24 ธันวาคม 2552 21:56 น.
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ - เมจิคเชี่ยน
๑. ตอนที่ฉันนั้นเป็นเด็กตัวน้อยน้อย
แม่เฝ้าคอยบอกว่าอย่าพลั้งเผลอ
มองดวงดาวแล้วส่งใจ ไปให้เจอ
ใครบางคนที่เพ้อถึงทุกเวลา
๒. ดาวดวงนั้นอยู่ไหนใคร่อยากถาม
ฉันติดตามทุกทิศทางอย่างห่วงหา
เธอคนดีที่สดใสในแววตา
อยากเห็นหน้าเธอยิ่งกว่าสิ่งใด
๓. แม้มิได้เคียงคู่อยู่ข้างเจ้า
ก็จะเฝ้าติดตามส่งใจมอบให้
ฝากดวงดาวพราวพร่างบอกเธอไ ป
ว่าห่วงใย คิดถึง ไม่เปลี่ยนแปลง
๔. ดั่งสวรรค์บันดลยลให้เห็น
คล้ายเธอเป็นดวงประทีปถักทอแสง
หัวใจเต้นตึกตักชักหมดแรง
เริ่มหน้าแดงนี่ใช่ไหมใครที่รอ...
15 ธันวาคม 2552 23:11 น.
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
๑ วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดจำให้มั่น
เธอกับฉันสัญญารักเสมอ
วันที่เราบรรจบได้พบเจอ
ฉันนั้นเผลอมองเธออย่างเอียงอาย
๒ รู้ใช่ไหมทำไมสำคัญนัก
วันที่เรารู้จักรักมั่นหมาย
ณ ดินแดนแห่งความรักอำเภอปาย
เราสื่อสายสัมพันธ์รักมั่นคง
๓ ต่างคนต่างเดินทางตามหาฝัน
เพราะเชื่อมั่นรักแท้ที่สูงส่ง
กับตำนานเล่าขานอย่างซื่อตรง
ทำให้หลงละเมอเพ้อทุกครา
๔ ชายเลี้ยงวัวสาวทอผ้าน่าฉงน
เชื่อมใจคนสองคนสมปรารถนา
เพราะเชื่อมั่นความรักและศรัทธา
ประหนึ่งว่าถูกเรียกร้องต้องมาเจอ
๕ ยายได้เล่านิทานตำนานรัก
ฉันประจักษ์ซาบซึ้งถึงเสมอ
ชายเลี้ยงวัวสาวทอผ้าสวยเลิศเลอ
ได้พบเจอรักแท้น่าอัศจรรย์
๖ วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดวัวแก่เอ่ย
พลันเฉลยบอกหนิวหลางอย่างเสียงสั่น
เทพธิดาเจ็ดนางต่างสรงน้ำกัน
ให้เจ้านั้นหยิบเสื้อหญิงทอผ้ามา
๗ จือนวี่นางฟ้าน้องสุดท้อง
คือคู่ครองที่เจ้าปรารถนา
ครั้นนางพบชายเลี้ยงวัวถูกชะตา
ราวกับว่าเคยพบพานมานานนม
๘ หากเจ้ายอมแต่งงานกับข้านี้
จะยินดีคืนผ้าให้ได้นุ่งห่ม
เป็นคู่ครองเคียงข้างชื่นเชยชม
คงสุขสมอารมณ์ดั่งใจปอง
๙. หนิวหลางแสนเกษมเปรมปรีด์นัก
ได้ครองรักจือนวี่ทั้งสี่ห้อง
กระท่อมน้อยวิมานดินถิ่นเราจอง
เรือนหอของสองหนุ่มสาวเคล้าเคลียคลอ
๑๐. นี่คือรักครั้งแรกของตัวข้า
จือนวี่ลั่นวาจาเอาไว้หนอ
รักไม่สิ้นดินกลบหน้าก็ยังรอ
จักสานต่อเป็นชั่วนิรันดร์กาล
๑๑. สองปีผันผ่านไปไวเหมือนฝัน
ความรักนั้นราบรื่นชื่นมื่นหวาน
เด็กน้อยได้ถือกำเนิดให้เบิกบาน
เป็นโซ่ทองคล้องดวงมาลย์คนสองคน
๑๒. เด็กตัวน้อยกะจ้อยร่อยขวัญใจพ่อ
เฝ้าพะนอหวงแหนรักเหลือล้น
