6 ธันวาคม 2549 23:12 น.
เก็จฐวา
ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
มาจากไหนเชื้อชาติใดไทยยินดี
ต้อนรับด้วยรอยยิ้มและไมตรี
ขอเพียงมีรอยยิ้มตอบมอบให้กัน
จะอีสาน เหนือ กลาง ใต้ล่างสุด
ถึงจะอยู่จุดไหนไม่สำคัญ
อยู่ใต้ร่มโพธิ์ฉัตรอันเดียวกัน
ผูกสัมพันธ์กันไว้ไทยวิถี
ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม
เป็นแค่นามยึดถือคือความดี
อย่าแบ่งแยกแตกไปไม่สามัคคี
ปัญหามีอย่าแก้ไขใช้กำลัง
หากขวานทองขาดไปไร้ด้ามจับ
เหมือนพลขับเคลื่อนไปไร้พลัง
หวนนึกถึงบรรพชนคนรุ่นหลัง
เคยเลือดหลั่งหวังให้ได้แผ่นดิน
โอ้เพื่อนเอ๋ยเพื่อนไทยใช่ใครอื่น
โปรดจงตื่นลืมตามาถวิล
จงนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
ที่ทำกินต้องแบ่งแยกแตกทำไม
29 พฤศจิกายน 2549 23:28 น.
เก็จฐวา
โอ้แผ่นดินถิ่นรักพักอาศัย
เหมือนมิใช่แดนดินถิ่นสยาม
มาตุภูมิล้ำค่าสมญานาม
ทะเลครามคู่ขนานเคียงขวานทอง
แม้ต่างเชื้อชนชาติศาสนา
ใช่ปัญหาผิดแผกแยกชนผอง
ใต้ร่มโพธิ์เดียวกันอันเรืองรอง
ล้วนพี่น้องผองไทยใช่ศัตรู
มาผิดใจกระไรหรือถือสาเหตุ
ต้องแบ่งเขตเภทเผ่าถูกเป่าหู
จึงเดินหน้าบ้าบิ่นหมิ่นมึง-กู
จับปืนสู้ล้มตายเป็นรายวัน
คนตัดยางถางป่าถูกฆ่าทิ้ง
ครูล้มกลิ้งเดินทางไปสร้างฝัน
เด็ก สตรี ไม่เว้นเช่นเดียวกัน
ล้างเผ่าพันธ์ไม่เลือกเกลือกกลิ้งกาย
สักกี่ร้อยกี่พันถึงวันหยุด
ไปถึงจุดเปลี่ยนแปลกแตกสลาย
รอวันสุขสงบคืนกี่หมื่นราย
เหยื่อความตายสิงสู่ไม่รู้ตัว
วอนพี่น้องผองเพื่อนเหมือนดั่งญาติ
น่าอนาถเสียขวัญกันไปทั่ว
สิ้นคนรักสิ้นหวังทั้งครอบครัว
ต่างหวาดกลัวมัวผวาทุกนาที
ขอให้ทุกศาสดาลงมาโปรด
ลดความโหดเมามันกระชั้นถี่
เรียกร้องสันติสุขคืนยั่งยืนมี
แผ่นดินนี้มองทางไหนไทยด้วยกัน
27 พฤศจิกายน 2549 20:27 น.
เก็จฐวา
แค่กิ๊กกันเท่านั้นฉันเป็นได้
แต่ว่าไม่คิดเกินเลยเธอเคยบอก
อันที่จริงเธอเองไม่ได้หลอก
คนกลับกลอกคือฉันรู้ตัวดี
ข้อตกลงก่อนคบกันฉันยอมรับ
แต่มันกลับรับไม่ได้ในวันนี้
ก็เพราะว่าความสัมพันธ์ที่เรามี
อยากทวีมากกว่าคำว่า..กิ๊ก..กัน
แต่ติดตรงที่เธอมีเขาอยู่
และฉันรู้ว่าเธอก็รักมั่น
แต่ไม่รู้ทำไมใจเริ่มสั่น
ยิ่งเธอหันมาแคร์แลใส่ใจ
บอกตัวเองไม่รู้สักกี่ครั้ง
ใจก็ยังดึงดันจะคิดไป
ทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ว่าใจมันรักหักไม่ลง
จะแย่งเธอมาครองก็ไม่กล้า
รู้ดีว่าเธอรักเขาอย่างมั่นคง
สั่งตัวเองวันนี้คงต้องปลง
บอกตรง ๆ กิ๊กก็ได้ขอใกล้เธอ
23 พฤศจิกายน 2549 23:07 น.
