8 เมษายน 2550 15:08 น.
เจรนัย
จะหมายรัก ตั้งมั่น สัญญารัก
ได้ประจักษ์ รักแท้ เสมอเหมือน
จะเปรียบรัก เป็นดั่ง เจ้าดวงเดือน
ที่ย้ำเตือน ส่องสว่าง กลางทิวา
แม้หมู่ดาว อวดแสง ประชันแข่ง
ก็ด้อยแรง กว่าจันทร์ เป็นหนักหนา
ความรักเรา เป็นดั่ง นวลจันทรา
ที่เด่นกว่า หมู่ดาว ในราตรี
แม้บางครั้ง รักเรา เหมือนแรมจันทร์
ที่โศกศัลย์ มืดมิด ไร้แสงสี
เสมือนรัก ได้ประสบ พบราคี
แต่เรื่องนี้ อยู่ได้ ไม่กี่วัน
ในข้างขึ้น จันทร์เพ็ญ เด่นโฉมฉาย
เหมือนรักกลาย ชุ่มชื้น ให้สุขสันต์
จะดูเด่น ส่องสว่าง กลางคืนวัน
ให้ประจักษ์ รักมั่น ทุกวันวาน
อันพระจันทร์ เด่นสว่าง กลางฟากฟ้า
ประหนึ่งดั่ง เทวา มาสื่อสาร
ให้นวลเด่น เพียงหนึ่ง ในตระการ
เป็นสัญญาณ หนึ่งรัก ประจักษ์ใจ
ระหว่างเรา หนึ่งรัก ประคองคู่
เจ้าจะอยู่ รับรู้ ด้วยหรือไม่
ระหว่างกัน สัญญามั่น สลักใจ
ประทับรอย ฝากไว้ บนแก้มนวล...
7 เมษายน 2550 22:35 น.
เจรนัย
จะโอบกอดยอดขวัญในคืนหนาว
ร่วมชมดาวจันทราจนฟ้าสาง
ได้แนบอิงพิงอ่อนจนหมอกจาง
ให้กองฟางประคองให้สองเรา
มองอาทิตย์เผยโฉมขึ้นชูฟ้า
ส่องสว่างบนเมฆาที่อับเฉา
หมู่วิหคโผผินบินผ่านเรา
ที่แนบเคล้าเคียงคู่อยู่เดียวดาย
ขอเวลาสองเราในครั้งนี้
ให้ติดตรึงทุกนาทีมิจางหาย
อย่าแปรเปลี่ยนความรักให้กลับกลาย
มาสลายรักพังให้ช้ำทรวง
ช่วงเวลากลางคืนแม้สั้นนัก
จะบอกรักก็ไม่ทันกับวันหวน
กลัวแต่ใจทรามเชยจะเรรวน
มิใคร่ครวญแปรเปลี่ยนเป็นอื่นไป
จะเชื่อใจได้ไหมเจ้าคนดี
ว่าเจ้านี้หมายรักครองสมัย
สำหรับข้ารักเจ้าสุดดวงใจ
ขอประทับแก้มไว้เป็นสัญญา
แม้ล่วงเกินไปหน่อยอย่าถือโกรธ
อย่าได้โทษเอาผิดตามข้อหา
ประทับแก้มเพียงครั้งในสัญญา
เมื่อกลับมาจะยอมให้ถือความ
จะห่างเจ้าแล้วหนาในวันนี้
นวลฤดีควรจำในคำสาม
ความรักเรายังเฝ้าประคองตาม
จำคำสามหมายให้ "ฉันรักเธอ"
7 เมษายน 2550 00:57 น.
