25 กรกฎาคม 2549 15:41 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๑
.........ปรารถนา ณ แหล่งหล้า.........ฟ้าไหน
หมายมุ่งเสพสุขใด..........................เลิศล้น
ชีพวางร่างแหลกไป........................ปี้ป่น
มนุษย์ฤาหลุดพ้น...........................หม่นเศร้าอดสู
๒
อัฐิธาตุถ่านเถ้า................คือตัวเจ้าที่คงอยู่
ประดับไว้โลกรู้................ดีชั่วคู่ทุกผู้คน
สวรรค์นิพพานใด.............รองรับในฟ้าเบื้องบน
เมื่อกิเลสร้อนรน..............ยังซ่อนไว้ในวิญญาณ
เวียนว่ายกี่เวิ้งวัฏฏ์............ย่อมถูกกักขังสังขาร
ห้วงทุกข์ทรมาน...............คือสุสานนิรันดร
ล้างใจใสสะอาด..............ปราศจากกิเลสเหตุรุ่มร้อน
ห่มคลุมด้วยอาภร............แห่งความดีที่นิรันดร์
ปรารถนาแต่ความดี..........สุขสุนทรีย์ที่เจ้าฝัน
ดั่งแสงแห่งตะวัน.............ฉายฉานอยู่คู่รุ่งอรุณ
ครั้นมลายวายชีวี.............ความดีเอื้อคอยเกื้อหนุน
ดุจดังสั่งสมทุน...............แห่งกรรมดีชี้นำไป
ก่อกรรมชั่วหรือดี............ผลกรรมชี้ทางเวไนย
วิถีลิขิตไว้.....................เป็นเช่นนี้อยู่นิรันดร์
ปรารถนา ณ สิ่งใด..........ย่อมเป็นไปดั่งใจฝัน
สู่วิถีสวรรค์....................หรือนรกทัณฑ์นั้นเลือกเอง.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔๙
20 กรกฎาคม 2549 17:02 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
เพลงโศกร่ำรำพันขึ้นนั่นแล้ว
วังเวงแว่วสะท้านไหวฤทัยหวั่น
เร่งโหมโรงบรรเลงเพลงโศกสันต์
ส่งวิญญาณสู่สรวงสวรรค์นิรันดร์กาล
เมื่อชีวิตมลายลงวายร่าง
สู่เวิ้งว้างแห่งภพใหม่อันไพศาล
ณ ภพนี้มิหมายให้ยืนนาน
พร้อมจะผ่านกายวิภาคฝากโลกา
วิญญาณเราย่อมจะมีอิสระ
เมื่อคราวละกายวางมิกังขา
เห็นสัจจะว่ากายนี้มีมายา
แค่ลวงตาขณะกายไหวรูปเงา
สมบัติสถานในโลกหล้าอาณาจักร
แค่พิงพักกายใจมิใฝ่เฝ้า
สะสมไว้พอแค่ให้กายแนบเนา
เมื่อกายจากก็ว่างเปล่าเป็นเถ้าธุลี.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๙
19 กรกฎาคม 2549 16:28 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
งามไหมนั่นความดีที่เกิดก่อ
สิเร็วต่อความดีที่ใฝ่ฝัน
ให้โลกงามด้วยความดีที่นิรันดร์
ร่วมรังสรรค์ด้วยกายใจใฝ่ปฏิญาณ
มุ่งศรัทธาค่าความดียิ่งชีวิต
ดุจผลผลิตแห่งปัญญาอันกล้าหาญ
ขจัดสิ้นใจบิ่นบ้าอันธพาล
ละวิญญาณอันอำมหิตสิ้นฤทธา
โลกมนุษย์สุดเลวร้ายมากมายแล้ว
คืนวันแว่วเสียงหวาดหวั่นขวัญผวา
ผู้เคราะห์ถูกทำร้ายไม่เลิกรา
ราวโลกหล้าคือแดนดินถิ่นลงทัณฑ์
สิเร่งทำความดีที่ยิ่งใหญ่
ประดับไว้ในโลกนี้ที่ใฝ่ฝัน
ชะล้างใจให้บริสุทธิ์ผุดผ่องพัน
หลอมอนันต์ใจแก่กล้าเมตตาธรรม
ประดุจเนื้อนาบุญค้ำจุนโลก
ดับทุกข์โศกด้วยใจประเสริฐงามเลิศล้ำ
ยึดมั่นแต่ความดีช่วยชี้นำ
ประกอบกรรมใดใดเอื้อเพื่อแบ่งปัน
ครั้นชีพวายมลายลงฝากหล้า
วิญญาณกล้ามุ่งสู่ประตูสวรรค์
เสวยสุขบนชั้นฟ้า ณ ไกวัล
ดุจกำนัลแด่ความดีที่กระทำ.
