18 พฤษภาคม 2546 17:00 น.
เก๋าโจ๋โก๋พันธุ์สวย
ชายหนุ่มคนหนึ่ง ออกเดินทางตามหาดวงจันทร์
รอนแรมมาหลายวันก้อไม่เจอ
ระหว่างทางเขาเจอดอกทานตะวัน
เธอบอกให้ไปถามกับดวงอาทิตย์
เมื่อชายหนุ่มได้พบกับดวงอาทิตย์
เขาก้อถามว่าจะเจอดวงจันทร์ได้ยังไง
ดวงอาทิตย์ตอบว่า
เราไม่ค่อยได้เจอกัน..
เพราะเราอยู่กันคนละฟากฟ้า
เราต่างมีหน้าที่ของตัวเอง
แต่เราก้อเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
วันดี คืนดีวันที่ดวงจันทร์ร่าเริง..
ก้อจะออกมาทักทายดวงอาทิตย์เอง
คุยกันได้ไม่นาน
ดวงอาทิตย์ก้อต้องลับขอบฟ้าไป
ลองถามก้อนเมฆดูซิคืนนี้ดวงจันทร์จะมามั้ย
ชายหนุ่มจึงรอคอยที่จะถามเมฆ
เมฆบอกว่า
วันนี้ดวงจันทร์ไม่มาเพราะเมฆมา
แม้เราจะแตกต่างกัน
แต่เราก้อห่วงใยกันเสมอ
บางวัน ดวงจันทร์ก้อแอบมาคุยด้วย
โดยมาหลบอยู่หลังก้อนเมฆ
เมฆบอกว่าถ้าเธออยากเจอดวงจันทร์ต้องรอถามจากดวงดาว
ชายคนนั้นมองหาดวงดาว
เจอดาวอยู่ดวงเดียว
ส่องสว่างที่สุด
.เธอชื่อดาวศุกร์
ดาวศุกร์บอกว่า
ดวงจันทร์เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด
นาน ๆ เธอจะออกมาให้ใครเห็น
เต็ม ๆ ตัวเพราะเธอกลัวว่า
ใครหลายคนหลงเสน่ห์เธอแล้วจะ
ไม่ยอมหลับยอมนอน
เธอเคยบอกดาวศุกร์ว่า บางคืน เธอออกมาแล้ว
เธอต้องนั่งเป็นเพื่อนใครต่อใครทั้งคืน
หลายคนเปรียบเทียบกับคนรักไม่ได้คุยกับคนรัก
ก้อคุยกับเธอแทน เห็นหน้าเธอก้อจะทำให้เหมือน
ได้มองเห็นหน้าคนรัก
ดาวศุกร์ถามชายหนุ่มว่า
เขาเป็นอีกคนหนึ่งใช่ไหม
ที่อยากเจอดวงจันทร์เพื่อให้
เธอเป็นตัวแทนคนรักของเขา
ชายหนุ่มพยักหน้าบอกว่า
คนรักของเขาเคยพูดว่าถ้าอยากเจอกัน
ให้มองดวงจันทร์แล้วจะเห็นหน้าเธอในนั้น
ดาวศุกร์บอกว่า
ดวงจันทร์มีอำนาจวิเศษที่จะเสก
ใครเข้าฝันได้ การนั่งมองจันทร์
ทั้งคืนจะไม่เห็นคนรักหรอก
วิธีที่ดีกว่านั้น..ให้คิดถึงเธอแล้วนอนหลับฝัน
ดวงจันทร์จะเสกให้เธอมาเข้าฝันเองได้นอน
ได้เห็นและได้พูดคุยกับเธอจนเช้าด้วย
ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ พร้อมกับล้มตัวลงนอนอย่าง
เหนื่อยอ่อนจนไม่ได้สังเกตว่าภายใต้เมฆ
ก้อนหนึ่งมีแสงเรือง ๆ ทอประกายออกมา
และคืนนั้นเขาก้อฝันเห็นเธอคนรัก
และพูดคุยกับเธอจนเช้า
รุ่งเช้าชายหนุ่มรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง ที่ไม่ได้เจอดวงจันทร์
เธอต้องมาแน่ ๆ เพราะไม่งั้นฝันของเขาเมื่อคืน
คงจะไม่หอมหวานขนาดนั้น
ขอบคุณครับดวงจันทร์!
ชักอยากเห็นหน้าซะแล้วสิ
จะสวยสู้เธอคนนั้นของผมได้มั้ยนะ
The Endู^o^
15 พฤษภาคม 2546 19:17 น.
