13 ตุลาคม 2552 18:40 น.
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
Green Files
Once there were greenfile
kissed by the son
On there were valleys
where river used to run.
Once there were blue skies
with clouds hight about.
Once they were part
of an everlasting love.
We were the lover
who stolled through greenflies
Greenfiles are gone now,
Parched by the son.
Gone from the valley
where river used to run.
Gone with the cold wind
that swet into my hear.
Gone with the lovers
who let thair dreams depart.
Where are the greenflies
the we used to roam?
Ill never know
what made you run away.
How can I keep searching
when dark clouds hide the day?
I only know theres nothing here
for me.
Nothing in this wide world left
for me to see.
But Ill keep on waiting till you return.
Ill keep on waiting until the you learn.
You cant be happy while you hearts on
the roam.
You cant be happy until
you bring it home.
Home to the greenflies and me
once again once again.
ทุ่งหญ้าสีเขียว
ครั้งหนึ่งเคยมีพระอาทิตย์
ทอแสงสาดส่องมายังท้องทุ่งแห่งนี้
ครั้งหนึ่งเคยมีหุบเขาที่แม่น้ำไหลรินผ่าน
เสมอ ๆ
ครั้งหนึ่งเคยมีท้องฟ้าสดใสเต็มไปด้วย
ก้อนเมฆสีขาว
ครั้งหนึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเป็นส่วนหนึ่ง
ของความรักที่ไม่มีวันดับ
ซึ่งเราสองเคยเดินเล่นด้วยกัน
เดี๋ยวนี้ทุ่งหญ้าที่เคยเขียวกลับไหม้เกรียม
และสูญหายไปจากหุบเขา
ที่เคยมีแม่น้ำไหลผ่าน
จากไปพร้อมกับลมหนาวเย็น...
ได้พัดพาเอาหัวใจฉันไป
พร้อมกับคนรัก
ซึ่งทำให้ความฝันของสองเรา
...ได้พังทลายไป...
ทุ่งหญ้าสีเขียวที่เราได้เคยเดินเล่น
...เดี๋ยวนี้ไปอยู่ที่ไหน
ฉันไม่เคยรู้เลยว่า...
อะไรที่ทำให้เธอไปจากฉัน...
แม้ว่าฉันพยายามค้นหาอย่างไร
แต่ก็เหมือนมีเมฆมาบดบังตลอดวัน
ฉันรู้แต่เพียงว่า...
ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วในโลกนี้สำหรับฉัน
แต่ฉันยังคงรอต่อไป
...จนกว่าเธอจะกลับมาหาฉัน...
ฉันจะคอยจนกว่า...วันที่เธอเรียนรู้ว่า...
เธอไม่สามารถมีความสุขได้...
ในขณะที่หัวใจของเธอได้ท่องเที่ยว
...ไปไกลแสนไกล...
เธอไม่สามารถมีความสุขได้
...จนกว่าเธอจะกลับมาสู่บ้าน
บ้านที่มีทุ่งหญ้าสีเขียว...
และฉันรอคอยอยู่...อีกครั้ง
4 ตุลาคม 2552 23:01 น.
เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
ฤๅรักฉันจะเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันนั้น...วันที่จันทร์เต็มดวง
๑. แสงนวลนวลเปล่งประกายบนปลายฟ้า
งามนักหนาน่าหลงใหลชวนใฝ่ฝัน
อยากเป็นดาวพราวพร่างเคียงข้างจันทร์
ทุกคืนวันคงสุขสมอารมณ์ปอง
๒. จันทร์ครึ่งเสี้ยวเปล่าเปลี่ยวเป็นยิ่งนัก
คงรอรักเติมเต็มใจสี่ห้อง
ยินเสียงเพลงบรรเลงท่วงทำนอง
ยิ่งร่ำร้องต้องการใครสักคน
๓. ภาพของเธอและฉันนั้นเคียงข้าง
กายไม่ห่างท่าทางรักมากล้น
เธอประคองมองจันทร์ท่ามกลางชน
ดวงกมลปลาบปลื้มเปรมฤดี
๔. จันทร์คือสื่อสัมพันธ์สัญญาไว้
