16 มิถุนายน 2546 23:01 น.
เจรนัย
เก้าอี้ไม้กับผ้าลายเก่าเก่า
ชั้นกับข้าวกับพรมเช็ดเท้าผืนใหม่
ตู้ทีวีและแจกันตั้งอยู่ใกล้ใกล้
นาฬิกากุ๊กไก่แขวงไว้หน้าประตู
มีโต๊ะอาหารที่ปูผ้าสีฟ้า
มีตำราหลายเล่มอยู่ในตู้
มีคูน้ำตอนเด็กชอบนั่งดู
ชามปลาทูของสีนวลอยู่นอกชาน
มีหน้าต่างบานเล็กเล็กมองเห็นสวน
มีต้นไม้ที่กิ่งจวนจะหักน่าสงสาร
มีต้นหญ้าสีเขียวเป็นตระการ
มีรั้วสานจากไม้ไผ่น่าดูชม
คิดถึงจังคิดถึงบ้านที่น่าอยู่
ต้องพลัดถิ่นเพื่อความรู้ไว้คู่สม
เมื่อไรหนาจะได้กลับไปชื่มชม
ทิ้งอารมณ์คิดถึงบ้านไปเสียที
16 มิถุนายน 2546 17:33 น.
เจรนัย
ถึงโลกนี้จะโหดร้าย...
ถึงไร้ดาวที่ปรารถนา...
ถึงไร้ซึ่งกาลเวลา...
ถึงชีวาจะขาดใจ...
จงศรัทธาในความหวัง...
จงตั้งมั่นและฝันใฝ่...
จงมุ่งสู่ทางแสนไกล...
จงก้าวไปพร้อมพลัง...
ฉันจะอยู่ข้างเธอแน่...
ฉันจะคอยดูแลอยู่ด้านหลัง...
ฉันจะคอยปกป้องยามที่เธอสู่ภวังค์...
ฉันจะคอยนั่งเฝ้าเธอเวลาไม่มีใคร...
ได้โปรดเถอะอย่าหยุด...
ได้โปรดเปี่ยมประดุจเป็นแสงที่สดใส...
ได้โปรดบอกฉันเถิดนะทรามวัย...
ได้โปรดมอบหัวใจให้ฉันดูแล...
14 มิถุนายน 2546 18:32 น.
เจรนัย
รถไฟฟ้าบีทีเอสตรงที่หนึ่ง
มีเรื่องเล่าหวานซึ้งพึ่งเฉลย
เป็นเรื่องของหญิงเปรี้ยวกับชายเชย
ที่ไม่เคยมีความรักให้ชื่นใจ
เรื่องเกิดตอนคืนหนึ่งที่เหน็บหนาว
มีหญิงสาวสุดเปรี้ยวหน้าตาใส
ยืนกอดอกทนหนาวเปล่าเปลี่ยวใจ
รอรถไฟอยู่คนเดียวในราตรี
พักหนึ่งมีชายหนุ่มเชยสุดสุด
เดินขึ้นมาเกือบสะดุดล้มเต็มที่
แต่ก็ยังประคองตัวให้อยู่ดี
จึงลอดพ้นหน้าเปื้อนสีโลหิตเลย
สาวได้เห็นก็หัวเราะลืมหยุดกลั้น
ก็เพราะมันขำแสนขำเมื่อตอนเผย
ไอ้ฝ่ายชายได้ยินก็เขินเลย
ทั้งสองเลยไม่ถูกกันแต่นั้นมา
เทวดาเหมือนมาแกล้งสองคนนี้
พบกันที่สถานนีเกือบทุกท่า
มีปากเสียงต่อกันมันเรื่อยมา
ไม่มีท่าจะถอดใจทั้งสองคน
มาตอนหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดคิด
รถไฟติดไม่ทำงานไปตามผล
ทั้งสองติดในรถไฟสีขาวมน
ในค่ำคืนที่ไม่พ้นจะหนาวเย็น
ก็ได้แต่นั่งกันคนละข้าง
ไม่เอ่ยอ้างสิ่งใดที่ได้เห็น
ใจทั้งสองคงไม่อยากจะให้เป็น
ความเยือกเย็นแทนในหัวใจกัน
แต่แล้วมีเสียงกระซิกเหมือนร้องไห้
สาวสดใสหลั่งน้ำตาเหมือนว่าหวั่น
ชายได้เห็นรู้สึกได้ว่ามัน
คือน้ำตาที่หลั่งจากใจจริง
ชายหนุ่มเดินมาพร้อมเสื้อกันหนาว
แล้วห่มให้หญิงสาวที่นั่งนิ่ง
แล้วกล่าวกับตัวเธอให้ยลยิน
ไม่เป็นไรจริงจริงเชื่อผมเลย
หญิงสาวพอได้ฟังก็นั่งยิ้ม
อยากหัวเราะใจพิมพ์ยากนิ่งเฉย
แต่เธอได้ไออุ่นมากมายเลย
จากชายหนุ่มแสนเชยที่เจอกัน
ชายหนุ่มเริ่มหน้าแดงอีกแล้วล่ะ
อีกเดี๋ยวจะทำเท่ห์ได้แต่ฝัน
หลุดแล้วหลุดเก็กแทบตายอายแล้วกัน
กลับเป็นเชยเหมือนวันตอนนั้นเชียว
------------------------------------------------------
ตำนานรักยังมีต่อยังไม่จบ
แต่ขอหลบเอาไว้ซักประเดี๋ยว
มีเวลาจะมาลงแน่เลยเชียว
ขอไปเทียวพักก่อนก็แล้วกัน...
14 มิถุนายน 2546 17:43 น.
เจรนัย
ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลยความรัก
แค่น้ำใจที่พักไว้เติมเสมอ
อยากมีใครอยู่เติมให้อย่างเธอ
ที่ได้เจอตรงหน้าสถานี
เธอน่ารักเธอดูดีมีเสน่ห์
เธอโอเคเธอฮาเฮเด่นราศี
ไอ้ตัวเราดันยาจกเสียสิ้นดี
เหมือนนางฟ้ากับตาสีที่ขอทาน
แต่ก็ชอบเธอคนนั้นมันไปแล้ว
เหมือนดวงแก้วหลอกตาให้พาหวาน
เธอคนนี้ที่ตรึงจิตจินตนาการ
ขอวันวานเป็นพยาน ผมชอบเธอ
14 มิถุนายน 2546 17:11 น.
เจรนัย
ไม่ได้มีค่ากว่าหนึ่งก้อนหิน
ไม่ได้บินเหมือนนกบนท้องฟ้า
ไม่ได้ดีเลิศเลอเช่นเทวา
ไม่ได้มาเพื่อใครได้ดีใจ
เป็นเพียงชายคนหนึ่งที่พึ่งได้
พร้อมให้เธอพิงกายแล้วหลับใหล
อยู่เป็นเพื่อนยามเธอแสนท้อใจ
แค่เพียงให้เธอสบายก็ยินดี
ไม่ต้องกล่าวยากเย็นเรื่องความรัก
ไม่ต้องทักท้ายกันทุกทุกที
ไม่ต้องโทรคุยกันหลายนาที
ขอแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเรา