28 มีนาคม 2546 12:49 น.
เงาแสง
วันเวลาก้อคงจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำหั้ยเราได้รู้จักและได้ศึกษากับคำว่ารักได้ดียิ่งขึ้น เพราะวันเวลาก้อเหมือนจะคอยเป็นเครื่องพิสูจน์หัวใจของคนคู่หนึ่งว่าเหมาะสมที่จะได้รับความรักจากกันหรือไม่ คงจะมีคนไม่น้อยที่ต้องถูกคำว่าวันเวลาเป็นตัวทำหั้ยคนสองคนต้องเหินห่างกันไป แต่มันก้อเป็นสิ่งที่ดีกว่าการที่เราจะได้คำว่ารักมาโดยง่ายดาย
แต่ไม่รู้จักที่จะรักษามันเอาไว้ในอ้อมกอด ซึ่งเวลานั้นมันก้อคงจะทำหั้ยคนสองคนเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งเพราะเหตุผลนี้เองทำหั้ยผมเป็นคนหนึ่งที่ขอเลือกคำว่าวันเวลามาเป็นข้อพิสูจน์ใจดวงนี้ที่ผมจะขอยกให้เธอ
ในเวลานี้ผมได้แต่เพียงนั่งอยู่กับคำว่าความรัก นั่งคอยวันเวลา รอว่าสักวันผมจะได้เจอเค้าอีกครั้ง คนที่ผมได้ยกใจดวงนี้หั้ยกับเค้าไป มันคงเป็นเรื่องที่ทรมานอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว กับผู้ชายคนหนึ่งที่ได้แต่เฝ้ารออยู่กับความเดียวดายและต้องพยายามที่จะเอาชนะกับคำว่าวันเวลา โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะนานสักเท่าไร
แต่เพราะคำนี้ คำว่ารัก เป็นสิ่งที่มีค่ามากมายเหลือเกิน ผมจึงขอที่จะรักษาคำคำนี้และใจดวงนี้ไว้เพื่อเธอ เธอคนที่ผมรัก และจะรักโดยไม่ขอสิ่งตอบแทนใดใดจากเธอตลอดไป
23 มีนาคม 2546 18:36 น.
เงาแสง
ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง เราทุกคนคงได้รู้จักกับอะไรหลายอย่าง คำว่าเพื่อนซึ่งก้อคงหาได้ไม่ง่ายนักสำหรับโรงเรียนแบบอื่น คำว่าความรัก คำว่าอกหัก เราหลายคนได้เรียนรู้ที่นี่ ที่แห่งนี้
มันชั่งเป็นที่ที่มีทั้งความสุขจนพวกเราหลายคนไม่สามารถที่จะลืมเลือน และก้อคงไม่พ้นความทุกข์ด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก้อตัวผมคนหนึ่งแหละที่คิดเช่นนั้น
ตั้งแต่ผมเข้ามาเรียนที่นี้ก้อเป็นปีที่สาม ถือได้ว่าเป็นปีที่มีหลายอย่างเค้ามาในชีวิตผม ผมเองก้อรู้ว่าตัวเองนะก้อเจ้าชู้เหมือนกัน แต่เวลาที่อยู่ที่นี้ผมแทบจะไม่เคยเข้าไปคุยกับผู้หญิงเลย จนมาถึงปีนี่ปีสุดท้ายได้มีรุ่นน้องเข้าใหม่คนหนึ่ง น้องเค้าถือได้ว่าสวยมากเลยทีเดียวมีแต่หลายคนชอบกัน แต่ผมกับบอกว่าหน้าตาธรรมดาไม่เห็นสวยเลย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมกับกลายเป็นคนที่เปลี่ยนความคิด ผมนั่งกินข้าวที่ที่สามารถมองเห็นน้องเค้าได้พอดี ผมได้เห็นน้องเค้าทุกมื้อ จนทำให้ผมเริ่มอยากที่จะเข้าไปคุยกับเค้า และในที่สุดผมก้อได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับเค้าจริงๆ ผมได้เค้าไปคุยกับน้องเค้าก้อหลายครั้งเหมือนกัน จนผมเริ่มที่จะชอบน้องเค้า
