8 กุมภาพันธ์ 2548 17:04 น.

กราบเท้าคุณยาย(โคลงอีสาน)

เชษฐภัทร วิสัยจร

สิบนิ้วประณตน้อม..........................มโนกราน
พลางพิศผจงจาร..................................จรดถ้อย
อุทิศวจีทาน..........................................แทนธูป เทียนเฮย
มะลิตื่มมาลัยฮ้อย.................................กราบเท้าคุณสนอง

พระคุณแม่ใหญ่ล้ำ................................รำพัน
สูงส่ำสรวงสวรรค์............................เสียดฟ้า
เถิงจารหมึกเหมิดมหรร-.......................ณพสมุทร หมาดเฮย
หาพจน์ใดในหล้า..................................สิกล่าวถ้อยพระคุณเถิง

ย้อนเพิ่นฮักพี่น้อง....................................ลูกหลาน
สู้อุทิศจิตวิญญาณ....................................ประโยชน์กู้
ตรากตรำมุทำงาน....................................ออมอด
นิรมิตวิจิตรสู้............................................เสกสร้างทางฝัน

ด้วยสองมือแม่นี้........................................นี่หนอ
ควมฮักจังถักทอ.........................................ท่วมท้น
พันผูกลูกหลานยอ-....................................ยกย่อง
สายเลือดแม่ขุ่นข้น....................................สดับซ้ำคำสอน

แต่วันผันผ่านแล้ว.......................................นานสมัย
สรรพสิ่งย่อมเสื่อมไป.................................ปลาศด้วย
ตามพุทธวินิจฉัย.........................................คือสัจ-ธรรมเฮย
กายแม่กะสิม้วย...........................................เหมิดสิ้นเสื่อมสูญ

ฮักแม่จงยึดย้ำ..................................................คำสอน
ถือคู่ธรรมอมร.................................................มิ่งหล้า
ปลงปลดปล่อยนิวรณ์.........................................เวนโลก
ยอมรับอย่างหาญกล้า.........................................สดัสดับแท้ทางสวรรค์				
3 กุมภาพันธ์ 2548 01:06 น.

