27 มกราคม 2551 21:36 น.
เจน_จัดให้
ปล่อยหัวใจลอยล่องท่องนภา
ท่ามเมฆามีดาราเจิดจ้าแสง
ทั้งดวงจันทร์หยันรับกับเปลี่ยนแปลง
ฉันล้าแรงไม่กล้าแกร่งเช่นดั่งเคย
..................................
สายลมแรงครืนโครมโถมเข้าใส่
หนาวไปถึงบึ้งแห่งใจใคร่เฉลย
แม้อยากหลีกหนีไปให้ผ่านเลย
แต่ไม่เคยหลบพ้นทนเจียนตาย
..................................
ในค่ำคืนขืนแข่งแรงแห่งเศร้า
เรื่องวันเก่ายังเป็นเงาไม่ห่างหาย
คอยวนเวียนเพียรผุดยากหยุดย้าย
ซ้ำยังกลายเป็นดั่งมีดคอยกรีดใจ
..................................
แม้ได้พบสบเจอเสมอพร่ำ
คำต่อคำที่คอยย้ำทำแพ้พ่าย
พอเถอะพอฉันจะขอเป็นฝ่ายไป
สิ่งสุดท้าย...ที่ทำได้...ให้กับเธอ
...................................
.......บางทีการเป็นคนโง่ มันก็ไม่สนุกเท่าไหร่.......
23 มกราคม 2551 21:55 น.
เจน_จัดให้
แม้ทั้งรู้สิ่งใดไม่เที่ยงแท้
วันเปลี่ยนแปรใจอาจแพ้แก่ความเหงา
แต่ทบทวนหวนคิดถึงซึ้งว่า "เรา"
เหมือนความเศร้าก็บางเบาทุเลาไป
......................................
เธอคือแสงเทียนส่องละอองอุ่น
นวลละมุนจุนเจือเมื่อหวั่นไหว
รักภักดีคอยโอบอุ้มคุ้มกันภัย
แม้ห่างไกลยังวางใจไว้ใกล้เธอ
......................................
แม้สุดท้ายปลายทางระหว่างรัก
อาจหาญหักด้วยสิ่งใดใจพลั้งเผลอ
สิ่งต่างต่างอาจเพียงฝันวันละเมอ
แต่หัวใจพร้อมเสนอเธอผู้เดียว
......................................
19 มกราคม 2551 18:31 น.
เจน_จัดให้
แม้จะอยู่ใต้หล้าฟ้าเดียวกัน
แต่ละวัน ณ ที่นั้นคงหวั่นไหว
ทั้งเสียงปืนครืนครั่นบั่นทอนใจ
ที่รุกไล่คือไฟร้อนค่อนชายแดน
..............................
ให้นึกห่วงพี่น้องเหล่าทหาร
คงไร้ซึ่งเบิกบานหรือสุขแสน
แบกภาระหนักหนาชะตาแคว้น
เพื่อผืนแผ่นแดนไทยได้ร่มเย็น
..............................
ทุกความดีมีไว้ได้ปรากฎ
ยังงามงดจดจำรำลึกเห็น
ความเหนื่อยยากตรากตรำซ้ำลำเค็ญ
ยังคงเป็นสิ่งคอยเตือนไม่เลือนไป
..............................
ขอคุณพระคุ้มครองปกป้องเถิด
สิ่งประเสริฐจงบังเกิดให้สดใส
ขอส่งรักและห่วงจากดวงใจ
เพื่อพี่น้องทหารไทยในทุกครา
..............................
................คุณคือพี่น้อง คุณคือวีรบุรุษ ..................
8 มกราคม 2551 20:05 น.
เจน_จัดให้
ในนิทานกาลก่อนเมื่อย้อนไป
มีเด็กน้อยแก้มใสใส่แว่นหนา
ชอบนับดาวน้อยใหญ่ในห้วงฟ้า
พร้อมหวังว่าจะไขว่คว้าในสักวัน
..................................
ณ ดวงดาวสุกสว่างคงกว้างใหญ่
มีดอกไม้มากมายหลายสีสัน
อีกแมงปอล้อเล่นเป็นเพื่อนกัน
ทุกวัยวันได้แบ่งปันสรรค์ไมตรี
.................................
