10 มีนาคม 2546 00:53 น.
เจ้าขาว
บางคนบอกว่ารักสักเท่าฟ้า
คนนั้นว่ารักกว่าฟ้าไหนไหน
คนนี้บอกคำรักฝากฟ้าไป
หวังใจให้คนโน้นชอบตอบกลับมา
ฟ้าจึงเกลื่อนไปด้วยคำว่ารัก
คนอกหักชะเง้อคอยละห้อยหา
มองคำรักดั่งดาวบนนภา
ฝันไปว่าจะร่วงหล่นลงสู่มือ
และแล้วคำว่ารักก็ควบแน่น
กลายเป็นแผ่นปิดฟ้าจนมืดตื้อ
กลั่นเป็นหยดความสงสัย ใจถูกรื้อ
อะไรหรือคือรักที่แท้จริง
จริงหรือที่บอกรักชั้นเท่าฟ้า
จริงหรือที่บอกรักกว่าทุกสิ่ง
จริงหรือที่เธอบอกว่าจริง
จริงหรือที่บอกว่าจริงใจ
รักเท่าไหร่ไม่เห็นจะสำคัญ
ถึงบอกกันก็ไม่คลายหายสงสัย
ความรู้สึกลึกซึ้งภายใน
ไม่อาจถ่ายทอดไปในถ้อยคำ
ให้เหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
ทั้งหัวเราะน้ำตาและขบขำ
วันที่แก้มแนบแก้มยังจดจำ
เป็นสิ่งล้ำคุณค่ากว่าคำใด
ความผูกพันมากมายที่ร่วมมี
เปล่งเป็นสีสว่างและสดใส
ดั่งสายรุ่งพุ่งตรงลงที่ใจ
เชื่อมเราไว้ดั่งคำมั่นสัญญา.
3 มีนาคม 2546 03:52 น.
เจ้าขาว
ชั้นไม่ใช่ความฝัน
ชั้นอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
แต่ชั้นไม่ใช่เงา
10 กุมภาพันธ์ 2546 01:18 น.
เจ้าขาว
สูดลมหายใจช้าช้า
รู้สึกว่าหอมกลิ่น
ลืมเหล่าบุปผาทั้งสิ้น
ถวิลเพียงกลิ่นแก้มนาง
เอื้อมมือคว้าไออากาศ
ไม่อาจโน้มเธอเคียงข้าง
เพียงมายาพาฝันค้าง
แต่ไม่เคยสร่างสักรักตรี
หอมหวลอบอวลไปทั่ว
เมามัวได้ปลื้มลืมที่
พริ้มตาหลับพลันฝันดี
เหมือนมีเจ้าแอบแนบกาย
/(-_-)
9 กุมภาพันธ์ 2546 03:50 น.
เจ้าขาว
ใบไม้ใบแรกของโลกนี้
แม้จะมีคุณค่าเท่าไหร่
แต่ไม่เคยมีคนสนใจ
เท่าใบไม้สุดท้ายของโลกนี้
การมาเยือนใยถูกละเลยเสมอ
การพบเจอก็เกิดขึ้นในทุกที่
ลมหายใจหนแรกที่ชั้นมี
ไม่มีคนสนเท่าครั้งสุดท้าย
ชั่วขณะที่หมู่เมฆมาบรรจบ
ถูกค้นพบหลังจากเมฆสลาย
สายฝนร่วงหล่นมาทักทาย
ก่อนกลายเป็นคำอำลา
ใบไม้ใบแรกของโลกนี้
ไม่มีใครเห็นคุณค่า
ก่อนลมเฮือกสุดท้ายจะพัดมา
วอนน้ำตาจากเมฆไว้อาลัย
6 กุมภาพันธ์ 2546 14:10 น.
เจ้าขาว
บางครั้งหวังรู้จักเพียงอักษร
ไม่หวังนอนชิดเรียงเคียงใกล้
ดื่มอารมณ์ดื่มคำก็ฉ่ำใจ
สนอะไรกับตัวตนคนเขียนเอย