2 ธันวาคม 2546 21:04 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
5 ธันวาชาวประชามหาราชฯ
แสนสุขจากดวงจิตหนึ่งนิตย์สนอง
ชาวประชาทั่วแค้วนของแหลมทอง
สดุดีบรรเจิดพร้อมพวกพ้องของชาวไทย
วันที่..ห้า...ธันวามาบรรจบครบอีกรอบ
พี่ขอบอกเหล่าฟ้าปวงชาวประชาสยาม
ขอจงให้พ่อยอดเมืองรุ่งเรืองอลังการณ์
ขอพระองค์จงทรงฯพระเกษม์สำราญสุขสมหวัง
เกษม์สันต์ชื่นอารมณ์สมปราถนาปราศจากโรคาคี
เหล่าข้าน้อย..ลูกหลานปวงชาวไทย
ขอถวายพระพรชัยแด่องค์..ภูมิพลฯในปีนี้
ขอให้ทรงยั่งยืนเป็นหมื่น..หมื่น ปี
สุขเกษม์เปรมปรีตลอดชีวีเถอะพ่อ..ฟ้าสยาม
1 ธันวาคม 2546 05:21 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก
แสนทุกข์ยากในดวงจิตคิดสับสน
เมื่อมีรักก็ต้องเก็บเอาไว้ในใจของตน
ไม่เหมาะสมที่จะกล่าวเล่าออกไปให้ใครฟัง
บางครั้งก็มีคนดีเข้ามาจีบ
บางครั้งก็เจอแต่พวกที่มีปีกนั่นเข้ามาหา
เข้ามาลอกปลอกปลอบจนถึงกลับให้สัญญา
แล้วไม่นานก็กลับกลายหายหน้าจากลาไกล
หญิงชั่วคราว........ใครฟังดูก็น่าเกลียด
เป็นเสนียญไม่นิยมข่มขวัญผวา
ไม่มีใครที่เขาอยากจะคบเป็นพญา
แต่คุณขาหญิงชั่วคราวนั้นมันคนดี
ที่เรียกไปเช่นนั้นก้เพราะว่า
บางเวลาพวกผู้ชายเขาหน่ายหนี
หลบจากบ้านจากภรรยาที่แสนดี
แอบแว็บมาหาสตรีหญิงชั่วคราว
หญิงชั่วคราวมีทั้งดีมีทั้งเสีย
อย่ามาว่าซะให้เสียกันทั้งหมดหนา
ความหมายก็แค่เพียงอยากให้รู้
อยู่ทุกเวลาหญิงชั่วคราวก็หมายถึง
คุณ...คุณภรรยาของสามี...
1 ธันวาคม 2546 00:27 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
คิดถึงกาลเวลาฯที่ผ่านมาแล้วใจเศร้า
เคยเจ็บร้าว จนเกือบตาย ก็หลายหน
กาลเวลาฯที่ผ่านมาช่างสุดแสนจะระทม
อกมันตรมใจกัดหนองนองน้ำตา
ผู้ชายไทย ไม่รักจริงมาทิ้งจาก
เราไม่อยากเชื่อลมปากใครต่อไปอีแล้วหนา
อยากจะให้กาลเวลาฯช่วยเยียวยา
จึงตั้งชื่อ นามปากกา ว่า เจ้าหญิงแห่งกาลเวลฯ
เพื่อจะได้คอยเตือนตัวให้รู้ว่า
ครั้งหนึ่งนั้นหนากาลเวลาฯมาทำให้
ใจเจ็บแปลบแสบในทรวง......
1 ธันวาคม 2546 00:08 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
ความรักมันเคี้ยวคด ต้องเก็บกดอยู่ทุกครา
ครั้งใดที่ได้คิดขึ้นมา สุขหนักหนาอุราเบิกบาน
มีรักก็มีทุกข์ไม่สนุกและสนาน รักมากจนรำคาญปวดกบาลกันก็มี
อยากให้คนที่เรารักเขาประจักษ์ในคำนี้
รักเธอแล้วนะคนดี......ต่อไปนี้ไม่มีคนที่สอง...เอย.
30 พฤศจิกายน 2546 08:49 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
ตอนนี้อยู่หน้าคอมฯพร้อมขวดเหล้า
ก็เพราะหนาวในหัวใจอะไรนักหนา
หิมะตกในอกใจก็ถวิลถึงคนที่อยู่ไกลตา
ป่านฉะนี้เขาคงจะตื่นขึ้นมาจากหลับนอน
เขาจะรู้บ้างไหมว่าใครเล่า
ที่ยังเฝ้าคอยห่วงใยอยู่เสมอ
สองวันแล้วข่าวคราวไม่มาเจอ
เขาไม่โทรฯเขาไม่เมล์มาหาเราเขาเป็นอะไร
ถ้าจะเลิกน่าจะบอกกันมาก่อน
ทำแสนงอนแถมทำตัวยิ่งงี่เง่า
โทรฯมาบอกเมล์มาบอกกันบ้างก็ยังเอา
แต่ว่าเขานั้นไม่ทำช่างน่าอายหน่ายสิ้นดี
หิมะตกใจก็ตกอกก็หน่าย
จากนี้ไปจะไม่แคร์ไม่แลหา
ใจเจ็บจากพรากกันไปพร้อมใจแค่
หล่นก็แตกเหมือนกับฟองละอองหิมะ
นั่งดื่มเหล้าผสมไวน์ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ
แล้วคุณแม่ก็เรียกไปให้สั่งสม
ห้ามดื่มเหล้ากับของเมาไม่น่าชม
แต่ก็สุดที่จะทนเพราะว่าคนรักของเรามาห่างไกล
มองหิมะตกมาสักนิดหน่อยแต่ไม่บ่อยเพราะว่าเลยเกินตีสอง
ดื่มทั้งเหล้าดื่มทั้งไวน์ตาลายเกิน
เห็นหิมะเป็นดั่งเพียงเม็ดฝนที่หล่นมา
เหล้าหมดไปประมาณสามขวดครึ่ง
อีกสักหนึ่งซิกกาเร็ตแล้วจะไกลไปแล้วหนา
เข้าไปนอนซุกตัวเราใต้ผ้าแล้วหลับตา
ปล่อยให้หิมะหล่นผสมกับน้ำตา
แล้วจะรีบตื่นขึ้นมาหาอ่านกลอนตอนต่อไป
....วันนี้ต้องไปแล้วนะเพราะว่านี่ก็ตีสองแล้วนะเมาด้วยไปนอนก่อนนะทุกๆคน....