ไม่มีแม้เสียงปืนที่ครืนลั่น
ให้ไหวหวั่นจนใจพรั่นอยากหลีกหนี
ไม่มีแม้เสียงโหยไห้ในราตรี
มีเพียงเสียงดนตรีกวีไพร
.................................
ไม่มีคนละโมบโลภแต่ทรัพย์
มุ่งแต่รับไร้รู้ปรับกับการให้
ไม่มี"คนปากดี"ที่วุ่นวาย
พูดแต่ได้ไม่เห็นใครในสายตา
................................
ในห้วงคิดคำนึงถึงดวงดาว....
เป็นเรื่องราวสุขสันต์ฝันใฝ่หา
แม้โลกจริงสิ่งพบประสบมา
เลวร้ายกว่าพรรณนาเวลานี้
...............................
ในหัวใจเด็กน้อยยังคอยหวัง
สักวันโลกจะเป็นดั่งดาวพราวสี
มีแต่สุขสนุกสนานยาวนานปี
ยิ้มเปรมปรีดิ์มีแต่รักให้ตักตวง
..............................
.โลกยังหมุนไป....ทุกองศาละติจูดยังมีแต่ความวุ่นวาย.....ถ้าใจหมุนตามโลกทุกวินาทีคงจาเหนื่อยน่าดู.....ขอเป็นก้อนหินสักวัน ไม่ได้จะขว้างใส่ใคร แค่ไม่อยากวุ่นวายเท่านั้นเอง.....
6 มกราคม 2551 17:08 น.
เจน_จัดให้
ถอดรองเท้าก้าวเดินบนเนินหญ้า
เขียวสุดตาสุดขอบฟ้ากว่ามองเห็น
กลีบดอกไม้ลอยไล้สายลมเย็น
กิ่งก้านเอนน้อมรับศัพท์ทักทาย
.................
ตะวันคล้อยลอยลับกลับห้วงหาว
เจ้าดวงดาวก็พร่างพราวเป็นราวสาย
ประดับคุ้งโค้งฟ้าจดหล้าไกล
ดูหลากหลายรูปร่างช่างงามตา
.................
เหม่อมองเห็นกลุ่มดาววับวาวอยู่
ดั่งคนคู่เคียงข้างบนทางฟ้า
จะพ้นผ่านนานเท่าใดในเวลา
แสงส่องจ้าไม่เคยล้าพร่าลงไป
................
ดั่งความรักพักไว้ใช่เหินห่าง
เหมือนทิ้งขว้างบนหนทางให้จางหาย
เหมือนละเลยด้วยไม่เผยเปรยสิ่งใด
โปรดรับรู้ทั้งหัวใจให้เพียงเธอ
................
ตอนหนึ่งจาก "คนรักที่ใช่...เมื่อไหร่จะมา" ของ ณาชิ
"ฉันว่าความรักแท้จริง น่าจะมีคุณค่ามากกว่าเพื่อกำจัดความเหงา หรืออย่างน้อย ความรักน่าจะทำให้เราอยากช่วยให้คนที่เรารักหายเหงามากกว่าเรียกร้องให้เขามากำจัดความเหงาให้เราฝ่ายเดียว....
การที่ใครคนหนึ่งจะรักคนอีกคนหนึ่งได้ หัวใจเขาต้องปรับเปลี่ยน ชีวิตต้องสลับโปรแกรมเพื่อเพิ่มที่ว่างให้คนอีกคน อะไรๆก็ดูวุ่นวายและยากเย็นไปหมด....
ถ้าปัญหาของคุณมีแค่ความเหงา...ฉันว่าไม่ต้องพยายามไปเปลี่ยนแปลงหัวใจใครให้วุ่นวายหรอกค่ะ เปลี่ยนที่หัวใจเราเองง่ายกว่าเร็วกว่าและตรงประเด็นกว่ากันเยอะ....
เมื่อในเวลาที่เราวิ่งจนเหนื่อยหอบ การพยายามหาใครสักคน มายื่นน้ำ ยื่นผ้าเช็ดเหงื่อให้ ย่อมช่วยให้เราหายเหนื่อยได้ไม่เท่ากับการหยุดวิ่งแล้วนั่งลงพักด้วยตนเอง"