เก๋าโจ๋โก๋พันธุ์สวย
เราสะดุ้งตื่นตอนประมา 6 โมง..เหมือนทุก ๆ วัน..ลุกขึ้นมาก้อทำกิจวัตรประจำวันแล้วก้อไปโรงเรียนเราชื่อ..อ๊อฟ..เป็นเด็กมัธยมธรรมดาคนหนึ่ง..น่าตาก้อธรรมด๊า..ธรรมดา..ชีวิตก้อธรรมดา..เกิดมายังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกะเค้าซะที..ตอนนี้ก้อขึ้น ม.5 แล้ว..เพื่อน ๆ เค้าก้อมีฟงมีแฟนกันหมด..บ่อย ๆ ที่ถูกถามว่าไม่คิดจะมีแฟนกะเค้าบ้างเหรอ..เราก้อได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วก้อไม่ได้พูดอะไร..เพื่อนในกลุ่มหลายคนเค้าใช้วิธีหาแฟนโดยการเล่น chat มากกว่าการจะเดินเข้าไปจีบ..เราก้อไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะรักกันเข้าไปได้ยังไงทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน..วันนี้ก้อเป็นวันหนึ่งในอีกหลายๆวันที่เราต้องมาเช็ค mail วันนี้เพื่อนเรามาด้วยมันมา chat กันอีกแล้ว..เราก้อนั่งเช็ค mail ของเราไป..มันก้อ chat สนุกสนานกันใหญ่พวกเพื่อน ๆ ก้อหันมาถามเราว่าไม่ลองเล่นดูบ้างล่ะเผื่อจะหาแฟนได้บ้าง..เราก้อบอกว่าไม่ล่ะ..แต่พวกเพื่อนเรามันก้อเอาชื่อเราไปเล่นคุยกันเองเฉยเลยแถมให้เบอร์เราไปด้วย..พวกมันเพิ่งจะมาบอกตอนที่จะกลับบ้านแล้วก้อให้ชื่อกับเบอร์โทรของเด็กเน็ตคนนั้นไว้..เขาชื่อ..ยู..เรียนอยู่ม.นเรศวรที่พิษณุโลก(บ้านเราอยู่นครสวรรค์)แต่เราก้อไม่ได้สนใจอะไร..แต่วันนั้นยูเขาโทรมาหาเราที่บ้านทีแรกก้อไม่รู้หรอก ว่าเป็นใครพอเขาบอกชื่อก้อเลยนึกขึ้นได้..เขาบอกว่าเขาอยู่ปี 2 แล้วอยู่คณะวิทย์ - คอมฯ..ท่าทางเขาเป็นคนอารมณ์ดีเราก้อเป็นคนอารมณืดีเหมือนกันก้อเลยคุยกันได้..บ้าๆบอๆทั้งคู่..จากวันนั้นเขาก้อโทรมาหาเราทุกวันแต่เรายังไม่เคยโทรไปหาเขาเลย..เพื่อน ๆ ก้อเลยบอกว่าลองโทรไปหาเขาซักครั้งเถอะสงสารเขาบ้าง..ดูเขาจริงจังกับเรามาก ๆ เลย..เราก้อเลยลองโทรไปแต่ตอนนั้นไม่คิดจะจริงใจอะไรเพราะอยู่กันคนละจังหวัด..แถมต่างคนก้อต่างมีหน้าที่ของตัวเอง..แล้วถ้าจะให้เรานั่งรถไปหายูที่พิษณุโลกล่ะก้อฝันไปเถอะ..เราก้อโทรคุยกันบ้าง mail คุยกันบ้างจนเกือบๆ 1 ปีแล้ว..แต่เราก้อยังคุยกัน..เพื่อน ๆ ยังแปลกใจเลยว่าทำไม่ถึงคบกันได้นานขนาดนี้ทั้งๆที่ยังไม่เคยเจอหน้ากันเลย..ได้แต่ได้ยินเสียงกันทางโทรศัพท์..จนมาวันหนึ่งยูก้อโทรมาบอกว่าเขาลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว..ตอนนี้เขามีปริญญาอยู่แล้วใบนึงจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช..เราก้อบอกว่าคิดดีแล้วเหรอ..เขาก้อบอกว่าคิดดีแล้ว..ตอนนี้เขาก้อได้งานทำที่กรุงเทพแล้วล่ะ..เขาทำงานอยู่กระทรวงพลังงานอะไรเนี่ยแหละ..ยูน่ะมักจะถามเราบ่อยๆว่ารักยูบ้างรึเปล่า..แต่ยูน่ะบอกว่ารักเราทุกวัน..เราก้อถามยูเหมือนกันว่าที่พูดว่ารักน่ะรักเราจริงรึเปล่า..หรือก้อแค่พูดไปแบบนั้นแหละ..ยูก้อบอกว่ารักเราจริงๆๆ..เราก้อได้แต่ยิ้ม ๆ กับตัวเอง..คุณเคยรู้สึกหรือเปล่าเวลาที่ต้องอยู่ห่าง ๆ คนรักของคุณนาน ๆ ..คุณจะคอยมองคู่รักที่เขาเดินจับมือกัน..ที่เขาไปเที่ยวด้วยกัน..แล้วคุณก้อจะย้อนคิดถึงความรักของคุณพร้อมกับอมยิ้มคนเดียว..บ่อย ๆ ที่คุณแอบร้องไห้ตอนฝนตกเมื่อคิดถึงวันที่คุณได้อยู่กับคนรักของคุณ..ร้องไห้เมื่อตอนฟังเพลงเหงา ๆ ที่โดนใจสุด ๆ..พร้อมกับคิดว่าทำไมคนแต่งเพลงเขาถึงแต่งเหมือนชีวิตเราจังนะ..คุณเคยรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันบ้างไม๊..ความรู้สึกพวกนั้นน่ะมันทรมานมาก ๆ เลยเนอะ.
