2 พฤศจิกายน 2546 21:19 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เพื่อนหนูไม่ชอบแน่ คุณแม่ขา
ก็ผักชีโรยหน้าหนูว่าเหม็น
ลูกสาวชูหน้าเชิดเปิดประเด็น
ประชดแม่มื้อเย็นเล่นน้ำลาย
ไยลูกหน้าเป็นตูดพูดอย่างนี้
แม่หาซื้อผักชีเขามีขาย
ทำกับข้าวทั้งเมื่อยเหนื่อยแทบตาย
หวังถวายเพื่อนลูกผูกไมตรี
แม่จัดงานหวังเพียงเลี้ยงเพื่อนลูก
เพราะหมายผูกสัมพันธ์ฉันน้องพี่
แล้วรังเกียจอะไรกับเศษผักชี?
ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็เขี่ยทิ้งไป
ลูกสาวค้อนเคืองโกรธพิโรธแม่
บ่นคนแก่บอกว่า-ล้าสมัย-
-ชอบขายผ้าเอาหน้ารอด-ค่อนขอดไป
จิกแม่จนช้ำใจในวาจา
แต่แม่ยังทนสู้กวาดถูบ้าน
หวังให้งานสร้างสรรค์ลูกหรรษา
ลูกกลับเก๊กนอนโก้แม่โศกา
โดนลูกบ่นลูกด่าแค่ว่ามันส์
เพื่อนเขาพร้อมแล้วจ่ะนะลูกจ๋า
ได้เวลากินแล้วลูกแก้วฉัน
ผักชีโรยข้าวผัดจัดแจกพลัน
เพื่อนสนุกสุขสันต์สนั่นเมือง
แค่เศษผักโรยหน้าเพื่อ หน้า ลูก
ถึงผิดถูกผิดที่เคยมีเรื่อง
แต่ที่แม่โรยไปไม่เปล่าเปลือง
สร้างชื่อเสียงลือเลื่อง เมืองผักชี-
ในบางครั้งโรยไว้ได้ประโยชน์
มากกว่าโทษทำไปให้ถูกที่
ถูกภาวะเวลาถูกนาที
ลูกย่อมรวยศักดิ์ศรีมีคนชม
31 ตุลาคม 2546 23:14 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เรียนท่านประธานาธิบ่ดีที่เคารพ
ผู้ยึดระบบจักวรรดินิยมใหม่
ผู้ยัดเยียดประชาธิปไตย
จูงจมูกใครต่อใครให้คลานตาม
ผู้ได้ชื่อว่าเป็นตำรวจโลก
แสวงโชครีดไถให้คนถาม
นี่หรือทุนนิยมท่านนิยาม
หรือเล่ห์กลเล่ห์กามตามเล่ห์กู?
ผลาญภาษีตัวเองละเลงเล่น
เพื่อหมายเข่นหมายฆ่าน่าอดสู
สงครามเดือดเชือด อูฐ ให้ลิงดู
ฆ่าคนไร้ทางสู้ โธ่! ผู้เจริญ
ถึงท่านขัดกติกาประชาชาติ
คนขี้ขลาดยังกัดฟันสรรเสริญ
เพราะเกรงท่านจะเห็นเป็นส่วนเกิน
เศรษฐกิจจะยับเยินสูญเงินตรา
นะ ท่านประธานาธิบ่ดีที่เคารพ
โปรดลองทบทวนถึงซึ่งปัญหา
แล้วตรองผลตรองเหตุเติมเมตตา
เพื่อเลิกละอวิชชาอารยชน
หากเห็นแก่เทพีเสรีภาพ
จงรับทราบสิ่งทุเรศตามเหตุผล
แล้วสำนึกความชั่วของตัวตน
หยุดฉ้อฉลช่วงชิงสิ่งไม่ดี
ลองเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ชาวโลก
ปลดทุกข์โศกปูทางสร้างศักดิ์ศรี
ช่วยประเทศน้อยใหญ่ด้วยไมตรี
โลกย่อมมีสันติภาพตราบเท่านาน
28 ตุลาคม 2546 01:08 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
กระซิบแว่วแผ่วไหวใกล้ใกล้หู
บอกให้รู้ว่ารักอีกสักหน
แล้วค่อยเขียนคำหวานบันดาลดล
ใส่บทกลอนซ่อนกลแฝงมนตรา
คิดถึงหญิงคนนั้นที่ฉันรัก
ภูมิใจนักเพลงเห่สิเนหา
