23 กันยายน 2550 17:04 น.
เก็จถะหวา
เมื่อยังเด็กเล็กอยู่เคยรู้ไหม
ยังมีใครรักเราเฝ้าห่วงหา
เปรียบสายใยทุ่มเทเห่กล่อมมา
พ่อแม่จ๋ารักลูกปลูกชีวัน
แม่ที่สองปองรักมากแค่ไหน
ท่านห่วงใยสอนดีมีใจมั่น
สอนความรู้สอนความดีมีคู่กัน
คุณครูฉันสอนไว้ให้พร้อมมูล
รักพี่น้องปองดรองด้วยข้องเกี่ยว
รู้กลมเกลียวสามัคคีมิมีสูญ
เอื้ออาทรช่วยเหลือคิดเกื้อกูล
ทวีคูณสายใยในญาติวงศ์
รักเพื่อนพ้องแสนดีมีความสุข
แสนสนุกเฮฮาน่าพิศวง
แม้เกิดต่างเชื้อชาติใช่เผ่าพงศ์
แต่ยังคงรักกันมั่นหมายใจ
รักสำคัญคู่ใจในชีวิต
กรรมลิขิตบุญนำทำไฉน
ได้อยู่ร่วมชะตาพากันไป
สุขทุกข์ได้ร่วมบ้านวิมานแมน
รักของผู้ผ่านวัยในกาลก่อน
ที่กลับย้อนลูกหลานนานสุดแสน
มอบความรักเมตตามาทดแทน
จึงแน่นแฟ้นรักมั่นฉันท์ครอบครัว........................
22 กันยายน 2550 06:12 น.
เก็จถะหวา
ขอเป็นเทียนส่องทางสว่างใส
งดงามในที่สลัวมัวมืดหม่น
ส่องสว่างกลางใจใครสักคน
ที่ทุกข์ทนอ่อนแอแพ้เรื่องราว
ขอเป็นเพียงสะพานให้ผ่านข้าม
แม้ในยามใจเจ็บและเหน็บหนาว
ยอมทนทุกข์เธอเห็นเช่นหลายคราว
เพียงเธอก้าวสดใสใจยินดี
ขอเพียงเป็นเช่นเพื่อนคนพิเศษ
ปกป้องเหตุการณ์ร้ายเขาป้ายสี
ยามต่อสู้หมู่มารนั้นราวี
ฉันอยู่นี่เคียงข้างอย่างคู่ใจ
ขอเพียงเป็นเช่นใครได้รู้จัก
เพราะใจรักวันนี้มิหวั่นไหว
เราต่างคนมีทางก้าวย่างไป
ส่งแรงใจสู่ขวัญมั่นรักเธอ
ขอ...ทราบข่าวดีร้ายใคร่อยากรู้
ขอ...เฝ้าดูด้วยใจห่วงใยเสมอ
ขอ...คิดถึงหนึ่งใจไม่อาจเจอ
ขอ...เสนอแรงหวังกำลังใจ
แค่...คนไกลไม่เห็นจึงเป็นห่วง
แค่...หนึ่งห้วงดีดีที่ฝันใฝ่
แค่...เคยเห็นเป็นอยู่ดูต่อไป
แค่...มีใจให้เธอเสมอมา
นี้...คือความรู้สึกลึกในจิต
นี้...ความคิดคนที่สิเนหา
นี้...คือสิ่งจริงฉันเคยสัญญา
นี้...คือค่าในจิตชิดผูกพัน
21 กันยายน 2550 06:03 น.
เก็จถะหวา
ในยามท้อทรมานผ่านทุกข์เข็ญ
มองไม่เห็นหนทางลางเลือนหนอ
ขอให้เธออดทนเข้มแข็งพอ
เพื่อจะต่อเติมฝันใช่หวั่นเกรง
ในยามนี้คนดียังมีฉัน
อย่ารำพันเศร้านักรักข่มเหง
ชีวิตคนก็เป็นเช่นนี้เอง
เราใช่เก่งดีเลิศเมื่อเกิดมา
ในยามนั้นเธอมีคนเคียงข้าง
ฉันถอยห่างห่วงอยู่คอยรักษา
หากเธอล้มรักร้างมีน้ำตา
กลับเถิดหนาที่เก่าเราอย่างเดิม
ในทุกยามตามติดคิดเสมอ
เพราะว่าเธอคือหนึ่งซึ่งแรกเริ่ม
เป็นรักแท้จากเพื่อนที่ต่อเติม
จะคอยเสริมหนุนนำอย่าช้ำเลย
18 กันยายน 2550 17:06 น.
