16 ตุลาคม 2550 22:54 น.

++++++ ท้องนาบ้านเรา++++++++

เก็จถะหวา

  


เดินเพลินชมไม้บานตระการทุ่ง
กลิ่นโชยฟุ้งหอมไกลในยามสาง
แสงแดดอ่อนไอหมอกเคล้าเจือจาง
แลเลือนลางทิวไผ่ใกล้ไพรพง

นกกระยางกางปีกเกาะพุ่มไม้
ผึ้งบินไต่กลีบบัวด้วยประสงค์
ดูดน้ำหวานบัวงามแล้วบินตรง
นำไปส่งสะสมไว้ในรวงรัง

ผีเสื้อบินว่อนไกลไปทั่วถิ่น
ร่อนโบยบินดั่งใจถวิลหวัง
ชมดอกนู้นดอกนี้เติมพลัง
ไม่หยุดยั้งเชยชมจนสมใจ

ดวงตะวันเด่นงามยามย่ำรุ่ง
ประกายรุ้งน้ำค้างพราวสดใส
ถิ่นแดนทองท้องทุ่งเขียวอำไพ
แลวิไลทิวข้าวของชาวนา

ปลาในน้ำเริงร่าท้าน้ำฝน
แหล่งอาหารคนจนได้เสาะหา
ข้าวในนาปลาในหนองของนานา
มีผักหญ้าเก็บได้ให้กินฟรี

ร่มโพธิ์ทองวางแนวทางช่วยสร้างสรรค์
ชีวิตนั้นเรียบง่ายตามวิถี
เศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงชีวี
บ้านนานี้สุขใจหาใดปาน.....................



         				
15 ตุลาคม 2550 20:33 น.

+++++++เกิดมาอย่าจนใจ++++

เก็จถะหวา

  
เกิดเป็นคนมุ่งมั่นหันหน้าสู้
รู้กินอยู่ขยันหมั่นขวนขวาย
หน้าที่ตนเร่งทำไม่ดูดาย
มีมากหลายแนวทางให้ย่างเดิน

สองเท้ามุ่งสองมือมั่นด้วยฝันใฝ่
ทางยังไกลเหนื่อยล้าอย่าห่างเหิน
แม้ลำบากตรากตรำพร้อมเผชิญ
ย่อมเจริญวัฒนาก้าวหน้าไกล

ถึงจนเงินอย่าจนใจไร้ความคิด
ทางชีวิตฟันฝ่าอย่าหวั่นไหว
อุปสรรคปัญหาอย่าท้อใจ
ต่อสู้ไปให้ถึงซึ่งปลายทาง

ตนเตือนตนจนยากลำบากก่อน
บทเรียนสอนดีชั่วขั้วแตกต่าง
รู้หลีกห่างอบายตามรายทาง
คงอยู่อย่างสุขสันต์นิรันดร.............




                   				
15 ตุลาคม 2550 01:42 น.

+++++กำแพงแห่งใจ+++++

เก็จถะหวา

 


เป็นฉันปั้นอัตตามานานเนิ่น
ทั้งเพลิดเพลินสร้างเกราะกำแพงใหญ่
กำแพงล้มพังทับจึงกลับใจ
อาจสายไปถูกถมจมกำแพง

อหังการมิไยดีหมู่มวลมิตร
ย่อมจะติดตัวตนคนกำแหง
เรียนรู้เพื่ออวดกล้ามาแสดง
ต่างขันแข่งดันแทรกแจกอัตตา

ลองขยับพ้นจากกำแพงกั้น
มาสร้างสรรค์ผลงานอันก้าวหน้า
คำนึงถึงเพื่อนบ้างบางเวลา
เลิกนำพาตน ของตนพ้นทุกข์ภัย

เป็นฉันมั่นหมายมุ่งสละเสีย
ไม่นัวเนียยุยงให้สงสัย
ปล่อยว่างวางกรรมกิเลสเหตุปัจจัย
ดับความนัยปัญหาอัตตาโต




      				
12 ตุลาคม 2550 18:41 น.

สรรเสริญ นินทา

เก็จถะหวา

   

ณ  ที่กาลเวลาใดโลกใบนี้
ไม่เคยมีผู้ได้รับแต่สรรเสริญ
คนรักเท่าผืนหนังใช่บังเอิญ
คนเกลียดเกินผืนเสื่อเหยื่อนินทา

รสคำชมเสพติดกันมากนัก
ใครขืนหักต่อต้านพาลโทสา
ด้วยหลงเพลินสรรเสริญอยู่เรื่อยมา
สรรวาจามายกยอก่อเกิดตน

ด้านสรรเสริญเพลินใจให้ซาบซ่าน
พลิกกลับด้านนินทาพาสับสน
คนอ่อนไหวร้อนเร่าในกมล
ไม่อาจทนพิษแผดเผาเข้าถึงใจ

เมื่อดอกไม้รับอรุณอุ่นแสงฉาย
จีงแย้มพรายกลีบตระการบานสดใส
อิสระจากการหุ้มห่อภายใน
ส่งกลิ่นไกลหอมหวนทวนตามลม

แสงสว่างแห่งปัญญาพาบรรเจิด
ก่อให้เกิดความคิดจิตเหมาะสม
ทั้งสรรเสริญและนินทาอย่าปรารมณ์
พ้นระทมทุกข์ท้อทรมาน

ขุนเขาไม่สั่นไหวด้วยแรงลม
อันคำชมเหล่าบัณฑิตผู้กล้าหาญ
แม้นินทาว่ากล่าวไม่เข้าการ
จึงเบิกบานเสมอเหนือคำคน.......................


             				
12 ตุลาคม 2550 04:15 น.

+++++++++ดอกหญ้า+++++++

เก็จถะหวา

      


ดอกหญ้าไม่ต่ำค่ากว่าดอกใด
เป็นดอกไม้ริมทางแต่สร้างสรรค์
ช่วยคลุมดินให้ชุ่มชื้นเพื่อป้องกัน
ชีวพันธุ์ใต้ดินได้ทำงาน

ดอกหญ้าแกร่งอดทนไม่อวดกล้า
มีชีวาเรียบง่ายไม่อาจหาญ
แม้ไม่เด่นงามล้ำตามต้องการ
แต่เบิกบานด้วยค่าน่านิยม

ดอกหญ้าทนเสมอเจอเหยียบย่ำ
แม้จะช้ำแต่ยินดีให้ทับถม
แม้แล้งไร้ใบแห้งไม่ตรอมตรม
ถูกกดข่มแต่ยังอยู่สู้ฝ่าฟัน

เมื่อถึงคราน้ำฝนหล่นจากฟ้า
ปวงดอกหญ้าชูช่อพอคงมั่น
ดอกหญ้างามเรียบง่ายในแจกัน
ดอกหญ้านั้นมีค่าราคาเอย


                      				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเก็จถะหวา
Lovings  เก็จถะหวา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเก็จถะหวา