^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^
ตอนนี้ใกล้ปิดเทอมใหญ่แล้ว..แม่บอกว่าเวลาอ่านหนังสือเหลือน้อยแล้วอ่านเองน่ะไม่ทันแน่ ๆ ก้อเลยจะส่งไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพฯ..ความรู้สึกตอนนั้นดีใจจนบอกไม่ถูกในหัวมีแต่ความคิดว่าจะได้เจอยูซะที..พอเราโทรไปบอกยูเค้าก้อดีใจเหมือนกัน..เราไปอยู่กับเพื่อนอีก 3 คน..อยู่แถวประตูน้ำใกล้ที่เรียนดี..และแล้ววันที่จะได้เจอยูซะทีตื่นเต้นจัง..เรานัดเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต..พอเราไปถึงเราก้อลงไปรอ..รอ..รอ..แล้วก้อมีเสียงนึงดังขึ้น..เอ่อ!อ๊อฟใช่ป่ะ..เราก้อค่อย ๆ เงยขึ้นมองหน้าเจ้าของเสียงนั้น..ยังไม่มีเสียงอะไรหลุดออกไปจากปากของเราจนเขาต้อถามซ้ำอีกครั้ง..เราก้อได้แต่พยักหน้าช้า ๆ 2 3 ที..ตอนนั้นใจเต้นโครมครามทำตัวไม่ถูก..คนที่เรารอจะเจอมา 1 ปีเต็ม ๆ คนทีได้ยินแต่เสียง..คนที่คอยปลอบเวลาทะเลาะกับเพื่อน..คนที่คอยทำให้เรายิ้มได้ทั้งที่ในหัวมีแต่เรื่องเครียด..คนที่ชวนทะเลาะกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง..และเป็นคนที่ทำให้เราเชื่อในความรักมากขึ้น..เรายืนนิ่งอยู่ซักพักนึงแล้วเขาก้อถามว่าเราจะไปไหนกันดี..เราก้อบอกว่าไม่รู้ซิแล้วแต่ยูแล้วกัน..วันนั้นยูพาไปเที่ยวหลายที่มากเลย..พาไปกินข้าว..พาไปดูหนัง..พาไปเดินเล่น..จนตอนนี้ เกือบ ๆ เที่ยงคืนแล้ว..เวลาเดินเร็วจัง..แรก ๆ เราเดินด้วยกันห่างมากแต่ตอนนี้..เราเดินจับมือกันแล้วล่ะ!..เราบอกว่าจะกลับบ้านแล้วยูก้อนั่ง BTS ไปส่งแล้วเราก้อแยกกัน..จากนั้นเราก้อนัดเจอกันทุกวันอาทิตย์..เพราะว่าวันธรรมดายูก้อต้องทำงานเราก้อต้องเรียนพิเศษจากเช้าถึงเย็น..เราก้อเป็นกำลังใจให้ยูทำงานอย่างมีความสุข..และยูเองก้อเป็นกำลังใจให้เรา Ent ให้ติด..เคยมีคนพูดเอาไว้ว่าความรักมีพลังมากมาย..เพิ่งจะเข้าใจและรู้ซึ้งถึงความหมายจริง ๆ ก้อวันนี้เอง.