แม่ถนอมกล่อมเลี้ยงลูกดวงกมล
ทั้งสองคนช่างน่ารักน่าเอ็นดู
๑๓. จือนวี่ทอผ้าให้ลูกใส่
สวยถูกใจตกแต่งไว้สวยหรู
รูปดอกไม้ประดับข้างเป็นคู่
เจ้าโฉมตรูออกแบบได้แยบคาย
๑๔. เจ็ดปีเทียบหนึ่งวันเมืองสวรรค์
นางฟ้านั้นมีสัญญาเป็นมั่นหมาย
เข้าเฝ้าเทพเจ้ามิดูดาย
กลับมิกล้าเยี่ยงกรายในทันที
๑๕. เกรงบิดาด่าทอเพราะน้องหาย
อยู่กับชายโลกมนุษย์น้องนุชนี้
มิกล้าบอกความจริงเรื่องจือนวี่
ด้วยท่าทีของบิดานั้นน่ากลัว
๑๖. เทพเจ้าทราบเรื่องกริ้วโกรธนัก
ไยมาหักหน้าเราได้ไอ้ชาติชั่ว
เป็นมนุษย์ต่ำต้อยมิรู้ตัว
กล้ามายั่วโมโหเราเจ้าต้องตาย
๑๗. วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดทหารหาญ
ผู้เชี่ยวชาญในการรบถ้วนทั้งหลาย
เคลื่อนขบวนโยธามาทำลาย
ถิ่นของชายเลี้ยงวัวในพริบตา
๑๘. จับเอาจือนวี่กลับสวรรค์
ตามคำบัญชาท่านปรารถนา
จือนวี่ร้องไห้เป็นสายธารา
อย่าพรากข้าจากสามีที่รักเลย
๑๙. สองลูกน้อยร้องงอแงหาแม่จ๋า
อย่าจับตัวมารดาข้าทหารเอ๋ย
เราไม่อยากพลัดพรากจากกันเลย
เด็กเอื้อนเอ่ยพร้อมก้มลงกราบกราน
๒๐. ด้วยหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ดังถวายสัตยาข้ากล่าวขาน
จะพาจือนวี่กลับวิมาน
ถิ่นสถานเทพเจ้าเฝ้ารอคอย
๒๑. จือนวี่จากไปห่างไกลแล้ว
หนิวหลางแคล้วคลาดคลาตาละห้อย
โอ้เมียรักจากไปทิ้งลูกน้อย
ทำไมปล่อยให้พี่ช้ำชีวัน
๒๒. วัวแก่ยอมสละชีพให้เจ้า
เอาเนื้อทำร้องเท้าเหาะขึ้นสวรรค์
ชายเลี้ยงวัวอุ้มลูกน้อยตามเร็วพลัน
ใกล้จะทันแม่เจ้าแล้วนะแก้วตา
๒๓. เทพเจ้าเห็นภาพยิ่งเคืองโกรธ
เจ้าคนโฉดจงไปให้พ้นหน้า
พลางสร้างทางช้างเผือกขวางนภา
ด้วยหวังว่าจะกั้นไว้ไม่ให้เคียง
๒๔. พลันฝูงนกสี่เช่ว์มาพบเข้า
จึงเร่งร้ารวมตัวกันโดยใช้เสียง
บอกต่อแถวเป็นเส้นทางอย่างพร้อมเพรียง
หนิวหลางเลี่ยงผ่านไปได้ง่ายดาย
๒๕. ประคองกอดภรรยาสุดที่รัก
ลูกน้อยโผหนุนตักแม่เศร้าไม่หาย
อย่าจากพวกเราไปห่างไกลกาย
เหมือนหัวใจแหลกสลายในทันที
๒๖. พระเทพเจ้าแห่งแดนสวรรค์
เห็นภาพพลันเวทนาเจ้าเหลือที่
อนุญาตให้หนิวหลางจือนวี่
มาพบปีละครั้งดังต้องการ
๒๗. บนสะพานของฝูงนกสี่เช่ว์
ในช่วงเวลานี้ที่กล่าวขาน
วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดเชื่อมวิญญาณ
ทักทอสานความรักอันมั่นคง
๒๘. สาวทอผ้า...ทอผ้ารอ...อยู่เสมอ
เพื่อพบเจอหนุ่มเลี้ยงวัวผู้ใหลหลง
ความรักเราจะอยู่อย่างซื่อตรง
ด้วยยืนยงเชื่อมั่นหมดหัวใจ
๒๙. รักนิรันดร์...เชื่อมวิญญาณฉันและเธอ
รักเสมอ...รักเราร่วมกันฝันใฝ่