เจรนัย
เก่าก่อนเคยรู้ไหม
ว่าทำไมจึงเกิดมา
เป็นมนุษย์สุดหรรษา
ด้วยเหตุว่าจากสิ่งใด
อันเกิดแก่เจ็บตาย
ใครทั้งหลายบันดาลให้
ผู้คนทุกชนไป
ต่างก็ไม่พ้นกงกรรม
ตอนเกิดจนตายจบ
ก็ไม่พ้นคำตอบนำ
เหตุเกิดเรื่องใคร่จำ
แต่ก็ย้ำไม่ได้ใจ
ถามผู้เป็นมารดา
ลองถามว่าเกิดทำไม
ก็เพื่อลูกยาไซร์
ให้อยู่ได้สุขเปรมปรีย์
ถามผู้เป็นบิดา
ลองถามมาอีกสักที
ก็เพื่อยอดชีวี
ครอบครัวนี้ที่สุขใจ
ถามเหล่าทหารหาญ
มีวิญญาณชีพทำไม
ก็เพื่อปกป้องใน
อาณาเขตประเทศตน
ถามหมอพยาบาล
ตามเหตุการณ์ที่เวียนวน
ก็เพื่อรักษาคน
ให้หลุดพ้นทรมาน
ถามครูผู้สั่งสอน
ว่าชีพทอนทำไมนาน
ก็เพื่อเรื่องการงาน
สั่งสอนการเป็นคนดี
หลากหลายในความคิด
ไม่ยึดติดกับชีพดี
เราเกิดเพื่อให้มี
สืบทอดนี้ตลอดไป
เกิดหนึ่งเพื่ออีกหนึ่ง
ได้รู้ซึ้งถึงความใน
เราเกิดเพื่อได้ให้
สิ่งดีไปกับอีกคน
ชีพนี้นั้นมีค่า
โปรดรักษาไว้กับตน
เสียสละเพื่อผู้คน
ตามเหตุผลเป้าหมายมัน
รักษามันให้ดี
เพราะชีวีนี้สำคัญ
การเกิดของชีพนั้น
เพื่อสร้างสรรค์แก่สังคม...
27 มีนาคม 2550 01:22 น.
เจรนัย
ขออ้อนวอน ก่อนร่ำ จำใจจาก
ถ้าเกิดหาก ชาติหน้า มีมาใหม่
ขอประสบ พบเจ้า ก่อนใครใคร
ได้พร่ำรัก จากใจ เจ้าบังอร
แม้ชาตินี้ บุญน้อย ค่อยแต่ห่าง
ชวนให้ร้าง รักจาง ลางสังหรณ์
ขอจงเชื่อ ใจพี่ ยอดบังอร
แม้ไกลจร ก็รัก สมัครใจ
เหตุครั้งนี้ ชีวี อาจต้องสิ้น
ได้ยลยิน คำลือ ถึงเรื่องใหญ่
ต้องสู้ศึก อริราช ศัตรูไกล
เพื่อบ้านเมือง สืบไป นิรันดร์กาล
ใจดวงนี้ พี่มี ให้น้องหนึ่ง
หมายคะนึง ถึงเจ้า ไม่ห่างหาญ
ไม่ยอดแยก แตกใจ ให้บรรดา
จะฝากรัก อันตระการ สถิตใจ
เทวดา ฟ้าฝน ที่บนฟ้า
ช่วยปกป้อง รักษา แก้วตาให้
ขอบนบาน ต่อฟ้า จากดวงใจ
จะขอรอด กลับไป เพื่อแก้บน...
26 มีนาคม 2550 14:57 น.
เจรนัย
เคยนั่งนับ เวลา ดูบ้างไหม
ว่าผ่านไป กี่กาล กันแล้วหนา
นับชั่วโมง นับนาที ไปกี่ครา
โอ้กานดา นับว่า ได้เท่าไหร่
บอกให้รอ พี่รอ จนคอตก
ดูตลก สำหรับเธอ เลยใช่ไหม
มันนานแล้ว แก้วตา ยอดดวงใจ
แล้วเมื่อไหร่ จะยอม รับเสียที
รออีกนิด อีกหน่อย เถอะนะคะ
โธ่...พี่จ้ะ เรื่องใหญ่ อย่าเร็วรี
ต้องดูกัน นานนาน ถึงจะดี
นะคะพี่ เรื่องนี้ เรื่องสำคัญ
แต่นี่มัน นานแล้ว นะน้องพี่
เรื่องอย่างนี้ เห็นอยู่ ก็รู้ฝัน
เราสองคน เจอกัน แทบทุกวัน
แล้วจะคั่น เรื่องใด ที่ไม่ดี
เธอจะอยู่ ตรงนั้น อีกนานไหม
เธอทนไว้ พี่ไม่ นะSorry
ขอลาก่อน แก้วตา ยอดชีวี
รอในรถ นะคนดี Shopเอาเอง