^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^
ฟ้าครึ้ม ๆ เป็นสัญญาณบอกว่าหน้าฝนใกล้เข้ามาแล้ว..เรายืนฟังเพลงอยู่ที่ระเบียงเหมือนทุก ๆ วัน..กรุงเทพฯนี่ดีจังมีเพลงฟังตลอดเลย..ตอนนี้เรากำลังใช้งานดวงตากับสมองมากเป็นพิเศษ..เพราะอะไรน่ะเหรอ..วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วน่ะซิที่เราจะอยู่ที่นี่..เรากำลังจดจำทุกตารางนิ้ว..จดจำลมเย็น ๆ บนชั้น 7..จดจำคุณยามที่ออกมาทักกันทุกเช้า..จดจำนกพิราบหลายตัวที่ทะเลาะด้วยกันบ่อย ๆ เพราะชอบมาเสียงรบกวนเวลาเราหลับ..และจดจำคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เราตอนนี้..คนที่เรารักมาก..ยู..ไม่อยากจากกันไปเลย..ฝนฟ้าเริ่มคึกคนองขึ้นเรื่อย ๆ เราเลยให้ยูรีบกลับบ้าน..ยูค่อย ๆ จับแก้มเราอย่างอ่อนโยน..อยู่ ๆ น้ำตาก้อไหล..ก้อเลยถูกยูดุว่าขี้แยอีกแล้ว..แล้วเราก้อเลยเดินลงไปส่งยูข้างล่าง..เราเดินขึ้นไปบนห้องพร้อมกับเริ่มเก็บของใส่ลงกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางในวันพรุงนี้..กระเป๋าน่ะใบเดิมนะ..เสื้อผ้าก้อไม่ได้ซื้อเพิ่มซักกะหน่อยแต่ทำไมมันใส่ไม่ลงล่ะ..เราต้องใช่ความรุนแรงยัดมันลงไปอยู่หลายนาทีกว่าจะจัดการกับมันได้..มันบวม ๆ พิกลไม่บอกก้อคงไม่รู้ว่าอดีตมันเคยเป็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้ามาก่อน..ดูแล้วเหมือนมันพร้อมจะระเบิดได้ทันทีที่มีคนไปแตะต้องมัน..ตอนเช้าพ่อของเพื่อนก้อมารับ..เราก้อทยอยขนของขึ้นรถ..บอกลาคุณยามและคนที่ห้องอาหาร..ดูพวกเขาดีใจมากเลยที่พวกเราจะไปเพราะอะไรน่ะเหรอไม่รู้ซิแต่พวกคนที่นี่เขาเรียกพวกเราว่า..ตัวป่วน..ล่ะ..จากนั้นเราขึ้นรถและจากไปพร้อมกับรอยยิ้มและความทรงจำที่ดีที่เกิดขึ้นที่นี่..
ูู^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^ ^o^
ตอนนี้เราอยู่นครสวรรค์แล้วล่ะพรุ่งนี้โรงเรียนก้อจะเปิดแล้วดีใจจังคิดถึงเพื่อนจะแย่..เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกเราจากการหลับไหลตอนนี้ 5 โมงเย็นกว่า ๆ แล้วล่ะ..หวัดดีค่ะ..มีเสียงผู้ชายตอบกลับมาว่า..เอ่อ..ขอสายอ๊อฟหน่อยครับ!..เราจำเสียงได้ยูนั่นเองคิดถึงจะแย่อยู่แล้วเราคุยกันประมาณเกือบ ๆ ชั่วโมงได้..ยูบอกว่าต้องไปต่างจังหวัดตั้งหลายทีแล้วไปทีนึงก้อต้องค้างตั้งหลายวันแถมไปอยู่บนเขาอีกต่างหากคลื่นคงไม่ค่อยมีเราคงไม่ค่อยได้โทรคุยกัน..เราก้อบอกว่าเราเข้าใจแล้วเราก้อวางสายไป..เราไม่โทรหากันมาเกือบเดือนแล้ว..เราโทรไปหายูทุกวันแต่ว่าไม่มีสัญญาณ..จนวันหนึ่งเราก้อโทรติดจนได้..ฮัลโหล..ผู้หญิงเสียงหวานเป็นคนรับสาย..เรานิ่งไปเกือบนาที..เธอก้อถามขึ้นด้วยเสียงหวานเหมือนเดิมว่าจะพูดกับใครคะ..เราก้อตอบว่าขอสายยูหน่อยค่ะ..แล้วยูก้อมารับสาย..เราก้อพยายามทำอารมณ์ให้นิ่งที่สุดแล้วถามไปว่าผู้หญิงที่รับสายเมื่อกี้นี้เป็นใครเหรอ..