อยู่เหนือมนุษยชาติ

เชษฐภัทร วิสัยจร

๑.จักรวาลหล่อเลี้ยงสัตว์คน...ฟ้ารินหลั่งฝน
เกิด แม่ต้นน้ำลำธาร

เป็นแหล่งข้าวปลาอาหารก่อเกิดวิญญาณ
สรรพสิ่งอยู่ร่วมรวมกัน

ธรรมชาติหล่อเลี้ยงผูกพัน-..โลกได้อัศจรรย์
ชาติชนรู้รักสมัครสมาน

สงบสุขเป็นมาเนิ่นนาน.เริงรื่นชื่นบาน
แก่นธรรมคือชีวิตจิตใจ

๒.กระทั่งวันผันผ่านนานไป..อารยธรรมนำสมัย
บอกโลกว่ามนุษย์พัฒนา

เหนือสัตว์บนพื้นพสุธาหลอกล่อลวงตา
ให้สันดานคนเปลี่ยนแปลง

เศษกระดาษเงินทองของแสลง...บัดซบตลบตะแลง
ทำลายศีลธรรมทรามทรุด




๓. โอ้ เหวย! สังเวช เศษมนุษย์เทคโนโลยีสูงสุด
แต่เสือกจิตโทรมเสื่อมทราม

หื่นกระสันบันเทิงระเริงกาม..ลืมสิ่งดีงาม
ละเลงเงินตราฆ่าฟัน

ปี้ผีเพลิดเพลินเจริญพันธ์.หลง เปลือก เลือกสรร
วัดค่าของความเป็นคน

วัตถุบ่งชั้นแบ่งชน...รวยสุขทุกข์จน
ทุกก้าวแก่งแย่งชิงดี

สงครามกำหนัดบัดสี..บัดซบอัปปรีย์
เหลือเกินจะกล่าวพรรณนา

รอยเลือดเดือดแดงแสลงตา..สังเวยอวิชชา
บวงสรวงขี้ข้าปัญญาชน

เลือดเย็นเข่นฆ่าจลาจล.....หวังประโยชน์ส่วนตน
ตักตวงอำนาจวาสนา

หวังยิ่งใหญ่ในโลกาชี้ชัดอัตตา
สันดานกิเลศเปรตระยำ

๔. จักรวาลแสลงภาพบาปกรรมมนุษย์สิ้นคุณธรรม
พินาศย่อยยับอับจน

เข่นฆ่าพี่น้องสนองตนลวงล่อฉ้อฉล
อุเหม่ มึงบ้าหรือไร

มึงกำเนิดมาจากไหน.ช่างเลวเหลวไหล
หลงลืมกำพืดของตัว

หลงบ้าโง่เขลาเมามัว.แย่งเมียแย่งผัว
ผิดระบบรบราฆ่าฟัน

กูขอกำหนดโทษทัณฑ์..ให้มึงสูญพันธ์
หมดสิ้นจากพิภพจบสมัย

๕. ผืนดินแตกแยกทันใดเสียงสนั่นหวั่นไหว
หวีดร้องครึ่งผีครึ่งคน

นรกสูบซากศพสัปดน...สูบความสับสน
สูบลงใต้พื้นพสุธา

ไฟเผาสารพัดกายา..มนุษย์มนัสสัตว์หมา
หมกไหม้อยู่ใต้ไฟกาม

คลื่นซัดกระหน่ำซ้ำไฟทราม.คราบขี้สงคราม
สึนะมิช่วยล้างมลทิน

ล้างบาปออกจากผืนดินสายฝนหลั่งริน
ดับไฟโลกันตร์รันทด

๖. แล้วเสียงเพลงก็ปรากฏ..เขตคามงามงด
ดอกไม้ก็แย้มผลิบาน

สัตว์โลกออกหาอาหาร.ต้นน้ำลำธาร
สรวงสวรรค์คืนแคว้นแดนดิน

ความรักท่วมท้นธรณิน.นกน้อยโผผิน
มนุษย์กลับตัวกลับใจ

กลับสู่วิถีทางสว่างไสว..สร้างชาติภูมิชัย
เลิกทางอบายภูมิทุรกรรม

สังเวชสังวรณ์ในธรรมบุญบาปหลาบจำ
จึงมีสันติภาพตราบนานฯ				
1 กุมภาพันธ์ 2548 20:40 น.

โอษฐาธิปไตย

เชษฐภัทร วิสัยจร

คือประชาธิปไตยที่ใช้ปาก
พ่นสำรากรจนาภาษาสัตว์
หนึ่งในพุทธวิถีปฏิวัติ
จรรโลงรัฐสุขสงบสยบทุกข์

ลิ้นแสลงแทงใจให้ฉุกคิด
วันละนิดกับสำนวนชวนสนุก
ยึดอัตตาว่าตามประณามรุก
บำรุงสุขประชาชาติประหลาดนัก

ศาสตร์แห่งปวงประชาวิวาทะ
คือภาระชาวสยามว่าตามหลัก
มือไม่พายตีนราน้ำช่างถามซัก
ด่าทุกพรรครัฐบาลวิจารณ์ซิ!

ใช้ปากแก้ปัญหาด่าเป็นชุด
โผล่สันดานอมนุษย์อุตริ
นี่คือความดีงามความเริ่มริ
เปิดมิติความฝันจรรโลงรัฐ

เพื่อช่วยเหลือไพร่ฟ้าประชาราษฏร์
ธำรงชาติศาสนามหากษัตริย์
ต้องโอษฐาธิปไตยวิสัยทัศน์
ใช้ชี้แจงความแจ่มชัดวัดจิตใจ

รอฟังท่านโยนขี้เล่นฝีปาก
พ่นสำรากคารมสมสมัย
เพราะหลงรักโอษฐาธิปไตย
รอร้องเพลงชาติไทยให้ฟายฟัง				
31 มกราคม 2548 05:32 น.

