25 กรกฎาคม 2547 22:20 น.
เงาแสง
มีหลายต่อหลายครั้งที่ผู้คนต่างวิ่งวุ่นเหมือนวิญญาณที่ไร้จุดหมาย เหมือนสิ่งที่ล่องลอยเพียงให้ได้มาซึ่งสะพานที่จะทอดยาวไปสู่จุดหมายอันแสนไกลหรืออาจจะกล่าวได้ว่าอยู่ที่ใด ต่างคนต่างหาสิ่งที่จะมาเชื่อมสะพานของตนให้สำเร็จทำไปโดยที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำถึงเมื่อไร นานขนาดไหน หรือว่าจะมีวันสำเร็จหรือไม่ แล้วยิ่งบนโลกใบนี้ต่างเหมือนถูกกำหนดให้อยู่ใต้การกำหนดของเวลา เวลาที่ไม่รู้จักหยุดนิ่ง ให้คนที่มีชีวิตจิตใจอย่างเราได้พักเหนื่อยเอนกายลงนอนยามที่เหนื่อยล้า ท้อแท้ สิ้นหวังจากการตามหาจุดมุ่งหมายเล็กๆนี้เอง บางคนเหนื่อยล้าและสิ้นหวังจนไม่สามรถที่จะลุกเดินต่อไปยังจุดมุ่งหมายเหล่านั้นได้ บางคนก็ยอมที่จะปล่อยให้เวลาเดินนำตัวเองไปเพื่อเฝ้ารอพลังที่จะนำพาชีวิตของตนออกมาจาก
ความมืดมิด บางครั้งเค้าก็รอใครบางคนที่จะมาจับมือและนำทางเค้าบ้าง เพราะคงไม่มีผู้ใดต้องการที่จะต่อสู้กับเวลาและความมืดมนเพียงลำพังผู้เดียวตลอดเวลา แต่เป็นเพียงเพราะไม่มีผู้ใดมาอยู่เคียงกาย และคอยให้ความรัก
ความเข้าใจเองต่างหาก เค้าเหล่านี้จะต้องรออีกนานสักเท่าไหร่ จะมีวันนั้นมั้ย เค้าเหล่านี้อาจจะต้องยอมทิ้งจุดหมายของตนเหมือนผู้ที่หมดหวังไปแล้วก็ได้ จะมีสักกี่คนที่จะสามารถผจญกับสิ่งต่างๆนานา กว่าที่ตนจะไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้เพียงลำพัง
เราทุกคนที่อยู่บนโลกนี้ต่างก็คงรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนกำลังกับเวลาอันน้อยนิดของหนึ่งชีวิตที่ต้องทำสิ่งต่างๆมากมาย สิ่งมากมายเหล่านี้เองคือจุดเล็กๆที่มีความสำคัญกับจิตใจของเรามากเหลือเกินและจุดเล็กๆ เหล่านี้ละ ทำเราทำไปเพื่อะไร หลายคนคงมองกลับมาและหาคำตอบเหมือนกับผู้ที่หลงทาง
และกำลังกางแผนที่เพื่อไปหาจุดมุ่งหมายที่อาจมีคนกำลังนั่งรอเราอยู่ข้างหน้า บางทีจุดเล็กๆนี่ก็คงไม่ต่างกัน เราคงไม่ได้ทำไปเพื่อตัวของเราเองมากเท่าไร หรือถ้าคิดเช่นนั้น จุดเล็กๆจุดนั้นคุณให้ความสำคัญกับมันมากไปหรือเปล่า คุณจะเสียเวลามากมาย ทำให้ตัวเองเหนื่อยล้าเพียงเพื่อตัวคุณเอง
ในอนาคตที่ยังมองไม่เห็น แล้วถ้าคุณไม่เจอละจะเป็นยังไง จงตั้งจุดมุ่งหมายจุดเล็กนั้นๆ เหมือนคนที่คุณกำลังจะเดินทางไปหา คนที่กำลังรอคอยคุณ คนที่มีความหวังในตัวคุณ เค้าคนนั้นจะรู้สึกอย่างไรเมื่อคุณไปถึง
และคุณละจะเป็นอย่างไร ก็คงหายเหนื่อยล้ากับเวลาที่เสียไป เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้รู้จักคำว่า "ทำเพื่อใคร" มากกว่า "ทำไปเพื่ออะไร"
18 กรกฎาคม 2547 02:09 น.
เงาแสง
ความรักไม่ได้ต้องการความเหมือนหากแต่เป็นเป็นความต่างที่ปรับเข้าหากันได้
18 กรกฎาคม 2547 01:53 น.
เงาแสง
มันต้องคอยเอาใจใส่ เหมือนดินสอไม้ ที่เหมือนจะแข็งแรงแต่ถ้าหล่นบ่อยๆมันจะแตกหักจากข้างใน แล้วถ้าไม่เหลา มันก็จะไรประโยชน์ และอีกอย่างเมื่อถึงเวลา มันก็จะอยู่กับเราตลอดไป เพราะไม่มีใครใช้ดินสอไม้จนหมดไปได้หรอก
ว่างั้นไหม
10 มกราคม 2547 03:28 น.