รักแต่เธอ...รักเดียวไม่เคยคิดรักใคร
รักตลอดไป...คล้องใจสองดวงคู่กัน
๓๐. ฉันจึงได้มายืน ณ ตรงนี้
ดินแดนที่มีความรักอันคงมั่น
ยายบอกว่าปายเฉลยทุกสิ่งอัน
ยื่นผ้าพันคอผืนใหญ่มอบให้มา
๓๑. คืนนี้วันที่เจ็ดเดือนที่เจ็ด
ถึงเหนื่อยเหน็ดการเดินทางอย่างอ่อนล้า
ฉันมายืนย้อนตำนานกาลเวลา
สาวทอผ้าหนุ่มเลี้ยงวัวอย่างชื่นชม
๓๒. คืนพระจันทร์สาดแสงส่องสว่าง
เหมือนนำทางความรักให้สุขสม
อธิษฐานให้ความทุกข์ระทม
ฝากสายลมลอยไปจากใจที
๓๓. ใครบางคนเดินผ่านเหมือนเคยคุ้น
เอ่ยทักคุณคนนั้นอย่างเร็วรี่
เรารู้จักกันมาก่อนไหมคนดี
ทำไมมีความรู้สึกแสนผูกพัน
๓๔. รองเท้าหนังวัวที่เธอสวมใส่
เหมือนของใครบางคนในความฝัน
พอหลับตากลับพบเรื่องอัศจรรย์
มือเธอนั้นโอบฉันไว้อย่างห่วงใย
๓๕. ตาต่อตาประสานเสียวซ่านนัก
นี่คือรักแรกพบใช่หรือไม่
ฉันสัมผัสได้ถึงรักหมดหัวใจ
เธอบอกให้ฉันผ่อนคลายนะคนดี
๓๖. ดูดาวอัลแทร์ดาววีกานั่น
คือเธอฉันที่รวมรักสองเรานี้
ทางช้างเผือกความทรงจำทุกข์ชีวี
แต่กลับมีความหมายระหว่างเรา
๓๗. เธอพากลับไปยังแดนสวรรค์
ความสุขพลันแทรกซึมลืมความเหงา
ทุกชาติภพบรรจบรักแม้นานเนาว์
จะคอยเฝ้าติดตามตลอดเวลา
๓๘. มองดูโลกมนุษย์สว่างไสว
ความรักได้สร้างสรรค์สุขหนักหนา
ดูลูกหลานเริงรื่นชื่นชีวา
มองบนฟ้าด้วยรอยยิ้มพิมพ์หัวใจ
๓๙. รักจะอยู่เคียงคู่กับความรัก
ต้องรู้จักทะนุถนอมไว้
ฝากหัวใจไว้ที่ปายตลอดไป
เป็นสายใยเชื่อมเธอฉัน...นิรันดร...
๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
9 ธันวาคม 2552 22:08 น.
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
@เหม่อมองฟ้าราตรีที่มืดมิด
ส่งดวงจิตถึงคนที่คิดถึง
อยู่ห่างไกลหัวใจยังคะนึง
ฝากคำซึ้งถึงจันทร์รักมั่นคง
@เธอจะอยู่ในใจฉันเสมอ
แม้ไม่เจอหัวใจใฝ่ลุ่มหลง
ขอข้าวแดงแกงร้อนจันทร์คงงง
เอ่ยตรงตรงขอรักแท้มีเปลี่ยนแปลง
@มองเห็นแสงนวลนวลชวนหลงใหล
เหมือนกับใครบางคนอยู่บางแห่ง
แม้เหน็ดเหนื่อเมื่อยล้าไม่มีแรง
ความรักช่วยให้กล้าแกร่งเข้มแข็งพลัน
@เธอคือจันทร์ในดวงใจไม่แปรเปลี่ยน
ยังวนเวียนรอบกายแม้หลับฝัน
ทุกภาพยังตราตรึงดวงชีวัน
เหมือนเธอนั้นอยู่ใกล้ทุกเวลา
@แสงแห่งจันทร์คือความรักห่อหุ้มโลก
ลบความโศกเศร้าสร้อยคอยใฝ่หา
รอความรักของสองเราช่วยนำพา
เพื่อพบหน้าและจะอยู่คู่เคียงกาย
@พรหมลิขิตขีดไว้ให้เป็นคู่
เรารับรู้ว่ารักคือความหมาย
รอวันที่จันทร์เต็มดวงส่องประกาย
เป็นวันคล้ายความรักพบบรรจบกัน