เพียงในความฝัน

เชษฐภัทร วิสัยจร

ก็มิใช่บทกวีที่แสนหวาน
ขาดจินตนาการละเอียดอ่อน
ไร้สีสันอรรถรสในบทกลอน
ไม่มีสักวรรคตอนที่สอนใจ

น้ำตาเปื้อนเปรอะคลออย่างท้อแท้
เคยผิดพลาดพ่ายแพ้สุดแก้ไข
คือบันทึกประสบการณ์ที่ผ่านไป
จะมีใครหยิบยื่นความชื่นชม

เบื่อเต็มทีที่ไม่มีใครรัก
เหนื่อยหน่ายนักวันคืนเคยขื่นขม
อยากหยุดเขียนสิ่งทรามโศกโลกโสมม
ชังสังคมต่ำช้าหญิงสามานย์



จนวันหนึ่งคล้ายกับหลับแล้วฝัน
ว่าโลกยังมีวันอันแสนหวาน
ฉันเขียนกลอนด้วยชีวิตจิตวิญญาณ
ถ่ายทอดจินตนาการละเมียดละไม

เมื่อพบเธอคนนั้นที่ฉันรัก
เริ่มรู้จักวันเวลาฟ้าเริ่มใส
เรียนรู้คำว่า เรา เฝ้าห่วงใย
สัมผัสจากดวงใจมีให้กัน

เขียนกลอนหวานค้างไว้ไม่อยากตื่น
แอบสะอื้นซบคนงามในความฝัน
อยากจะหลับให้สนิทนิจนิรันดร์
เพราะตรงนั้นเป็นที่มีเธอเคียง				
27 มกราคม 2548 11:41 น.

หลังทะเลแดกเลือด

เชษฐภัทร วิสัยจร


...ทะลุ่มปุ่มปู ทุสุมุดุ อุสานารี โกวาปาเปิด จกจี้รี้ไร

ทะ...เลแดกเลือดแล้ว................................ลามปาม
ลุ่ม...ลาดพินาศทราม................................เสื่อมด้วย
ปุ่ม...ป่ำย่ำกลกาม.....................................กมลโลกย์
ปู...วิถีทางม้วย..........................................มอดสิ้นวิสุทธิ์วิสัย

ทุ...รังทุเรศร้าย.......................................เหลือใจ
สุ...รภพจบสมัย......................................สุดแก้
มุ...หมายฆ่ากันไย.................................. ระยำหยาบ
ดุ...เดือดเลือดพล่านแท้...........................ท่วมท้นอุบาทว์กถา

อุ...บาทว์คนบนโลกรั้น -...........................เริงกาม
สา...แก่ชาติสัตว์ลาม.................................โลกหล้า
นา...ครมนุษย์สุดทราม.............................โทรมเสื่อม
รี...หรี่โคมธรรมท้า....................................ถีบทิ้งทางสถุล

โก...ลาหลอลหม่านไหม้...........................เหม็นนคร
วา...ตภัยวิบัติสอน.....................................สยบสิ้น
ปา...ณกะก็เห่าหอน...................................กระสันหื่น
เปิด...นรกจกเปรตปลิ้น-......................ปลอกปล้อนหลอนผี

จก...เปรตเจตภูตซ้ำ-...................................เติมเมือง
จี้...ฆ่าคนขัดเคือง........................................คั่งแค้น
รี้...พลดับชีพเนือง-......................................นองเลือด
ไร...ก็ดูเหมือนแม้น....................................หมดสิ้นสูญสลาย

___________________________________________________


ดวง..เมืองวิกฤติแล้ว....................................วิกลสมัย
ตา...บอดจึงบอดใจ........................................จริตบ้า
เห็น...เพียงแต่รัตนตรัย...............................คงอยู่
ธรรม...จึ่งประกาศกล้า...............................กอบกู้วิญญูสยาม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเชษฐภัทร วิสัยจร