16 เมษายน 2548 00:02 น.
เจ้าขาว
ลืมตาขึ้นมาในโลกเปล่า
อ่านข่าวความเศร้าในกระจก
ข้ามกองหนังสือแสนรก
กระดกดื่มกาแฟดำ
อยากลุกขึ้นมาตอนบ่ายๆ
หายใจแล้วหลับไหลไปจนค่ำ
ไม่อยากตื่นนานพาลให้ช้ำ
เวลาทำให้จำไม่ใช่ลืม
29 มีนาคม 2548 12:13 น.
เจ้าขาว
ลมสะบัดพัดยอดโศกไสว
ทิวไผ่ไกวไหลลู่สู่แนวสน
เลี้ยวเลาะเลียบเทียบทางข้างสายชล
กว่าจะพ้นจนสุดสายชายฝั่งนที
ใช่ทุกลมจะลอดมากอดหาด
บางลมพลาดพัดออกนอกวิถี
วกเวียนวนในวันวานไม่ผ่านเสียที
หลงพงพีหนีหนทางร้างความจริง
ลมที่ไหลหลบแสงมักแรงอ่อน
หลบแดดร้อนอ้อนเงาหญ้าน่าอายยิ่ง
หวังหญ้าไกวให้เรี่ยวแรงแสร้งแอบอิง
หวังพึ่งพิงเพียงล่อลวงบ่วงถ้อยคำ
ว่าจะพัดดอกเจ้าไปทางโน้น
ว่าจะโยนลิ่วลอยไม่คล้อยต่ำ
พันสัญญาว่าจนเพลินเกินจะจำ
ทุกสิ่งทำเพียงรักษาอัตตาตัว
แล้วลมสูงก็พัดมาย่างกลาย
พร้อมโปรยปรายสายฝนพรำจนฉ่ำทั่ว
พัดไอร้อนให้ผ่อนคลายสบายตัว
ยางหญ้าบัวกุ่มตะแบกไม่แยกใบ
ทั้งป่าจึงพร้อมใจโบก
จากโมกถึงต้นไทรใหญ่
กันเกราเสลาสลัดได
ขานไขทางไปทะเล
จงให้เพื่อให้ใช่หวังรับ
ใครจ้องจับรักไว้ย่อมว้าเหว่
เป็นลมต่ำร่ำร้องรวญเร
จนต้องเฉเฉียงไฉไปไกลทาง
ยกหัวใจตั้งไว้ให้เสียดฟ้า
มองลงมาให้ทั่วทั้งข้างล่าง
หอบของหนักลอยไม่ไกลให้รู้วาง
คืนสุดขวางทางสู่รุ่งพรุ่งนี้เอย
25 มีนาคม 2548 10:00 น.
เจ้าขาว
สาดทรายใส่คืนมหาสมุทร
หมายจะหยุดคลื่นหวนทวนใจเจ็บ
เศษทรายกลับตำยอกในซอกเล็บ
จำใจเก็บกลัดไว้เตือนใจตัว
เคยนิ่งนั่งนับดาวกันคราวก่อน
เคยหนุนนอนแนบชิดใกล้ในคืนสลัว
เพียงไม่นานผ่านมาเจอฟ้ามัว
เจ้าบอกกลัวสิ้นคำจมลำเรือ
มองคลื่นแหวกแตกฟองนองชายหาด
ดั่งใครฟาดขั้วใจแยกแหลกไม่เหลือ
ก่อนนิยมชมว่าหวานน้ำตาลเจือ
กลับว่าเกลือไม่เหลือใยไร้อาทร
เคยร่วมฝ่าฝนฟ้ามาตั้งมาก
กลับมาฝากแผลให้เห็นเป็นอนุสรณ์
ลมกระหน่ำย้ำยอดพร้าวยิ่งร้าวรอน
คลื่นสะท้อนย้อนเรื่องเก่าเร้าน้ำตา
24 มีนาคม 2548 10:32 น.
เจ้าขาว
รัก คอยร้อยรัดห่วง ดวงฤทัย
กัน และกันเคียงใจ ไม่ร้าง
ตลอด คืนวันผันไป สิ้นฟ้า สิ้นลม
กาล อาจพรากเรือนร่าง รักกลับเชื่อมใจเสมอ
23 มีนาคม 2548 21:20 น.
เจ้าขาว
คำหวานๆล้านคำทำใครไหว
หวั่นฤทัยไปทั้งดวงทรวงวาบหวาม
ยังไม่เทียบเท่าเจ้าเย้ายิ้มงาม
ใจสุดปรามตามติดเจ้าเฝ้าชิดเชย