เฝ้าเรียงร้อยถ้อยคำจำนรรจา
กล่อมกานดาด้วยกลอนครูผู้ชำนาญ
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
ถึงอยู่ในใต้หล้าสุธาธาร
ขอพบพานพิศวาสมิคลาดคลา
หลงรักแก้วแววกลอนสุนทรภู่
รักโฉมพธูคนนี้ที่ห่วงหา
จึงกอบเก็บกานท์กรองของครูบา
ประดับประดาเวี่ยไว้ในวงวรรณ
ฉันมิอาจเทียบถึงหนึ่งในล้าน
เทียบอาจารย์มหากวีศรีสวรรค์
แต่รักเธอเท่าชีวิตนิจนิรันดร์
แม้สิ้นกาลกี่กัลป์รักมั่นคง
กรองความรักแทนแววแก้วโกสินทร์
มอบชีวินให้คนงามตามประสงค์
สื่ออักษรความคิดพิศผจง
บอกอนงค์นาถน้องของหัวใจ
คำท่านภู่เพียงแก้วยังแววแสง
ยิ่งเรืองแรงตามกาลผ่านสมัย
ฉันแค่ทรายด้อยแสงจะแข่งใคร
รอเติมไฟหลอมแก้วเปล่งแววกลอน
27 ตุลาคม 2546 06:02 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ผู้ส่งสารงานซื่อมือหัดฝึก
ควรตรองตรึกอัตตาสารัตถะ
ก่อนเรียงถ้อยคารมคมวาทะ
ตามภาวะปัญหาปัญญาพจน์
เพื่อมิให้คนเขาเข้าใจผิด
เพราะลืมคิดลืมข้อปริบท
ลืมเหตุผลสารพัดอรรถรส
ที่ปรากฏลางเลือนเหมือนไม่ชัด
ต้องละเอียดถี่ถ้วนครวญครุ่นคิด
ก่อนลิขิตเรียงร้อยถ้อยบัญญัติ
ต้องกลั่นกรองตรองความตามบรรทัด
แค่เพียงคัดผิดพลาดอาจต้องทุกข์
ถูกผู้อ่านตำหนิทุวิพากษ์
ต้องกระดากหัวใจไม่สนุก
ผู้อ่านเข้าใจผิดเหมือนติดคุก
ผู้เขียนจุกเจ็บจำคำประชด
คือผู้เขียนผู้คิดที่ผิดพลาด
ด้วยมิอาจสื่อความตามปริบท
ถูกเขาย่ำเขาเหยียดเกียรติยศ
ปริพจน์สื่อใครได้ในวันนี้?
23 ตุลาคม 2546 16:18 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
สงฆ์ใดสาวกศาสดา
ผู้ถือธรรมา
ผู้ละตัณหาอารมณ์
มิประพฤติยึดสิ่งโสมม
เปื้อนเปรอะเลอะตม
คละคลุ้งเคล้ากามความคาว
มิอุตริริโชว์โฉ่ฉาว
อภินิหารแพรวพราว
เพราะมิใช่เนื้อธรรมนำทาง
ละกิเลสเล่ห์ร้อยปล่อยวาง
แรงบาปเบาบาง
ประพฤติยึดถือพรหมจรรย์
ก็ท่านขอข้าวชาวบ้านฉัน
ทุกวี่ทุกวัน
เพื่อฝึกลดละราคี
หากท่านริเป็นอลัชชี
ไม่ละชั่วทำดี
ท่านก็เป็นคนเอาเปรียบคน
หากท่านน้ำลายสอฉ้อฉล
อามิสสินบน
ท่านก็เป็นเช่นคนสามัญ
มิใช่ผู้ชี้ทางสว่างสวรรค์
หนีนรกโลกันตร์
เปรียบซากเศษสัตว์เสมอเสมือน
หากธรรมะจบลบเลือน
ท่านไม่ตักเตือน
ดิรัจฉานจะรบราฆ่าฟัน
ไฟระอุเล่นเลือดเดือดพลัน
สัตว์โลกโศกศัลย์
ผ้าเหลืองจะเปลืองศักดิ์ศรี
โปรดเถิดท่านผู้ปฏิบัติดี
ควรแก่อัญชลี
โปรดเถิดเปิดโบสถ์โปรดเรา
ดับทุกข์บั่นทอนบรรเทา
ดับความมัวเมา
ดับสิ้นทุกข์โศกโรคภัย
โปรดสอนคุณธรรมนำใจ
รีบเร่งเร็วไว
โปรดเถิดบอกทางสร้างคุณ-
ธรรมสมเป็นเนื้อนาบุญ
ผู้นำค้ำจุน
ท่านไม่ทำแล้วใครจะทำ