เกรียงไกร หวับุญศาล
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๙
13 กรกฎาคม 2549 12:22 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
ค่อยค่อยถอดสิเสื้อผ้า
เอนกายช้าช้าอย่าหวั่นไหว
รอรับโลมเล้ารันจวนใจ
รอรับการลูบไล้ที่เริงรมย์
ค่อยค่อยทำใจเธอให้ว่าง
ก่อนแนบชิดเรือนร่างอย่างสุขสม
รอไอร้อนลมหายใจรดไล้พรม
เพื่อเพาะบ่มให้สุขงอมก่อนพร้อมใจ
เฝ้ารอคอยมาเนินนานแสนนาน
ลิ้มรสหวานฉ่ำล้ำเป็นไฉน
ด้วยมิเคยเกี่ยวข้องต้องชายใด
สงวนไว้จวบวันที่เธอวิวาห์
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๓๐ พ.ย. ๒๕๔๘
13 กรกฎาคม 2549 11:22 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
โอ้นั่น ! ดวงดาวสกาวฝัน
มีเจ้าอยู่ที่ตรงนั้น ! หรือไม่
แววแสงส่องจากฟากฟ้าไกลกว่าไกล
อยู่สูงเกินเอื้อมมือไปไขว่คว้ามา
เจ้าที่ข้ารักสุดห้วงแห่งดวงจิต
เจ้าที่ข้าเฝ้าครุ่นคิดคะนึงหา
เจ้าที่ข้าบอกรักมั่นและศรัทธา
เจ้าที่ข้าหมายยึดมั่นจวบวันตาย
เจ้าที่เคยบอกข้าว่าคิดถึง
เจ้าที่เคยบอกคำนึงถึงมิหน่าย
เจ้าที่เคยบอกรักมั่นมิเสื่อมคลาย
เจ้าที่เคยบอกแม้ตายไม่จากกัน
เจ้าที่ทำข้างมงายในรักแท้
เจ้าที่ทำข้าอ่อนแอเอาแต่ฝัน
เจ้าที่ทำข้าหลงใหลไปวันวัน
เจ้าที่ทำข้ามุ่งมั่นฝันร่วมทาง
แท้เจ้าเพียงบอกไปตามใจเจ้า
ขณะรู้สึกเงียบเหงาและอ้างว้าง
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปไฟรักจาง
เจ้าจึงร้างรักจากข้ามิอาลัย
เจ้าจึงจากข้าไปไม่บอกกล่าว
ทิ้งเรื่องราวทุกอย่างวางลงไว้
ทิ้งข้าอยู่อย่างเจ็บร้าวหนาวหัวใจ
ทิ้งข้าให้เคว้งคว้างไร้ทางเดิน
ข้าจึงได้ติดตามถามหาเจ้า
ข้าจึงเฝ้าวาดหวังแม้ห่างเหิน
แม้ทางไกลก็ยังหมายไปเผชิญ
อาจบังเอิญได้ประสบได้พบพาน
จักอ้อนวอนเจ้าให้อยู่เป็นคู่หมาย
มิอยากอยู่อย่างเดียวดายใจฟุ้งซ่าน
มิอยากอยู่อย่างเดียวดายไปชั่วกาล
อยากเคียงคู่เจ้าตราบนานนิรันดร์ไป
จึงเพ้อพร่ำถามดวงดาวสกาวฝัน
เจ้าอยู่ที่ตรงนั้น ! หรือไม่
ข้าดั้นด้นค้นหาเหนื่อยล้าใจ
มิพบเจ้า ณ แห่งใดในโลกา.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
เวลา ๒๓.๓๒ นาฬิกา
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๔๙