แต่ในที่สุดก่อนปิดเทอมกลางภาค ก้อมีเด็กกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาแล้วบอกว่าน้องเค้าจะลาออกแล้ว ผมไม่เชื่อ ไม่อยากจะเชื่อ ผมได้ให้รุ่นน้องหลายคนพยายามไปหาถามเพื่อนของน้องดูให้ที แล้วในที่สุดมันก้อกลายเป็นเรื่องจริงจนได้ ผมเคยร้องไห้กลางห้องเรียนหลายครั้งก่อนปิดเทอมจนเพื่อนงงว่าคนอย่างผมจะร้องไห้เพราะอะไร
แต่ผมก้อไม่เคยที่จะบอกคัย จะมีที่รู้ก้อคงจะที่สนิทด้วยเท่านั้น ผมก้อได้แต่เฝ้าคิดโทษโชคชะตาว่าทำมัยต้องทำอย่างงี้ด้วย ผมจะไม่มีโอกาสได้รักคัยเลยเหรอ ทำมัยต้องพาเค้าไปจากผมด้วย และเมื่อเปิดเทอมเหตุการณ์นี้เองที่ทำหั้ยผมเปลี่ยนไปมากเลยมีเดียว ผมมักนั่งเหม่อในห้องเรียน และก้อไม่เข้าไปคุยกับผู้หญิงเพราะผมรู้ตัวเองดีและก้อไม่อยากที่จะต้องช้ำใจเช่นนี้อีก
แล้วในที่สุดมันก้อได้ทำหั้ยเกิดเรื่องเช่นนี้อีก เรื่องนี้ก้อเกิดขึ้นเพราะmsnนี่แหละ เพื่อนผมคนนี้อยู้ห้องเดียวกัน พูดไปแล้วเค้าก้อสวยที่สุดแหละ ผมแทบไม่เคยที่จะเข้าไปคุยกับเธอ สามปีที่นี้เราแทบเหมือนไม่รู้จักกันเลย แต่ก้อมาปีนี้เราได้มีโอกาสได้ทำงานด้วยกันหลายอย่าง ทำหั้ยผมได้รู้จักเค้ามากขึ้นแต่ก้อยังไม่ได้สนิทเท่าใดนักเพราะพูดไปแล้วเค้ามีผู้ชายมาเกี่ยวข้องมากเหลือเกิน
ทำให้ผมไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยด้วย แต่ยังไงเราก้อได้มาเจอกันในเน็ตหลายครั้ง เธอให้ผมช่วยทำงานของเธอหลายอย่างและมันก้อยิ่งทำหั้ยผู้หญิงคนนี้ได้เข้ามาใกล้หัวใจของผมทุกที ด้วยความสนิทนี้เองผมเลยได้พูดทุกอย่างออกไปเกี่ยวกับความผิดหวังของผม จนทำหั้ยเธองงเลยทีเดียวว่าผมเป็นถึงขนาดนี้เลยเหรอ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาเราก้อเปลี่ยนเรื่องคุยจากธรรมดามาเป็นคุย
กันเรื่องความรัก เธอเองก้อทำให้ผมงงเหมือนกันเมื่อเธอได้พูดถึงเรื่องของเธอบ้าง จนผมเองได้มองเธอเปลี่ยนไปจากที่มองว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ปล่อยตัว มันได้ทำให้เราสนิทกันมากเราสองคนปรึกษากันทุกเรื่อง จนในที่สุดผมเองก้อตกหลุมรักเธอเพราะเธอได้เป็นคนที่ทำหั้ยผมมีความสุขเวลาที่ผมเกิดปัญหา แต่เหตุการณ์ก้อซ้ำรอยเดิม มันชั่งเร็วเหลือเกินที่ผมจะได้มีโอกาสอยู่กับเธอ