ยูก้อบอกว่าเป็นเพื่อน..เราก้อบอกยูว่านึกขึ้นได้ว่ามีธุระเราขอวางสายก่อนแล้วกันแต่ยูบอกว่าไม่ต้องวางเลยคุยกันให้รู้เรื่องก่อน..ยูรู้ว่าเรางอนอีกแล้ว..เราก้อบอกว่าเปล่า..แต่น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว..ยูไม่รู้หรอกว่าเราร้องไห้อีกแล้วถ้ารู้เราโดนดุยาวอีกแน่เลย..ยูก้ออธิบายใหญ่เลยว่าเขาเป็นเพื่อนไม่ได้มีอะไร..ตอนนั้นเราก้อเริ่มคิดได้ว่าเราคงต้องเผื่อใจไว้บ้างแล้วล่ะเพราะ..หนึ่งเราอยู่ไกลกัน..สองยูอยู่กรุงเทพฯต้องเจอผู้คนมากมาย..สามยูก้อไม่ใช่ว่าหน้าไม่ดี..เรายังคุยกันไม่รู้เราองแต่เราทนไม่ไหวเลยวางสายไปก่อน..ยูโทรกลับมาแต่เรายังไม่พร้อมจะคุยเลยไม่รับสาย..เปิดเรียนมาหลายวันแล้วยูยังไม่โทรมาเลยเรานอนไม่ค่อยหลับมาหลายวันแล้ว..เพื่อน ๆ ก้อเป็นห่วงเห็นช่วงนี้เราเหม่อ ๆ ไป..เราลองโทรไปหายู..แต่ยูไม่รับสายเราก้อร้องไห้ตรงนั้นเลย..เพื่อน ๆ ก้อบอกว่าอย่าคิดมากเลยเขาอาจไม่ว่างก้อได้..แล้วเราก้อกลับบ้าน..นอนอยู่บนห้องนอนฟังเพลงที่ยูส่งมาให้..เริ่มบอกกับตัวเองว่ายูไม่ได้รักเราแล้ว..ตัดใจได้แล้วจากนั้นก้อเริ่มเก็บของทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวของกับยู..เก็บไป..เหม่อไป..ร้องไห้ไป..แล้วโทรศัพท์ก้อดังขึ้นอีก..เราลุกไปรับ..ฮัลโหลขอสายคนขี้งอนหน่อยคับผม!..เราจำเสียงได้เราพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุดแล้วถามกลับไปว่า..ยูเหรอ..มีอะไรรึเปล่า..ยูก้อบอกว่า..ก้อไม่มีอะไรแค่จะโทรมาบอกว่าตอนนี้ยืนอยู่หน้าบ้านแล้ว..แล้วตอนนี้ก้อหิวน้ำมากด้วยไม่รู้ว่าจะมีบ้านไหนให้เข้าไปกินน้ำบ้างไม๊หนอ..เรายิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับวางสายทันทีแล้ววิ่งไปดูที่หน้าบ้าน..เขายืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ เราไม่ได้ฝันไป..เราก้อชวนเค้าเข้าไปในบ้านแล้วก้อบอกพ่อกับแม่ว่าเป็นเพื่อนที่กรุงเทพฯมาเที่ยวที่นครสวรรค์..ยูบอกว่าตอนที่โทรไปแล้วไม่รับน่ะกำลังหลับอยู่บนรถแล้วยูก้ออธิบายว่าผู้หญิงที่รับสายตอนนั้น่ะเป็นเพื่อนจริง ๆ ตอนนั้นที่บ้านยูเขาจัดงานเลี้ยงกันแล้วผู้หญิงคนนั้นเขาก้อแต่งงานไปแล้วด้วย..แล้วเราก้อถูกดุอีกแล้วข้อหาทำตัวเป็นเด็ก..วันนั้นยูไปพักที่บ้านเพื่อน..ยูบอกว่าเขาขอราพักร้อนเดือนนึงเพราะตั้งแต่ทำงานมายังไม่ได้ลาพักร้อนแลย..ช่วงเวลาเดือนนึงนับจากนี้เราจะค่อย ๆ เติมความอบอุ่นให้กัน..และเพิ่มความเชื่อใจให้กันอีกครั้ง..เราจะพยายามเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น..ความรักครั้งนี้จะต้องเป็นความรักที่เราจะไม่มีวันลืมแม้เราจะยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร..แต่ตอนนี้เรารู้แต่เพียงว่าเราจะอยู่เพื่อเธอ..เพราะเธอคือความหมายของวันพรุ่งนี้