28 มิถุนายน 2549 14:03 น.

สติตื่นคืนฝันได้

เกรียงไกร หัวบุญศาล

ชลนัยน์ไหลหลั่งใต้............................แดนไทย
มิว่างคืนวันใด.................................โศกเศร้า
แค้นเคืองขุ่นฤทัย............................ตราบชั่ว........หล้าฤา
หมายมุ่งใจใฝ่เฝ้า...........................แบ่งขั้วเขตคาม

ถามใจใยแกร่งกล้า...........................ฆ่ากัน
แตกต่างวงศ์พงศ์พันธุ์.......................เผ่าเชื้อ
ถือทิฐิแยกฝัน................................ไกลห่าง
ไร้จิตคิดก่อเกื้อ...............................ห่อนให้สงบเย็น

เป็นเช่นไรจิตเจ้า..............................ร้าวใด
ฤาต่ำต้อยกว่าใคร............................จึ่งกร้าว
คับข้องหม่นหมองใจ.........................วานบอก
บางสิ่งที่ลึกร้าว................................ใช่ร้ายรุนแรง

แบ่งแยกไปเพื่อให้.............................ใครครอง
ชนต่างทุกข์เศร้าหมอง.......................ค่ำเช้า
อำนาจที่เรืองรอง..............................ผ่องถ่าย
ใครเสพแล้วใฝ่เฝ้า............................ก่อเกื้อเพื่อตน

หนทางสันติไร้...................................ความหมาย
แม้ศาสนาเดียวกลาย.........................ต่างขั้ว
ฝันหวานซ่านแค่ภาย.........................คำกล่าว
อำนาจอยู่เพื่อฮั้ว..............................พวกผู้อยู่บน

ชนชั้นล่างต่างร้าว..............................รานเสมอ 
เป็นแต่เบี้ยบำเรอ.............................ทาสให้
เถิดเพื่อนอย่าหลงละเมอ ..................เพ้อพร่ำ
สติตื่นคืนฝันได้...............................พรุ่งนี้สงบเย็น


เกรียงไกร หัวบุญศาล
๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๙ 

 
 
 
				
16 มิถุนายน 2549 15:38 น.

เหมือนไม่มีแล้วความฝัน

เกรียงไกร หัวบุญศาล

เหมือนไม่มีแล้วความฝัน
ถึงแม้มีก็เหมือนมันหล่นหาย
เหลือเพียงซากกากความฝันอันเดียวดาย
มิอาจหมายให้ความฝันนั้นหวนคืน

แม้อยากกอดไว้
ในห้วงใจกลับระทมสุดขมขื่น
ความรู้สึกก็คล้ายคล้ายตายทั้งยืน
เมื่อคนรักกลายเป็นอื่นกลืนน้ำตา

แม้ยังคิดถึง
สุดก้นบึ้งแห่งหัวใจอาลัยหา
ความรู้สึกอีกส่วนหนึ่งซึ่งทรมา
ก็บาดลึกในวิญญาณ์ล้าแรงใจ

ทำอย่างไรดี
ใจดวงนี้มีแต่ช้ำฤาไฉน
ต้องบอบช้ำถึงร้อยครั้งหรืออย่างไร
จึงจะพบกับใครที่รักจริง


เกรียงไกร หัวบุญศาล
๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๙
ลองเขียนแบบกลอนพาไป

				
16 มิถุนายน 2549 11:44 น.

ชีวิตล้วนเท่านี้

เกรียงไกร หัวบุญศาล

ชีวิตล้วนเท่านี้
รอวันที่จักวางวาย
ช้า-เร็วแห่งความตาย
เกินคาดหมายใครคาดการณ์

เวลาคอยกำหนด 
เสมือนบทโทษประหาร
เวียนว่ายไปตามกาล 
นั่นแหละแท้และแน่นอน

ชีวิตเป็นเช่นนี้ 
ดุจบ่งชี้อุทาหรณ์
ใยเล่าเฝ้าอาวรณ์ 
มิลิดรอนละโมบหลง

มุ่งแต่จักไขว่คว้า 
ทุกสิ่งมาว่ายืนยง
มิคิดจะปลิดปลง 
เพื่อละวางอย่างรู้จริง




เกรียงไกร หัวบุญศาล
๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ 


 

				
14 มิถุนายน 2549 12:28 น.

ฤาโลกแล้งสิ้นแล้วมโนธรรม

เกรียงไกร หัวบุญศาล

๑

อุดมคติใดเล่าจักเลิศล้ำ
ชูเด่นมโนธรรมนำยุคสมัย
ศรัทธาค่ามนุษย์สุดห้วงใจ
เทิดคุณค่าความดีไว้ในวิญญาณ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์มหิทธิฤทธา
เปี่ยมพลังขลังกล้ามหาศาล
ฤาช่วยให้เกิดผลดลบันดาล
อุดมคตินี้เบ่งบานอนันตกาลไกล

ณ ยุคอันอธรรมครอบงำยุค
.เบิกบุกเป็นเขตประเทศไว้
มโนธรรมคล้ายสลายมลายไป
จากห้วงใจมนุษย์สิ้นทั้งวิญญาณ์

มีเพียงโลภโกรธหลงดำรงสมัย
ครอบงำใจมนุษย์สุดปรารถนา
ใครอำนาจบาตรใหญ่ในโลกา
ยิ่งหมายครองโลกหล้าจักรวาล

