9 พฤศจิกายน 2545 21:19 น.

คน : นก : ต้นไม้#ภาค ปัจจุบันกาล ตอนที่3 ดนตรี

เจ้าขาว

ช่วงเวลาน้ำแข็งได้ผ่านมา 10 วันแล้ว
ตอนนี้คนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะไม่สามารถออกจากถ้ำไป ตีหิน ได้อย่างเคย(ตีหิน เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่คนเพิ่งค้นพบก่อนห้วงเวลาน้ำแข็งเริ่มต้นไม่นาน  เริ่มจากเอาเสาไม้ไปปักไว้ที่ฝั่งหนึ่งของทุ่งหญ้า  จากนั้นก็เก็บก้อนหินมาซัก2-3ก้อน แล้วเอากิ่งไม้ตีก้อนหินจากบนเนินให้ไปโดนเสาไม้ที่ปักไว้  ตอนหลังคนได้เปลี่ยนเป็นตีให้ลงหลุมขนาดฝ่ามือที่ขุดไว้แทน  เพราะว่าหญ้าในทุ่งสูงมาก
พอตีไปแล้วก้อนหินกระแทกเสากระเด็นหายไปทำให้หาก้อนหินไม่เจอ
ต้องเสียเวลาไปหาก้อนใหม่)  จริงๆแล้วคนก็ไม่ค่อยชอบตีหินเท่าไหร่นัก  
แต่คนต้องการสังคมมากกว่า
เวลาเดินเก็บก้อนหิน  หรือเดินไปดูว่าลูกลงหลุมมั๊ย
ทำให้คนต้องอยู่กับธรรมชาติ  ถามหาก้อนหินจากแมกไม้และฝูงกระต่าย
บางครั้งก็ให้เจ้านกช่วยดูทิศทางลม  รวมรวมแล้วก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่คนได้สังสรรกับธรรมชาติ  เพราะคนรู้ว่าสังคมของธรรมชาติยิ่งใหญ่เพียงใด


แต่ในยามนี้ทุ่งหญ้ากลายเป็นสีขาวเกลื่อนไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง  
ทุกคราวที่ฝ่าเท้าประทับลงไปก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความเย็นนั้นวิ่งผ่านตรงจากเท้าไปสู่สมองอย่างรวดเร็ว  คนอยากออกไปหาต้นไม้
เมื่อไม่สามารถเดินไปได้คนจึงเริ่มตะโกนเรียก    ต้นไม้     ต้นไม้   
เสียงของคนสะท้อนก้องไปทั้งถ้ำ ทำเอาคนตกใจในตอนแรกที่ได้ยิน  
แต่ก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยในครั้งต่อๆมา  
เมื่อความกลัวหายไปคนก็เริ่มรู้สึกสนุกกับเสียงที่ได้ยิน  
เค้าเริ่มตะโกนดังขึ้น  ถี่ขึ้น  หลายหลายมากขึ้น จนแท่งน้ำแข็งบนผนังร่วงหลุดลงมา
เพราะพลังเสียงที่กระแทกอย่างร้อนแรง แต่เสียงน้ำแข็งหักไม่ได้ทำให้คนหยุด
แต่กลับเพิ่มความสนุกให้คนขึ้นไปอีก คนฉวยเอาดุ้นฟืนมาฟาดผนังให้น้ำแข็งร่วงลงมามากขึ้น
ปากก็ยังคนแหกตะโกนไม่หยุด   ไอ้คน  บ้า    นกที่พึ่งจะบินผ่านถ้ำของคนมาออกความเห็นให้ต้นไม้ฟัง
ต้นไม้บอกแก่เจ้านกว่า 
 คนมีหู  คนได้ยินเสียงเพราะหู  คนก็เลยลืมใช้อย่างอื่นนอกจากหูในการรับฟัง
แล้วซักวันคนก็จะเริ่มฟังเสียงที่ตัวเองประดิษฐ์มากขึ้น  
เลิกฟังเสียงของนก  เสียงของลม เสียงเกลียวคลื่น  เสียงสายฝน
แล้วก็จะหลงลืมเสียงของเราในที่สุด   
ไอ้คนบ้า  นกร้องขึ้นอีกครั้ง  
				
7 พฤศจิกายน 2545 11:14 น.

