20 กันยายน 2548 08:09 น.
เจ้าขาว
ไม่มีใครมองเธอ
ทุกคนมองเห็นแต่เงา
แม้แต่ตัวเราเอง
เงาสั้นในยามเที่ยง
ฉันรู้ เธอไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นไปเช่นนั้น
ยามบ่าย เงายืดยาว
ฉันรู้ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป
เกินเธอจะหยุดยั้ง
เธออาจสนุกกับเงา
รูปทรงของเงาอาจเปลี่ยนแปร
เธอไม่อาจเปลี่ยนเธอ
วันที่เธอรู้ตัว
เรามองเงาของกันและกัน
เธอจะหัดเชิดเงา
28 สิงหาคม 2548 20:23 น.
เจ้าขาว
นอกจากนักแสดง
จะมีซักกี่คนที่อยากได้น้ำตา
ก็ในน้ำตาที่ดูใสนั้น
ล้วนอิ่มไปด้วยความรู้สึก
ทั้งดีและ เสียใจ แต่ส่วนใหญ่เราจะมีน้ำตาเมื่อตอนที่เสียใจซะมากกว่า
บางทีอาจจะเพราะว่า
ในชีวิตเรามีเรื่องที่ทำให้รู้สึกดีใจจริงๆอยู่น้อย
เวลาร้องไห้ดีใจ ความรู้สึกเหมือนได้รับอะไรบางอย่าง
เวลาร้องไห้เสียใจ ก็กลับรู้สึกสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป
ต่อมน้ำตานั้น อยู่ที่ตาจริงๆหรือ
แล้วใครรู้วิธีห้ามน้ำตาบ้าง
ทั้งที่เพียงเป็นแค่หยดน้ำ
ซึ่งราวกับจะหยุดไว้ได้ด้วยเปลือกตา
แต่สุดท้าย
ทั้งที่ใช้ทั้งสองมือแล้วก็กลับไม่อาจห้ามน้ำตานั้นได้
คงเพราะน้ำตานั้นถูกกลั่นมาจากความรู้สึกทั้งหมดที่มี
จึงทำให้มันหนัก
บางครั้งก็หนักจนเกินจะแบกไว้ได้ด้วยหัวใจเพียงดวงเดียว
ตอนที่น้ำตาไหลออกมาอย่างมากมายนั้น
จึงทำให้เราเหมือนใจจะสลาย
ก็น้ำหนักที่มากมายนั้น ถาถล่มลงมาทับหัวใจในคราเดียว
บางคนอาจลำบากกว่านั้น
คอยกลั้นน้ำตาเอาไว้
หัวใจก็ต้องรับภาระแบกน้ำหนักน้ำตานั้นจนอ่อนล้า
สะสมนานๆเข้าก็เหมือนเขื่อนที่รอวันแตก
น้ำตาเป็นสิ่งพิเศษ
ข้อความที่ไร้ถ้อยคำนั้น
บางเวลา
ก็เรียกร้องหาหัวใจอีกดวงมารับฟัง
และร่วมแบกน้ำหนักของมัน
และถ้าหัวใจดวงนั้นเป็นใจดวงเดียวกับที่เราปรารถนา
น้ำตาแห่งความสุขคงจะรินไหลในไม่ช้า
แต่ถ้าหัวใจดวงที่เราหมายปองนั้นเองที่ทำให้เรามีน้ำตา
เวลานั้น
เราคงทำได้แค่ปล่อยให้หัวใจของเราพูดไปจนหมดแรง
ถึงอย่างนั้น
น้ำตาก็เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะหัวใจไม่อาจพูดสิ่งใด
น้ำตาอาจจะเป็นหนทางเดียวที่เราจะสื่อสารกับหัวใจก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นหัวใจของเราหรือหัวใจของคนอื่นก็ตาม
25 สิงหาคม 2548 16:29 น.
เจ้าขาว
ในนาผืนนี้
ฉันหวังปลูกความฝัน
ฉันเริ่มถางความขมขื่นโล่งเตียน
เติมยิ้มและความอบอุนจนอุดมสมบูรณ์
ล้อมรั้วหัวใจไว้แน่นหนา มิให้ใครอื่นล้ำเข้ามา
เพียงว่า จะหว่านความรักของเธอลงไป
แม้ฤดูกาลจะโหดร้ายไปบ้าง
แต่
อย่างเดียวกับที่เมฆซ่อนรุ้งเอาไว้เสมอ
อย่างเดียวกับที่อีกฝั่งหนึ่งของโลกยังอุ่นไปด้วยแสงตะวัน
ความสุขไม่เคยจากเราไปนาน
เกษตรกรที่หว่านพืชแล้ว ย่อมเฝ้ารอสายฝนด้วยใจอดทน
แต่เกษตรกรที่เกรียจคร้านเท่านั้นที่เอาแต่นั่งคอยเฉยๆ
และเกษตรกรที่หอบน้ำเดินข้ามทุ่งอันแห้งแล้ง
เพื่อจะนำหยดน้ำเล็กๆกลับมาชโลมลงในผืนนาของเขา
ฉันเชื่อว่าผืนนานั้นจะยังสมบูรณ์อยู่เสมอ
ในทุกๆเช้า
ฉันจะออกเดินสำรวจจนทั่ว
คอยทุบก้อนดินให้แหลกลงจนละเอียดเนียน
และพรวนจนร่วนฟู
ในนาสี่แปลงนี้เตรียมไว้เพื่อปลูกพืชชนิดเดียว
วัชพืชอื่นใดจะถูกถอนรากออกจนหมด
ฉันไม่รู้ว่าฝนจะตกมาเมื่อไหร่
แต่ฉันหวังว่าผืนดินแห่งนี้
จะเป็นที่ที่เมฆหอบฝนและสายรุ้งกลับมาพักพิงเสมอ
18 สิงหาคม 2548 09:24 น.
เจ้าขาว
กวางน้อย
เจ้าอยู่มุมไหนของท้องฟ้า
หรือแอบอยู่หลังเงาจันทร์
ชายชราในชุดสีแดง
จะมองเห็นป้ายไหม
ปล่องไฟนี้ทำความสะอาดแล้ว
ในตอนเช้า
ถุงเท้ายังว่างเปล่า
ไม่มีหิมะให้เห็นแม้สักนิด
ใช่สิ
นี่มันหน้าร้อน
แล้วทำไมเราจึงรู้สึกหนาวอย่างนี้
หน้าหนาวนี้
คุณตาชุดแดงที่เคารพ
ผมขอความรักห่อใหญ่ๆจะได้ไหม
14 สิงหาคม 2548 08:30 น.
เจ้าขาว
ในระหว่างบรรทัด
เธอค้นพบอะไรบ้างไหม
จดหมายที่ซ่อนอยู่
บนรอยสีและฝีแปรง
เธอมองเห็นอะไรบ้างไหม
จิตรกรรมของความฝัน
ยามเสียงเพลงบรรเลง
เธอจะได้ยินรึไม่
หัวใจเริ่มหัดพูด
ในสลัดจานนั้น
มีมากกว่าอาหาร
รสชาติของความห่วงใย
จากภาพถ่ายถึงอ้อมกอด
รสจูบหรือช่อดอกไม้
ทั้งหมด
ล้วนมีรูปทรงเดียวกัน