หวังเขมือบดุจเหลือบลิ้นให้สิ้นซาก
คล้ายกาฝากดูดดื่มสิ้นทุกสสาร
เพียงให้ได้ครอบครองต้องดวงมาลย์
วิธีการชั่วร้ายใดไม่คำนึง

เฝ้าฉ้อฉลเที่ยวปล้นไปในทุกที่
ใครขัดขวางทำทีเป็นโกรธขึ้ง
ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอยู่เอ็ดอึง
หมายรุมทึ้งผลประโยชน์หวานอันโอชา 

๒

อุดมคติที่เลอเลิศประเสริฐนั้น
ฤาพียงเฝ้าใฝ่ฝัน ณ ปรารถนา
แท้มนุษย์ต่างมุ่งหมายในอัตตา
อันชั่วช้าสามานย์นั่นหรือไร

กดขี่ข่มเหงรังแกกัน
ทุกคืนวันมิเว้นเวลาไหน
ผู้อ่อนแอล้วนแต่แพ้พ่ายไป
และถูกเหยียบย่ำไว้ใต้ธรณี

อำนาจใครยิ่งใหญ่ยิ่งหมายข่ม
ใครอ่อนแอยิ่งตกจมธรณีนี้
มิคำนึงถึงผิดชอบชั่วและดี
แม้กฎหมายไม่มีฤทธีพอ

๓

อุดมคติที่สุดเลิศประเสริฐล้ำ
พ่ายแพ้ใจใฝ่ต่ำจริงไหมหนอ
ข้ายังหมายใฝ่หวังยังเฝ้ารอ
ขออุดมคติใดใหม่เลิศประเสริฐเอย



เกรียงไกร หัวบุญศาล
๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ 

				
7 มิถุนายน 2549 16:16 น.

ความอำมหิตโหดร้ายในโลกนี้

เกรียงไกร หัวบุญศาล

๑

ความอำมหิตโหดร้ายในโลกนี้......................ยังคงมี		
ทุกหย่อมหญ้า
ผู้ทมิฬหื่นกระหายหมายชีวา	........................ขู่เข่นฆ่า		
ชีวิตคน

เห็นชีวิตมวลมนุษย์สุดไร้ค่า	........................ช่างบอดบ้า
ตามือหม่น
แสงแห่งธรรมมิได้ต้องส่องแย้มยล...............กลางกมล
สันดาล

ผู้เถลิงอำนาจบาตรใหญ่...............................เหยียบย่ำไป
ทุกหย่อมย่าน
บีบบังคับด้วยกำลังเข้ารุกราน.......................สุดเหี้ยมหาญ
และทารุณ

ส่วนผู้อยู่ใต้อำนาจการกดขี่	........................โต้ต่อตี
อย่างเคืองขุ่น
ก่อเหตุวินาศกรรมให้กลายเป็นจุล...............จนโลกวุ่น
มิรู้วาย

ใครเล่าผิดใครเล่าถูกผูกใจเจ็บ...................โชว์เขี้ยวเล็บ
อันเหลือร้าย
ตอบโต้กันและกันจวบวันตาย.......................ที่สุดท้าย
เพื่อสิ่งใด

ผู้บริสุทธิ์มากมายในโลกนี้............................สมควรที่
รับกรรมไหม
ทั้งบาดเจ็บล้มตายมลายไป...........................เคยมีใคร
เล่าคำนึง

โหมประกาศสงครามเข้าห้ำหั่น......................ให้อาสัญ
ลงข้างหนึ่ง
สถานการณ์โลกนี้ที่ขุ่นขึ้ง..............................นั่นควรพึง
พอใจฤา

ผู้โกรธก่อนโกรธหลังล้วนคลั่งบ้า...................สวมวิญญาณ์
สัตว์ป่าหรือ
เฝ้ากระตุ้นหนุนเนืองใจให้ลุกฮือ..................ขึ้นมาถือ
อาวุธพาล

ขอสาปส่งชั่วหล้าชั่วฟ้านี้...............................จวบวันที่
อวสาน
ผู้อำมหิตจงดิ่งลงห้วงนรกานต์......................นานตราบนาน
นิรันดร์เทอญ.

๒

เชิญวิญญาณ์คลั่งบ้า...................................มนุษย์
จมดิ่งมิสิ้นสุด.............................................ห้วงทุกข์
ให้สมแก่บาปหยุด......................................ชั่วช้าอนันตกาล

นานแล้วโลกที่ให้......................................เกิดกาย
พันธุ์เผ่ามนุษย์เกิดตาย.............................เวิ้งว่าย
ฤาบ่สำนึกภาย............................................ชาตินี้กระไร

ใยมิคิดก่อเกื้อ............................................ความดี
เร็วเร่งแต่ราวี............................................ร้อยเล่ห์
เห็นการฆ่าสุนทรีย์......................................เช่นนี้ร่ำไป

					




เกรียงไกร หัวบุญศาล
๖ มิถุนายน ๒๕๔๙


	

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเกรียงไกร หัวบุญศาล
Lovings  เกรียงไกร หัวบุญศาล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเกรียงไกร หัวบุญศาล
Lovings  เกรียงไกร หัวบุญศาล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเกรียงไกร หัวบุญศาล
Lovings  เกรียงไกร หัวบุญศาล เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเกรียงไกร หัวบุญศาล