25 มีนาคม 2553 12:10 น.
เขาสอยดาว
ขออภัยครับผม ผมเห็นว่ามีคำที่สะกดผิดอยู่ จึงจะแก้ไข ทำอย่างไรไม่ทราบ ไปลบหมดเลย ไม่ได้เซฟไว้ในเวิรดิ์ก่อนด้วย หายหมดเลยครับ ขออภัยขอรับ
22 มีนาคม 2553 08:12 น.
เขาสอยดาว
อย่าหลงทางก้าวย่างมาตั้งมาก
จงฝ่าขวากหนามไหน่กิ่งไผ่เกี่ยว
เพื่อนเดินมาแต่ไก่โห่อักโขเชียว
จงอย่าเหลียวถอยหลังหรือรั้งรอ
เดินไปพร้อมศรัทธาจะพารอด
ปลวกมดมอดตัวนิดไม่คิดท้อ
มันยึดมั่นความเชื่อไม่เบื่อรอ
ค่อยค่อยก่อสร้างรังอลังการ
มาเถิดเรามีเราไม่เขลาขลาด
ฝันที่ปาดวาดบ่มผสมผสาน
อย่าให้หายปล่อยปละอันตรธาน
ฝันจะหวานเมื่อผ่านขื่นและคืนขม
เมฆที่ลอยอยู่ห้วงฟ้านภากาศ
แม้มิอาจไขว่คว้าอุราสม
แต่มันเป็นของทุกคนได้ยลชม
เป็นของผมของคุณอุ่นไมตรี
จงเรียนรู้เพื่ออ่อนไม่ร้อนแข็ง
พร้อมเรี่ยวแรงแสวงดาวพราวราศี
รู้จักถ่อมค้อมซื่อไม่ถือดี
ทุกนาทีมั่นคงดำรงไว้
แม้วันร่วงขาดผึงถึงก้นเหว
ไม่แหลกเหลวสักวันข้าเห็นฟ้าใส
ธารน้ำตกล้างอาบคราบเหงื่อไคล
แล้วปีนใหม่คว้าดาวเอามาครอง
.
19 มีนาคม 2553 14:57 น.
เขาสอยดาว
เธอมานั่งรอฝนจะหล่นหล้า
ทั่วท้องฟ้าเมฆพริ้วแล้วปลิวว่อน
สกุณาบินกลับมาจับคอน
ใบไม้อ่อนแกว่งไกวตามสายลม
กอดสมุดบันทึกจารึกเรื่อง
เล่มสีเหลืองเขียนวันวานหวานและขม
เพียงหวังให้คนคนหนึ่งซึ่งชื่นชม
ก่อนบรรทมจะอ่านทุกวันคืน
ทุกเรื่องราวเริ่มก่อนตอนวสันต์
เข้าเหมันต์ฝันไกลสุดใจฝืน
ต่อคิมหันต์ฝนพรำแสนฉ่ำชื่น
กลับสะอื้นเปลี่ยนผันเริ่มวันใหม่
เป็นขวบปีเขาหายเหมือนสายหมอก
มีแต่เพียงคำบอกจากดอกไม้
ว่าเขาคงลาลับไม่กลับใจ
เหลือเพียงไอความฝันแห่งวันวาน
และบทกลอนอ่อนหวานที่บันทึก
จนน้ำหมึกเลือนลางแทบจางสาส์น
บทกวีเรียงร้อยทิ้งรอยวาร
ยังคงจารอยู่ในใจไม่รู้เลือน
กาสะลองสีขาวที่พราวต้น
ดอกร่วงหล่นกรูกราวราวเสมือน
บอกสำนึกเข้าใจไว้ย้ำเตือน
มีลางเลือนมีเกิดใหม่ไม่ยืนยง
จนลมฝนหอบเย็นกระเด็นชื้น
ต้นไม้ตื่นฝนปลุกสนุกสรง
สายเกสรถูกน้ำฝนก็หล่นลง
หญ้าบรรจงรับวางอย่างยินดี
เธอจึงปิดสมุดที่สีเหลืองอ่อน
เก็บใต้หมอนลายดอกไม้มีหลายสี
ปากพึมพำร่ายบ่นบทกวี
เป็นตอนที่..เขาสลักกลาง..หว่างดวงใจ
.