11 ธันวาคม 2551 20:17 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
กิมเอ๋ย กิมลั้ง
เฮียมานั่งเทียวไล้ไล่เทียวขื่อ
บริการเตี่ยม้าทำตาปรือ
แท้ทำซื่อจีบกิมลั้งหวังเนียนดู
จ้าและอ่ำออดอ้อนเฮียป้อนน้ำ
ปุ๋ยรักย้ำคือพลังหวังเคียงคู่
มอบเจ๊กไก่ให้ทอถักรักพรั่งพรู
เพื่อเชิดชูหมวยจิ้มลิ้มกิมลั้งเอย
10 ธันวาคม 2551 16:35 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ชะบาเอ๋ย...ชะบาขาว
อ้ายผู้บ่าวส่ำน้อยมาหลอยเบิ่ง
จากลาวลุ่มมายามเจ้าอยู่ลาวเทิง
เห็นชะบาฟ้อนเซิ้งรื่นเริงแท้
มักฮอยยิ้มชะบาลาวเจ้างามคัก
ละอองฮักงามเหลือเจ้าเผื่อแผ่
เพิ่นออนซอนกลีบงามยามเพลินแล
คำย่องแม่ชะบาขาวเมืองลาวเอย
9 ธันวาคม 2551 17:08 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
รักเอ๋ย รักเร่
แค่เธอเหล่ตาทักยักคิ้วให้
ฝากรักเร่เล่ห์รักปักดวงใจ
ก็เสียวสั่นหวั่นไหวไฟรักเร้า
ฉันร้อนรนรักเร่เล่ห์โหยหา
มันติดตาเล่ห์รักกระอักเศร้า
คือรักเร่เล่ห์ซ้อนร้อนอกเรา
เล่ห์ไฟเผาทรมานวิญญาณเอย
9 พฤศจิกายน 2551 23:45 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
จำเอ๋ย...จำปา
เธอล้างหน้าแปรงฟันรับวันใหม่
ด้วยน้ำค้างวับวามงามไฉไล
ก่อนถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน
เธอละเลียดสีแดงมาแต่งหน้า
เพื่อจะกล้ายิ้มรับกับแสงสวรรค์
ยิ่งเบ่งบานแข่งฟ้ายิ่งฝ่าฟัน
ยิ่งผูกพันดอกจำปากับฟ้าเอย
3 พฤศจิกายน 2551 08:29 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
.แรกปฐมบรมบทโพ้น............เพรงกาล
เริ่มจากวงจรจาร.................จุดเกื้อ
นิ้วมือแห่งจักรวาล..............เวียนวาด วงนา
สรรพสิ่งทุกแหล่งเอื้อ...........เอ่ยชี้ตีโยง
จรรโลงรอยลักษณ์ห้วง..............หัตถ์สมัย.
อณูฝุ่นธุลีไฟ......................ฟากฟ้า
แสงเสียงสรรพวิสัย......................เสริมลิขิต เขียนนอ
ตะวันสว่างจันทร์แจ่มจ้า.................จรัสสร้างจากมือ
สร้างชื่อถือชาติเชื้อ......................ชีวิต
วาดพืชสัตว์เจตน์จริต......................จัดให้
เห็นมโนมนุษยสิทธิ์.....................วิวัฒน์เสก สลักเฮย
เกิดภพชาติเวียนไว้....................วัฏสร้างสงสาร
จารด้วยนิ้วโป้งเปิด....................การประลอง
รอยแห่งความจองหอง.................เหตุย้ำ
ลากยศมนุษย์ทรัพย์ครอง.............ความโลภ
อ้างอัตตาฆ่าห้ำ-............................หั่นเหี้ยนเวียนหัว
ยั่วต่อนิ้วชี้เหตุ..............................โมหันต์
กูเก่งฉลาดศาสตร์สรร.......................ศัพท์ร้อน
แบ่งชาติศาสนาพันธุ์........................เพลินมั่ว
แท้เกิดเจ็บตายย้อน......................แหล่งอ้างเดียวกัน
รั้นนิ้วกลางกราดกล้า................กิเลสขึง
ส่อเสียดเกลียดโกรธถมึง..............หมดแล้ว
สัตว์คนฆ่าฟันจึง...........................ใจตลบ -ตะแลงเฮย
เวียนเกิดตายไม่แคล้ว...................ขลุกซ้ำกรรมเวร
เดนนิ้วนางกลิ้งกลอก..................กลกาม
สามโลกกระสันเกิดยาม................อยากปี้
มากน้อยสุดแต่ตาม.......................ตรองสติ
แล้วแต่บุญบาปชี้.........................ชั่วร้ายร่องรอย
นิ้วน้อยนิ้วก้อยยั่ว....................อยากดี
ฤทธิเดชเหนือทั้งตรี..................โลกร้อง
นิพพานอยากบารมี......................มันสนุก สนานแฮ
อยากไม่อยากอยากซร้อง...............สิทธิอ้างอวดเห็น
ทะเล้นทะลึ่งรอยนิ้วจาก......................จักรวาล
รอยวัฏฏะสงสาร......................เสกสร้าง
นับแต่บทแรกกาล........................กลวาด
จากนรกโลกมนุษย์สร้าง..................สู่ห้วงมหาสวรรค์
สรรค์เสกประวัติศาสตร์ซร้อง..................เสียงสรวล
เศร้าสนุกทุกข์ขมครวญ....................เคียดบ้า
ใครเล่าจักเผยอทวน.........................กระแสทุกข์ สุขเฮย
สลัดแอกนิ้วทั้งห้า...........................แห่งห้วงกาลสมัย