คน:นก:ต้นไม้ ภาคปัจจุบันกาล ตอนที่2 ทำรัง

เจ้าขาว

อากาศเย็นต่อเนื่องหลายวันบ่งบอกว่า 
เวลาน้ำแข็งกำลังใกล้เข้ามา 
คนเริ่มออกเดินหาถ้ำเพื่อพักพิง 
นกเริ่มสานรังใหม่ด้วยเศษหญ้า 
ตกเย็น 
คนมานั่งพักใต้ต้นไม้ พร้อมกับเริ่มการสนทนา 
 เจ้าจะเริ่มทำรังเมื่อไหร่ คนถาม 
 ข้าไม่เคยทำรัง  ต้นไม้ตอบ 
 งั้นเจ้าหาถ้ำได้รึยัง  ข้าไม่อยู่ถ้ำ 
ฮ้า....งั้นเจ้าคงจะห่มหนังสัตว์ละสิ  จะออกล่าเมื่อไหร่ล่ะ 
ข้าไม่นุ่งห่ม  เมื่อเวลาน้ำแข็งมาข้าก็แค่ทิ้งใบเท่านั้น
งี่เง่า งี่เง่า  เสียงนกดังลอดกิ่งไม้ลงมา
ไม่มีใบเจ้าจะมีปัญญาอะไรปกป้องตัวจากความหนาว  นกเย้ย
ข้าไม่ต้องปกป้องตัวเองจากธรรมชาติ ต้นไม้ตอบคำ
เจ้าไม่หนาวรึ 
 ข้าเป็นส่วนหนึ่งของความหนาว ต้นไม้หยุดแกว่งใบไปมากับสายลม
ก่อนจะเอ่ยต่อว่า เมื่อยามที่ไร้ใบข้าทำให้ความหนาวชัดเจนยิ่งขึ้น
เสียเวลาเปล่าคน เจ้าต้นไม้น่ะโง่จะตาย พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องสมควรแล้วล่ะที่ไม่มีปากเมื่อพูดจบนกก็กิน หนอนว่าง ไปหนึ่งตัว  
มันกะจะเก็บที่เหลืออีก2ตัวไว้กินตอนเวลาน้ำชา
 แล้วเจ้าผ่านเวลาน้ำแข็งมาอย่างไรโดยไม่ตาย  สภาพที่ไร้แสงแดดอบอุ่น 
 อ้างว้างอยู่กลางทุ่งเพียงลำพัง  และถูกปกคลุมด้วยละอองน้ำแข็ง คนสงสัย
ข้าอยู่เฉยๆ  ต้นไม้ตอบนิ่งๆ  
อยู่เฉยๆนั่นแหละที่เจ้าต้นไม้ถนัดนัก นกเปลี่ยนใจกินหนอนว่างไปอีกตัว เพราะการสนทนาเริ่มออกรสชาติ 
มันคิดถึง หนอนว่างรสวาซาบิ ที่นกกระสาเอามาฝากเมื่อช่วงเวลาน้ำแข็งที่แล้ว
ต้นไม้กล่าวต่อไปว่า คน ถ้าเจ้ารู้จักอยู่กับความหนาวให้ได้  บางทีเจ้าอาจไม่ต้องอพยพหาถ้ำ  หรือหาหนังสัตว์มาห่มให้ยุ่งยาก
 แล้วข้าจะกินอะไรล่ะ  เมื่อสัตว์ต่างๆก็หลบละอองน้ำแข็งกันไปหมดแล้ว
คนทักท้วง  หนอนว่างรสวาซาบิ นกเพ้อถึงอาหารในฝัน 
แหวะ  คนรู้สึกไม่แน่ใจในรสนิยมการกินของนก
เจ้ายังไม่ลองจะรู้ได้ยังไง  อย่างน้อยข้าก็มีนกไว้ให้เจ้าย่างกินหนึ่งมื้อต้นไม้เอ่ยอย่างจริงจัง  เพราะยังไม่ลืมความทรมาณจากกลิ่นขี้ผสมกลิ่นวาซาบิในช่วงเวลาน้ำแข็งที่แล้ว
 ส่วนข้าก็มีฟืนไว้ให้เจ้าก่อไฟเช่นกันนกแสยะยิ้มหนึ่งครั้งให้ต้นไม้ก่อนจะกลืนหนอนว่างตัวที่สามลงคอ


