8 พฤศจิกายน 2545 18:56 น.
เจรนัย
นาฬิกาบอกเวลาตีสองกว่า
เลยเวลานัดมาเท่าไหร่นี่
โธ่...ไม่น่ามามีงานก่อนจบปี
เลยไม่มีเครื่องลงที่เมืองไทย
อยู่แสนไกลใจน้องร้องหาพี่
สัญญาที่พี่ให้น้องจำได้
พอมีเที่ยวบินกลับก็รีบไป
ใจนั้นไปถึงก่อนแล้วนะใจ
แล้วก็มาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
เครื่องบินนั้นเฉี่ยวเขาเป็นแผลใหญ่
เครื่องตกลงตกลงไม่ห่างไกล
ข่าวออกไปว่าไร้ผู้รอดชีวิต
8 พฤศจิกายน 2545 18:30 น.
เจรนัย
นั่งชิงช้าตากลมชมดอกไม้
ที่แย้มบานอวดกายน่าอิจฉา
ที่ตรงนี้ตัวพี่มีสัญญา
ว่าจะแกว่งชิงช้าให้กับเธอ
สองปีกว่าเวลาไม่ใช่น้อย
ทนรอคอยศึกษาไม่กล้าเผลอ
สาวนักเรียนอังกฤษสิทธิ์อย่างเธอ
ถ้าพี่เผลอชอบเธอได้ไหมกัน
นั่งแกว่งไกว่ชิงช้ามานานแล้ว
เธอไม่มาที่นี่แล้วหรือไงนั้น
เธอคงลืมสัญญาที่รำพัน
โธ่...ชิงช้าสงสารมันอดแกว่งไกว่
29 ตุลาคม 2545 21:53 น.
เจรนัย
หนึ่งขลาด หนึ่งหาญ แกร่งกล้า
หนึ่งหนี หนึ่งฝ่า แทบสิ้น
หนึ่งลุก หนึ่งล้ม คลุกดิน
หนึ่งบิน หนึ่งจม ตรมใจ
หนึ่งไกล หนึ่งใกล้ ใฝ่หา
หนึ่งบ้า หนึ่งจิตนา การสดใส
หนึ่งแย้ง หนึ่งแนะ เข้าใจ
หนึ่งสร้าง หนึ่งทำลาย ความดี
หนึ่งครวญ หนึ่งชวน สบายจิต
หนึ่งคิด หนึ่งติ ไร้ราศี
หนึ่งมานะ หนึ่งขี้เกียจ อะไรดี
หนึ่งสุขดี หนึ่งร้ายถม ระทมนาน
3 ตุลาคม 2545 18:30 น.
เจรนัย
จากบ้านมาแสนไกล
เพื่อมุ่งไปในทางฝัน
เพียรเรียนกันทุกวัน
เราเหหันมาทำไม
มุ่งเรียนเพียรศึกษา
เพียงแค่หาปริญญาไป
หรือเพียงแค่มีไว้
ให้โก้ใหญ่ก็เท่านั้น
ใส่ใจเอาให้คิด
แก่บัณฑิตที่รักมั่น
เจ้าเรียนเพื่อใครกัน
ชาตินับวันรอเจ้ามา
16 กันยายน 2545 19:24 น.
เจรนัย
ปัญญาชนคนสาวหมวยน่ารัก
เธอเป็นนักศึกษาพึ่งเข้าใหม่
เป็นปีหนึ่งที่รุ่นพี่แสนถูกใจ
น้องก็ใช่จีบสู้พี่มีเหมือนกัน
แต่เธอไม่สนใจใครใครหรอก
ขี้เกียจบอกเหตุผลแก่คนนั่น
ว่าฉันเรียนเพื่อช่วยชาติเจริญพลัน
ใช่มารักยังนั่นมาเสียงาน