เงาแสง
ความจริงหากคุณมีเพื่อนที่สนิทมาก บางทีคงมีหลายครั้งที่คุณจะต้องเจอกับสถานการณ์นี้ สถานการณ์ที่เพื่อนของคุณเปรียบดังไม้ขีดไฟ เคยช่วยเหลือเดินเคียงคู่คุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลายต่อหลายครั้งจนเราเริ่มที่จะชินชากับความรู้สึกดีดีที่เพื่อนคอยให้เราเหมือนไม้ขีดที่ค่อยๆลดจำนวนลง จนบางทีอาจเหลือเพียงกล่องเท่านั้น แต่ในขณะที่ไม้ขีดกำลังจะหมด เหมือนมีโชคเราก็ได้เจอไฟฉาย ไฟฉายซึ่งก็เหมือนการที่เราได้พบคนที่เราถูกใจหรือคนที่ชอบเราเดินทางมาในชีวิต ด้วยความดีใจคุณอาจโยนไม้ขีดนี้ทิ้งแล้วรีบวิ่งไปหาไฟฉาย เมื่อคุณได้ไฟฉายก็รีบหาทางที่จะออกจากความมืดมิดนี้ แต่ในขณะนั้นเองแสงที่เจิดจ้าเพียงไม่นานก็ค่อยๆลับหายไปทีละนิดจนมืดสนิท ตอนนี้ในตัวคุณไม่เหลืออะไรแล้วทั้งไม้ขีดและไฟฉาย คุณได้แต่คุกเข่าอยู่ในความกลัวอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
หากคุณคิดอีกนิด เพียงนิดเดียว เพียงไม่หลงกับความคิดชั่ววูบ คุณก็คงไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว บางทีทางข้างหน้าคุณอาจเจอทางออก แต่กลับไม่มีทางจะไปถึง เหมือนกับเพื่อนที่เคียงข้างเรามานาน อย่าปล่อยให้เค้าอยู่เดียวดายเหมือนไม้ขีดที่ถูกทิ้ง เพราะคนที่คุณพึ่งรู้จักอาจไม่หวังดีเหมือนไม้ขีดก้านเล็กๆที่ดูเหมือนไร้ค่าก็ได้
10 มกราคม 2547 03:28 น.
เงาแสง
มนุษย์อย่างเราทุกคนคงไม่มีผู้ใดต้องการการถูกกำหนดเส้นทางที่จะต้องเผชิญหน้าในอนาคต และคงไม่มีผู้ใดที่จะต้องการให้ดวงใจของตนเองถูกกำหนดไว้ในที่ใดที่หนึ่ง เพราะพวกเราทุกคนก็อยากจะเป็นเหมือนสายลมที่สามารถเผชิญหน้าต่อสิ่งกีดขวางต่างๆนานาได้โดยไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งก็คงจะไม่อาจจะเป็นไปได้เลย เพราะพวกเราทุกคนล้วนรู้จัก
ความเจ็บปวด ท้อแท้ อ่อนล้า และต้องการที่พึ่งพิง ยามที่เราต้องเผชิญกับอุปสรรคที่เข้ามารุมเร้า เราอยู่ทุกขณะ
บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้เอง ทำให้เรามียามที่ต้องท้อแท้ และต้องการกำลังใจ จึงต้องการใครบางคนมาดูแล และเอาใจใส่หัวใจดวงนี้ ให้สามารถจะลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง โดยได้รู้ว่าเรายังมีผู้ที่จะคอยเป็นกำลังใจให้เราเสมอแม้ว่าเราจะพ่ายแพ้ หรือร้องไห้ สักกี่หนก็ตาม
แต่เป็นเพราะเหตุผลใดทำไมคนเราจึงมักจะกระทำในสิ่งที่ตนเองทำลงไปแล้วล้วนนำพาแต่ความ..เศร้าใจ.. นี่หรือเป็นสิ่งที่เราถูกกำหนดมาให้เป็นเช่นนั้น หรือเป็นเพราะเราไม่สามารถจะบังคับจิตใจของเราให้มั่นคงและยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งที่มาประสบกับจิตใจของเรา เราควรที่จะทำเช่นไรให้ตัวของเรามีความสุขใจ ควรจะปล่อยให้เป็นดังที่ใจต้องการ หรือต่อสู้กับชะตากรรมที่ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้กำหนด แม้ว่าจะรู้ผลที่จะเกิดขึ้น เราควรที่จะทนถึงวินาทีสุดท้ายหรือไม่เพราะการที่เราจะต่อสู้กับจิตใจของตนเองล้วนเป็นสิ่งที่ยากและเจ็บแสนสาหัส ซึ่งบางทีผลที่ตามมาอาจหนักหนากว่าการที่เรายอมทำตามจิตใจของตนเอง
หนทางของเราทุกคนนี้ล้วนยาวไกลและสับสน จนเราไม่อาจะหยั่งถึงได้เลยแม้แต่น้อย เราเองก้อคงจะไม่อาจทำอะไรได้มากกว่า การยืนหยัดและมั่นคง ต่อสู้กับสิ่งที่กำลังเดินทางมาโดยไร้ซึ่งคำเตือนหรือบอกกล่าวอันใด เราอาจจะต้องเหนื่อยล้ากับสิ่งที่มากระทบ อาจท้อแท้กับสิ่งผจญ แต่พวกเราหาใช่อื่นใด เราคือ. คน.คำที่ถูกกำหนดให้แสดงถึง ความทุกข์ ความวุ่นวายของจิตใจ ก็แค่เพียงอยากให้พวกเราสู้ต่อไป ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จุดจบที่จะเกิดขึ้น แต่เราก็ได้รู้สิ่งที่เราได้สรรสร้าง เพื่อให้ใครสักคน ถึงแม้ว่าใครคนนั้นอาจจะไม่รู้ และไม่เห็นคุณค่า แต่จงภูมิใจที่ได้ทำ เพื่อให้สิ่งนั้นดำรงอยู่ในจิตใจของเรา ก่อนที่จะต้องจากไปโดยปราศจากคำเตือนเช่นกัน