สุดท้ายคนก็เลือกที่จะนอนห่มหนังสัตว์อยู่ในถ้ำ  กินไข่นกปิ้งโดยอาศัยกิ่งแก่ๆ
ของต้นไม้  แทนที่จะกินนกย่างโดยใช้ต้นไม้ทั้งต้นเพราะคนรู้ว่าเวลาน้ำแข็งนานเกินกว่าจะรีบผลาญใช้ทุกอย่างให้หมดในทันที
บัดนั้นวิชาเศรษฐศาสตร์ก็ถือกำเนิดขึ้นบนโลก				
6 พฤศจิกายน 2545 00:12 น.

คน : นก : ต้นไม้#ภาค ปัจจุบันกาล ตอนที่1 บิน

เจ้าขาว

ในเช้าวันสีเศร้า คนนั่งร้องไห้กับต้นไม้พลางเล่าเรื่องเศร้าที่พึ่งค้นพบ
ร่องรอยบาดเจ็บยังอยู่ รอยเลือดยังอยู่ น้ำตายังไหลอยู่
และถ้อยคำยังไม่จบสิ้น
ทำไมคนบินไม่ได้  คนเอ่ยขึ้น
การตกต้นไม้ครั้งแรกเจ็บปวดเกินจะปล่อยผ่านไปโดยไม่คร่ำครวญ
......  ต้นไม้นิ่งเฉยก่อนจะตอบว่า เจ้าไม่มีปีก
ทำไมข้าถึงไม่มีปีก  คนยังถามต่อ
เจ้าไม่ใช่นก  ต้นไม้ตอบในทันที
แล้วทำไมนกมีปีกแต่คนไม่มี  คนตั้งคำถามอีก
ข้าไม่ใช่นก   ต้นไม้ตอบเพื่อสิ้นสุด
แล้วทำไมต้นไม้ไม่มีปีก  คนไม่ชอบการสิ้นสุด
ข้าไม่ต้องการบินข้าจึงไม่มี  นกมีหน้าที่ต้องบินจึงต้องมี  ส่วนเจ้าแม้จะต้องการ
แต่เจ้าก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องบินเจ้าจึงไม่มี  ต้นไม้พยายามตอบ

คนพยักหน้า เมื่อได้ฟัง คนมีหูจึงต้องรับฟัง 
เพราะมันอาจจะเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีหู

ทำเป็นรู้ดี  ทำเป็นรู้ดี  ทำเป็นรู้ดี  เสียงนกดังมาจากทุ่งเมฆสีขาว
บินก็ไม่เป็น  เดินก็ไม่ได้  ทำมาเป็นสอน  นกกล่าวยั่ว
......  ต้นไม้ไม่ตอบ 

มิใช่เพราะจนด้วยถ้อยคำ
แต่มันนึกขึ้นได้ว่า
ต้นไม้ไม่มีปาก การพูดจึงไม่ใช่หน้าที่ของมัน
การหาคำตอบเป็นเรื่องของคน
และอย่าไปฟังเสียงนกเสียงกา ที่ทำไม่เป็นแม้แต่ผลิใบเขียวๆ  				
5 พฤศจิกายน 2545 09:21 น.

ละออง

เจ้าขาว

ในละอองฝน
ชั้นแอบปนละอองน้ำตา
ในละอองฝัน
ละอองรักช่างเบาบางเกินกว่า
ละอองความเศร้า
ละอองความเหว่ว้า

ภายใต้...ละอองแดด
ชั้นสงสัยว่า
ยิ้มเธอจะฉายมา
ไล่ละอองความเหงาเมื่อใด				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าขาว
Lovings  เจ้าขาว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเจ้าขาว