เราสองคนต้องแยกจากกัน เธอต้องย้ายโรงเรียนและผมเองก้อเช่นกัน เวลาที่เหลืออยู่ที่นี้ผมแทบไม่ได้นอนเพราะไม่อยากที่จะให้เวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันต้องหมดไป ทำไมนะผมได้แต่บอกตัวเอง ทำไมเราไม่เคยคิดที่จะเข้าไปคุยกับเค้า ผมได้แต่คิดเสียใจ แต่ถึงยังไงผมก้อคงย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว ผมขอใช้เวลากับเธอหั้ยมากที่สุดดีกว่า มีหลายครั้งที่ผมเฝ้ามองดูเธอคุยกับผู้ชายคนอื่น
แต่เราก้อคงทำอะไรไม่ได้ชั้ยมั้ย และผมเองก้อมีความสุขแล้วขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ แล้ววันนั้นก้อมาถึงเราปิดเทอม เราต้องจากกันจริงๆ ผมได้บอกกับเธอว่าผมจะไม่มีวันลืมเธอ สัญญา เธอก้อบอกเช่นกัน ผมได้แค่เพียงขอให้เธอส่งเมลล์มาหากันบ้าง อย่างหายเงียบไปเลยเค้าเป็นห่วงมากรู้มั้ย เธอก้อบอกว่าได้ และเราสองคนก้อต้องจากกัน แต่เรื่องก้อยังไม่ได้จบผมยังไม่ได้บอกรักเธอ
และผมก้อรู้จักเธอมากพอจนรู้ว่าคำตอบที่ได้ คือคำว่า เพื่อน ผมกลับบ้านมาใช้เวลานั่งคุยกับตัวเอง ผมกลัวว่าเมื่อบอกไปแล้วเราจะไม่สนิทกันเหมือนเดิม ผมรักเธอมาก เป็นห่วงเธอ ถ้าเธอไม่ติดต่อกับผม ผมเองคงต้องเสียใจมากเลยทีเดียว นี่แหละคือสิ่งที่ผมคิดอยู่ทุกวัน ทุกคืน และในที่สุดผมเองก้อพร้อมที่จะบอกเธอ ยอมรับผลต่างๆที่ผมก่อ
วันนั้นก้อมาถึง แต่เป็นในเน็ตผมก้อบอกเธอจิงๆ บอกว่า ผมรักเธอ เธอเงียบไปนาน เธอไม่ตอบ และผมก้อบอกต่อไปว่าถึงเธอไม่คิดอะไร แต่ขอให้เราคุยกัยเหมือนเดิมนะ เธอรับปาก แล้วเธอก้อไปนอน วันต่อมาเราก้อเจอกันอีก เธอบอกว่าที่ผมบอกอะ เธอรู้ว่าผมเป็นเพื่อน ซึ่งก้อเป็นอย่างที่ผมคิดจิงๆ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกลับไม่ใช้น้ำตาแห่งความโศกเศร้า แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ผมดีใจที่เธอยังเป็นเหมือนเดิม
เรายังได้คุยกันเหมือนเดิม และเธอก้อทำตามสัญญา เธอยังคงส่งเมลล์มาหาผมเรื่อยๆ แค่นี้แหละที่ผมต้องการ แค่ผมรู้ว่าเธอยังอยู่ ยังมีความสุข และขอแค่เป็นคนที่ให้ความรักก้อพอ
ถึงแม้ว่าผมและเธอจะอยู่ห่างไกลเพียงไหน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่และก้อไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสได้เจอเธออีกหรือไม่ ผมจะขอรักเธอต่อไปจะขอรออยู่อย่างนี้ เป็นคนที่ให้ความรักกับเธอเช่นนี้ตลอดไปก้อพอ