เก็จฐวา
เริ่มเข้าสู่วัยสาวพราวสะพรั่ง
เปรียบเหมือนดั่งบุปผางามยามแรกแย้ม
บริสุทธิ์ผุดผ่องสองนวลแก้ม
ไร้แต่งแต้มธรรมชาติช่างบาดใจ
เจ้าดอกไม้ยวนเย้าเคล้ากลิ่นหอม
ชวนดมดอมหมู่ภมรร่อนมาไกล
เสน่ห์เจ้าเย้ายวนติดตรึงใจ
ทำเอาชายไหวหวั่นสั่นระทวย
แต่ด้วยวัยเพียงนิดจิตไม่หาญ
ไม่อาจทานคารมชายชมกายสวย
เพียงคำป้อหวานวาจาพาระทวย
เอื้ออำนวยพลีร่างหวังใจจริง
แต่เธอพลาดไปแล้วเจ้าแก้วตา
ไร้เดียงสาหารู้ไม่เขาใกล้ทิ้ง
เขาหวังเพียงร่างกายไว้แอบอิง
ไม่รักจริงเขาหน่ายคงไปพลัน
แล้วก็เป็นจริงดังว่าพาอดสู
พอเขารู้เธอตั้งท้องไม่ป้องกัน
ก็รีบปัดปฎิเสธพัลวัน
ลูกใครกันฉันไม่เกี่ยวเที่ยวง่ายเอง
ต้องมานั่งน้ำตาตกอกร้าวรวด
ใจเจ็บปวดแสนเศร้าเขาข่มเหง
พ่อแม่เตือนไม่ฟังยังทำเก่ง
ต้องกระเตงลูกมาพาอับอาย
เรียนหนังสือก็ไม่จบครบเวลา
ต้องออกมาเลี้ยงลูกแสนทุกข์กาย
โดนสังคมตีตราค่าใจง่าย
ทั้งที่ชายเป็นฝ่ายทำให้จำยอม
22 พฤศจิกายน 2549 22:43 น.
เก็จฐวา
ฟ้าฉ่ำฝนต้นข้าวชุ่มชะอุ่มเขียว
ใบรีเรียวพลิ้วไหวตามสายลม
จากต้นกล้าปักดำในโคลนตม
ที่ทับถมกอเก่าคราวปีกลาย
ปีนี้น้ำท่ามาพาสมบูรณ์
คงไม่สูญเหมือนปีเก่าคราวน้ำหาย
ที่ต้นข้าวรอฝนยืนต้นตาย
เหลือแต่สายน้ำตาพาท้อใจ
นั่งเถียงนาสายตาทอดลอดหญ้าคา
แหงนดูฟ้าเมฆครึ้มฝนมาแต่ไกล
มองต้นข้าวพลิ้วตามสายลมไหว
มองดูคล้ายคลื่นซัดสาดหาดทะเล
เสียงเมียรักกล่อมลูกน้อยลอยตามสาย
ตัวเป็นชายได้แต่นั่งไกวเปล
มองดูหน้าลูกรักหลับฟังเห่
หน้าดูเก๋เหมือนใครหนอพ่อเจ้าไง
ปีนี้ข้าวคงมากผลผลิต
หากไม่ผิดจากนี้คงมีกำไร
หัก ลบ กลบหนี้สินยังเหลือใช้
พ่อจะได้หาสายสร้อยร้อยข้อมือ