6 เมษายน 2546 08:38 น.
เจือจันทร์
แสงหนึ่งซึ่งกระทบสบวัตถุ
แล้วทะลุสะท้อนมาเข้าตาฉัน
ก็กระเจิงแตกไปกระจายพลัน
ก่อนรวมกันหันหักเหและเลี้ยวเบน
แสงเดินทางผ่านแก้วตาเข้ามาได้
ก็เข้าไปสู่ Retina ว่าให้เห็น
ไปกระตุ้นเซลล์ Rod,Cone เพียงจำเป็น
ว่าที่เห็นเป็นดำขาวหรือสีใด
ผลของสารเคมีที่เกิดได้
ก็นำไปใช้เหนี่ยวนำทำไฟฟ้า
ได้กระแสประสาทเกิดขึ้นมา
ส่งต่อหนา..เข้า Dendrite ออก Axon
กระแสประสาทหลั่งไหลไปเรื่อยร่อน
แล้วมาถึง Diencephalon ของสมอง
ส่วนที่ Dorsal Thalamus ตามครรลอง
แล้วจึงล่องไหลต่อไปให้ติดตาม
มาถึงส่วนของสมองส่วนหน้า
ที่ชื่อว่า Occipital lobe เกิดคำถาม
ทำหน้าที่อะไรจงนิยาม?
โปรดติดตามจะแถลงไขเล่าให้ฟัง
สมองส่วนนี้ทำหน้าที่ในการเห็น
ซึ่งอยู่เป็นตำแหน่งท้ายสุดที่ด้านหลัง
มาถึงตรงนี้ก็ให้ดีใจจัง
เล่าให้ฟังมาจนครบจบซะทีเฮ้อ!
6 เมษายน 2546 08:19 น.
เจือจันทร์
เพราะอยากให้ความรักเรา update
พี่จึงสร้าง homepage ของเราสอง
ขายพื้นที่ advertise ให้คนจอง
แล้วพาน้องท่อง net ไปด้วยกัน
3 เมษายน 2546 09:45 น.
เจือจันทร์
หวิวหวิวลมพัดไหวให้ใจหวั่น เห็นกังหันผันน้ำมาเข้านาสวน
เมล็ดพันธุ์พืชไร่ได้หว่านพรวน เพราะดินร่วน ดินดำ อีกน้ำดี
ถนนหนึ่งซึ่งทอดยาวให้ก้าวย่าง เป็นเส้นทางสู่นาไร่ในวิถี
เพื่อพออยู่เพื่อพอเพียงเพียงพอดี ทางสายนี้คือวิถีที่ยั่งยืน
หวิวหวิวลมพัดไหวให้ใจเปลี่ยน วัฏเวียนวนไปไม่อาจฝืน
เปรียบสายน้ำที่ไหลไปไม่ผันคืน ความยั่งยืนไม่ยืนยั่งดังนิยาม
จากไร่นาก้เปลี่ยนมาเป็นค้าขาย ต่างชาติหมายได้สินค้าตราสยาม
อาชีพใหม่สร้างรายได้กำไรงาม แปรผันตามความต้องการของสายลม
ถนนนี้มีชื่อว่าอะไรเล่า เขาตั้งเอาความตามหมายได้เหมาะสม
ถนนนี้มีชื่อว่า ถนนสายลม ก่อนจะกร่อนเป็น สีลม ในปัจจุบัน
30 มีนาคม 2546 10:33 น.
เจือจันทร์
ฆ่าตัดตอนตอนตัดมันขัดศีล
ทุกชีวินมีค่าอย่าทำเขา
ควรจะลดโทษหนักให้เป็นเบา
ตัดตอนเขาแล้วไม่ฆ่าถ้าจะดี
*หมายเหตุ อ่านแบบผู้ชายจะได้อารมณ์เป็นพิเศษ อิอิ
30 มีนาคม 2546 10:24 น.
เจือจันทร์
นก..
โอ้ปักษิณเจ้าบินหลามาลิบลับ
ปีกพะยับนั้นหรือกระพือไหว
แม้นพายุผันคีรีให้เปลี่ยนไป
แต่ไม่อาจผันใจเจ้าเปลี่ยนแปลง
เวิ้ง..
เวิ้งน้ำห่างไกลไปสุดหล้า
เวิ้งฟ้าห่างไกลไปสุดแสง
เวิ้งฝันฟันฝ่าไปสุดแรง
เวิ้งว้างห่างแหล่งไปสุดไกล
บินผ่าน..
บินผ่านแปลวแดดก็แผดเผา
บินผ่านภูเขาก็ขวางกั้น
บินผ่านขวากหนามก็เกี่ยวพัน
บินผ่านคืนวันก็สั้นลง
เสียง..
เสียงเจ้าร้องก้องป่าพนาสน
เสียงระคนปนเสียงป่าพนาสัย
เสียงเจ้าแปร่งด้วยอ่อนแรงลงหรือไร
เสียงหัวใจร่ำหาไม้ไว้พักพิง