สานสายใยรักยิ่งใหญ่จากใจพี่
ทุกชาติภพบรรจบคู่คนดี
ร่วมชีวีเคียงข้างไม่ห่างกาย
๕. ชีวิตของคนเราไม่ได้จบ
เพียงแค่พบ พลัดพราก หรือห่างหาย
หากว่าส่วนที่ขาดนั้นกลับกลาย
เป็นดั่งสายสัมพันธ์รักมั่นคง
๖. พี่จะเฝ้ามองจันทร์ทุกคืนค่ำ
และจดจำรักแท้ที่สูงส่ง
เชื่อมสายแนนแทนใจด้วยซื่อตรง
ขอเจ้าจงเชื่อในสายสัมพันธ์
๗. นั่งมองจันทร์วันเพ็ญเด่นบนฟ้า
คงถึงคราสิ้นสุดหยุดความฝัน
เมื่อคนรักปักจิตคิดเปลี่ยนพลัน
เขาคนนั้นมาพัวพันในหัวใจ
๘. ฉันมิใช่คนสำคัญเหมือนวันเก่า
ระหว่างเราเป็นแค่เพื่อนเตือนตนไว้
สายสัมพันธ์ความรักความห่วงใย
ขาดหายไปเมื่อมีใครมาทดแทน
๙. คำว่าดีเกินไปใช่ไหมเล่า
จึงเลือกเขาลืมรักเราเฝ้าหวงแหน
เคยสัญญาว่าผูกพันกันแน่นแฟ้น
รักคือแก่นตามหามาชั่วชีวี
๑๐. มิใช่คู่ครองกันนั้นเที่ยงแท้
ก็ควรแก่เวลาแหนงหน่ายหนี
คนที่เชื่อมสายแนนแทนใจนี้
เป็นคนดีมีศีลธรรมประจำใจ
๑๑. พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ว่า
ทำบุญร่วมกันมาอย่างยิ่งใหญ่
หกร้อยชาติวาสนาเชื่อมสายใย
ส่งผลให้เป็นสามีภรรยากัน
๑๒. แม้ว่าเคยพ่ายแพ้แก่ความรัก
จนจมปลักกับความทุกข์ไม่สุขสันต์
เธอผู้เชื่อมสายแนนแทนใจนั้น
ปรากฏพลันฉุดฉันไว้ในทันที
๑๓. ก้าวผ่านรอยรวดร้าวคราวอดีต
เหมือนพรหมขีดเส้นไว้ให้เช่นนี้
ด้ายแดงเกี่ยวนิ้วก้อยร้อยฤดี
เชื่อมคนที่เป็นเนื้อคู่อยู่เคียงกาย
๑๔. เธอกับฉันนั้นเป็นเช่นดังว่า
วาสนาผูกพันกันมั่นหมาย
บุพเพสันนิวาสท่านท้าทาย
มิดูดายนำหนุนให้ได้พบกัน
๑๕. แม้เราต่างห่างไกลสุดหล้าฟ้า
พรหมนำพาความรักเธอกับฉัน
เพียงพบหน้าราวกับว่าเคยผูกพัน
เหมือนความฝันนั้นพลันเป็นความจริง
๑๖. พอพูดคุยกับเธอเผลอหวั่นไหว
ประทับใจในเรื่องราวทุกทุกสิ่ง
อยากเคียงข้างคอยดูแลคิดแอบอิง
ทำให้ยิ่งรักมากชักใฝ่ปอง
๑๗. จันทร์ครึ่งเสี้ยวเปล่าเปลี่ยวใจเป็นยิ่งนัก
คงรอรักเติมเต็มใจสี่ห้อง
ยินเสียงเพลงบรรเลงท่วงทำนอง
ยิ่งร่ำร้องต้องการรักผูกพัน
๑๘. คงมีวันที่จันทร์เจ้าจะเต็มใบ
แต่หัวใจฉันจะมีไหมวันนั้น
ฤๅรักเราเป็นแค่เพียงความฝัน
ไม่มีวันที่จันทร์นั้น...จะเต็มดวง
๑๙. เธอเอื้อนเอ่ยเมื่อมองจันทร์คืนวันนี้
บอกใจพี่มีรักที่แหนหวง
กลับมาตามสัญญาไถ่ถามทวง
ติดตามบ่วงหัวใจใครบางคน
๒๐. ภาพของเธอและฉันนั้นเคียงข้าง
กายไม่ห่างท่าทางรักมากล้น
จดจำได้ขึ้นใจในกมล
เธอคือคนสำคัญคู่ชีวี
๒๑. จันทร์คือสื่อสัมพันธ์สัญญาไว้
เป็นสายแนนแทนใจของน้องพี่
ทุกชาติภพบรรจบเคียงคนดี
ขอรักนี้มีฉันเธอไม่ห่างกาย
๒๒. ชีวิตของคนเราไม่ได้จบ
เพียงแค่พบ พลัดพราก หรือห่างหาย
หากว่าส่วนที่ขาดนั้นกลับกลาย
เป็นดั่งสายสัมพันธ์อันมั่นคง
๒๓. พี่จะเฝ้ามองจันทร์ทุกคืนค่ำ
และจดจำรักแท้ที่สูงส่ง
เชื่อมสายแนนแทนใจด้วยซื่อตรง
ขอเจ้าจงเชื่อในสายสัมพันธ์
๒๔. ทุกถ้อยคำจำได้ขึ้นใจนัก
คือความรักข้ามภพแสนสุขสันต์
เชื่อมสายแนนแทนใจชั่วนิรันดร์
หลอมใจฉันและเธอเป็นหนึ่งเดียว
๒๕. ค่ำคืนนี้จันทร์เต็มดวงงดงามนัก
เพราะความรักเติมล้นท้นจนแน่นเหนียว
เป็นสายแนนแทนใจเรากลมเกลียว
ช่วยเกาะเกี่ยวรักนิรันดร์...ฉันและเธอ...
๑ ตุลาคม ๒๕๕๒