดุจเพชรินทร์ปิ่นธารา
เรือเสือคำรณสินธุ์....................................แหวกวารินถิ่นมัจฉา
ทะยานชลโจนคู่มา...................................ท่วงทีท่าน่ากริ่งเกรง
อสูรวายุภักษ์............................................อสูรปักษ์คู่บรรเลง
นาวีดุรีเยงค์............................................ก่อนบินลอยคล้อยเมฆินทร์
เรือแซงแข่งเรือดั้ง....................................งามสะพรั่งกลางวาริน
หยาดฟ้ามาโลมจินต์.................................พราวเรือศิลป์ดุจจินดา
เรือครุฑเตร็จไตรจักร...............................งามเลิศลักษณ์ห้อยมาลา
เคียงครุฑเหินเห็จมา.................................ไล่กระบี่ศรีสาคร
นาวาวัฒกี..................................................จัดแสงสีไฟนีออน
โสตเสียงทุกขั้นตอน.................................เคล้าหยาดแสงแห่งจันทรา
ลักษณ์เรือเมื่อลอยล่อง..............................คราโสมส่องต้องธารา
ขอนไม้ไร้วิญญาณ์.................................ท่านเสกสร้างเหมือนอย่างเป็น
ฝีมือลือทั่วโลก..........................................สิ้นทุกข์โศกยามได้เห็น
เย้ยจันทร์คืนวันเพ็ญ..................................น้ำตาไหลซึ้งใจเบา
แม่น้ำเจ้าพระยา.........................................เย็นคู่ฟ้ามานานเนา
กรุงเทพฯแห่งผองเรา...............................จักคงอยู่คู่ฟ้าดิน
น้ำมาอิ่มปลาข้าว......................................อิ่มใจเราทั้งบุรินทร์
ด้วยมิ่งองค์ภูมินทร์..................................ท่านปกปักรักผองไทย
วัดวาอาณาวาส.........................................ธรรมประภาสปัดโพยภัย
พุทธธรรมค้ำจิตใจ......................................ประชาราษฏร์สันติ์สุขดี
เสียงเห่เรือสวรรค์...................................ถี่กระชั้นทั่วธานี
รับแขกด้วยไมตรี......................................สยามรัฐสุขสวัสดิ์เทอญฯ
ติดตามบทที่สอง เห่ชมธง ( แซวการเมือง ) ได้ตาม url ด้านล่าง
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_40220.php
14 ตุลาคม 2546 02:18 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
กรุงเทพมหานคร รัตนโกสินทร์ศก ๒๒๑
นิราศรถไฟฟ้า
สายสะพานตากสิน
( ต่อจากสายสุขุมวิท )
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_39767.php
นิราศหวานเว้าวอน ตอนเลิกเรียน
ยังแวะเวียนคำนึง คิดถึงนาง
ต้น-สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-
ใจเจียนขาดเธอหนี ตีออกห่าง
ชีวิตจึงอับจน ไร้หนทาง
เมื่อเธอหมิ่นเมินหมาง อย่างชาเย็น
อธิษฐานคำขาด เกิดชาติหน้า
จะไม่เล็ดน้ำตา ให้หมาเห็น
เธอจะรักหรือไม่ ใช่ประเด็น
จะไม่เป็นคนคลั่ง หลั่งน้ำตา
ถึงสยาม ยามนี้ สิเจ็บนัก
เมื่อที่รักห่างไป ไม่เห็นหน้า
แสนทุเรศ เศษใจ ไร้ราคา
โดนเธอหยามแกมด่า หาว่าเชย
เธอว่าเบื่อกลอนเรา เน่าอย่างนี้
วากย์วจี วาวแวว ฟังแล้วเห่ย
จูบใจคุณคนเดียว เสี่ยว-จังเลย
อย่าเที่ยวเผยถ้อยคำ จะช้ำใจ
ราชดำริ ตริตรอง ลองพินิจ