เก็จถะหวา
ไฟอะไรร้อนเร่าเท่าพิโรธ
ไฟความโกรธไหม้จิตริษยา
คิดเคืองแค้นสะสมสิ่งโกรธา
ไม่มองหน้าเกลียดกันจนวันตาย
มุ่งชำนะชำระไฟร้อนแรง
ด้วยจิตแห่งเมตตาฆ่าสลาย
เขาขึ้งโกรธช่างเขาก็เปล่าดาย
ดับความร้ายไม่โกรธไม่โทษกัน
คนไม่ดีพาลเกทำเล่ห์หลอก
ชวนออกนอกเส้นทางที่สร้างสรรค์
อบายมุขชั่วร้ายคล้ายทางตัน
เขายังดันหลงผิดคิดว่าดี
คนไม่ดีชนะด้วยการไม่ท้อ
ทำคุณต่อเขานั้นจนสุขศรี
ไม่มุ่งร้ายหมายฆ่าเข้าราวี
แต่ต่อตีด้วยรักสมัครปอง
คนตระหนี่มุ่งคิดเอาแต่ได้
เขาแล้งไร้น้ำใจไม่สนอง
สะสมไว้มากมายคือเงินทอง
แลข้าวของสมบัติไม่จัดการ
คนมักได้ให้เขาเราชนะ
เสียสละแก่เขาเรากล้าหาญ
อยากจะเอาเอาไปตามต้องการ
เราเจือจานน้ำใจใสผ่องเพ็ญ
คนพูดจาพาทีมีแต่โทษ
แหย่ให้โกรธต่อว่าใส่ความเหม็น
โกหกได้ล่อลวงทุกประเด็น
เขาก่อกรรมทำเข็ญด้วยวาจา
คนเช่นนี้พึงชำนะด้วยใจซื่อ
ไม่ยึดถือคำเขาเฝ้ามุสา
แต่รับฟังเขาด้วยกรุณา
แผ่เมตตาให้สุขทุกวันคืน
ชนะตนคือชัยอันยิ่งใหญ่
คือผู้ใฝ่สันติมิขัดขืน
มิตรภาพดำรงอยู่ยั่งยืน
หากชนฝืนชนะได้ที่ใจตน
17 กันยายน 2550 23:36 น.
เก็จถะหวา
เมืองไทยใหญ่อุดม
อาจจะล่มไม่มีสวน
นาไร่ไร้คนพรวน
การหว่านไถไร้คนทำ
การศึกษาพาหลงทิศ
พากันฮิตอุตสาหกรรม
แรงงานต้องตรากตรำ
สูดควันดำในโรงงาน
บ้านนาอากาศดี
พากันหนีไปสูดสาร
พิษร้ายจึงรุกราน
เข้าโรง บาลกันมากมาย
เทคโนแบบชาวบ้าน
แม้ลูกหลานยังหลบหาย
ทำนาแบบตายาย
ไม่ทำลายสิ่งรอบตัว
ประเพณีแต่ก่อนเก่า
มิเร่งเร้าให้เมามัว
ไยเห็นดีเป็นชั่ว
ชอบเกลือกกลั้วแต่อบาย
มาเถิดเพื่อนพ้องเอ๋ย
อย่าละเลยก่อนจะสาย
กลับลำก่อนวอดวาย
คงรอดตายวายชีวัน
กินอยู่แบบไทยไทย
มีน้ำใจรู้แบ่งปัน
อดทนและขยัน
แล้วสิ่งฝันคงไม่ไกล
เรียบง่ายคล้ายคนจน
แต่ทุกคนไม่จนใจ
ขอแค่เพียงพอใช้
ลดหนี้ได้คือไทยจริง