ว่าฉันถูกหรือผิด ทวนคิดใหม่
ที่ดันแอบหลงเผลอรักเธอไป
เธอจึงตัดเยื่อใย ไม่ยินดี
ลูกผู้ชายอยากเท่ห์ ต้องเสแสร้ง
แม้ตาแดงเพราะเศร้า ห้ามเป่าปี่
หากร้องไห้เพราะฤทธิ์ อิสตรี
ก็สิ้นศักดิ์สิ้นศรี ชีวีชาย
ศาลาแดง ตาแดง ต้องแกล้งกลั้น
กู จะโดนเขาหยัน หวั่นฉิบหาย
บอกสาวว่าเป็นตาแดง แสร้งตาลาย
ตาระคาย เพราะแมงหวี่ ที่บินวน
ช่องนนทรี ท่านนนทรี นิมิตบุตร ( เขียนชื่อผิดขออภัยด้วยครับ )
เข้าใจขุด จันดารา- มาอีกหน
สื่อแนวคิดศาสตร์ศิลป์ ให้ยินยล
สื่อสันดานของคน บนหนังไทย
จงประจักษ์ รักแท้ ใช่แค่เซ็กส์
แบบหนังเอ็กซ์ ฟังดู คิดดูใหม่
ชีวิตคู่ จะอยู่รอด และปลอดภัย
ต้องรักจริง เข้าใจ แม้ไกลกัน
แต่ว่าคนจริงใจกับต้องเจ็บ
โดนเธอเหน็บเธอแนมแถมเย้ยหยัน
ไม่รู้จักเล่นน้ำแข็งแบบไอ้ จัน
หญิงยุคใหม่รู้ทัน จันดารา
สุรศักดิ์วรรณศิลป์ คงสิ้นศรี
สิ้นกวีมธุรส หมดคุณค่า
สิ้นบทร้อย ถ้อยคำ จำนรรจา
สิ้นภาษาเกี้ยวสาว คราวมีรัก
ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ
ไม่ปรากฎนัยยะ ได้ประจักษ์
หนุ่มแต่งกลอนมาเกี้ยว มัน เสี่ยว นัก
เพื่อนจะทัก ว่า ชิท แม่งผิดยุค
นี่มันปี สองพันสาม สยามรัฐ
ดูแล้วขัดหัวใจ ไม่สนุก
แต่งเพลงยาว แทนใจ คงไม่ฟลุ้ก
-หนุ่มอักษร-จึงทุกข์ หมดหนทาง
ถึงสะพานตากสินมหินทราช
ทรงอำนาจทุกคราวทุกก้าวย่าง
องค์กษัตริย์ธนบุรีศรีไตรรางค์
อัษฎางคยุธเยศเดชขจร
ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต
ขอบังอาจลิขิตลักษณ์ศรีอักษร
เป็นถ้อยคำสามัญรำพันกลอน
ข้าพระพุทธเจ้าอ่อนราชาศัพท์ลำดับวิธี
ขอให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนัก
นักกลอนรวยคนรัก รวยศักดิ์ศรี
อย่าสิ้นกลิ่นลำนำ คำกวี
เหล่านารีหลงเสน่ห์ เล่ห์วาจา
นิราศแว่ว แผ่วมา เพลาค่ำ
ยังจดจำ ย้ำความ ตามประสา
คือบันทึก เพลงหัวใจ รถไฟฟ้า
เชษฐภัทรประพันธ์มา ว่าให้ฟัง
บรรจงกลั่นน้ำตา มาลิขิต
เล่าเรื่องราวชีวิต ความผิดหวัง
เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะพอประทัง
ให้ชีวิตพอมีหวังยังสู้ทน
สถานีต่อไป สถานีปลายทาง สะพานตากสิน ขอบคุณที่ใช้บริการ
Next station Saphan Taksin, the terminal station. Thank you for reading.
7 ตุลาคม 2546 22:57 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
คืนหนาว
ร้อยเสี้ยวเดือนร้อยดาวพราวหมอกฝ้า
แล้วกอดประคองกล่อมน้องยา
ปรารถนาจะห่มใจให้ที่รัก
ไอหนาว
กระทบไอสาวเจ้าอกหัก
นอนเถิดน้องจ๋าถ้าเหนื่อยนัก
ก็แค่พักผ่อนใจให้หลับตา
อย่าร้องไห้
อกพี่ละลายแล้วน้องจ๋า
พี่จะเก็บแสงดาวประดับประดา
ปลอบนางฟ้าของพี่ก่อนนอน
ไวโอลินจักจั่น
แห่งความฝันอันอุ่นละมุนอ่อน
ผสมเสียงจากใจในบทกลอน
ออดอ้อนก่อนหญิงเจ้า จะนิทรา
ทนอีกนิด
หลับให้สนิทนะเจ้าหญิงจ๋า
อย่าท้อกับชีวิตลิขิตฟ้า
เพื่อเจ้าจะตื่นมา ท้าความจริง
ทนอีกหน่อยนะที่รัก
จงประจักษ์ใจพี่ที่รักยิ่ง
คือไออุ่นให้น้องได้เอนอิง
คือหลักพิงให้น้องได้พึ่งพา
หยุดร้องไห้เถอะนะ
คืนนี้คงจะไม่หนาวหนักหนา
โอ๋...ทนอีกหน่อยแล้วเช็ดน้ำตา
โน่น...ฟ้าจะสางแล้ว... อีกไม่นาน