11 พฤษภาคม 2549 17:42 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
..........................................................................................................
๑
กี่ร่างทบท่าวพื้น.........................ธรณี
เลือดหลั่งดั่งเชือดพลี.................เซ่นไหว้
อุดการณ์หว่านโศกี....................โรยแผ่น- ดินแฮ
เข่นฆ่าบ้าบอดใบ้.......................ฤาได้เถลิงสวรรค์
แผกพันธุ์แผกเผ่าเชื้อ.................แผกภา- ษาแฮ
ฤาต่างแตกอาณา......................แว่นแคว้น
เกิดร่วมแผ่นดินมา....................กี่ชั่ว- คนเฮย
เปล่าค่ามาคลั่งแค้น...................ล่าล้างชีวิน
๒
กี่ร่างร่วงวายวางลงพร่างภพ
กี่ซากศพทบท่าวผ่าวแดดิ้น
ประดุจใบไม้ร่วงลงโลมดิน
กี่ศพซากจักสิ้นกลิ่นความตาย
อุดการณ์ที่ทอดรากฝากฝั่งไว้
ก่อฝันใฝ่ให้เติบกล้ามากระหาย
แบ่งแยกเผ่าแบ่งแยกพันธ์อันตราย
ใช้อุบายเพื่อบรรลุอุดมการณ์
ละเลยต่อบาปกรรมคำสอนศาสน์
วิปลาสมาผันแผลงแปลงเปลี่ยนสาส์น
อ้างศาสนาอ้างเขตแคว้นอันแสนพาล
แท้ทะยานหมายอำนาจอย่างอาจอง
จึงเร่งสร้างสถานการณ์อันอำมหิต
คร่าชีวิตเพื่อวาดฝันอันสูงส่ง
มิอยากอยู่ร่มเย็นในธงไตรรงค์
หมายจะคงรัฐอดีตขีดเส้นตาย
เฝ้าก่อกวนก่อการอันแน่แน่ว
ทุกวันแว่วยินเข่นฆ่าบ้ากระหาย
ค่ามนุษย์ดุจธุลีที่เกลื่อนราย
เพียงให้ถึงซึ่งจุดหมายไม่ใยดี
จะตายกี่ศพซากฝากพื้นหล้า
เลือดทาบทาบ่าไหลไปทุกที่
มิรู้สึกรู้สายิ่งราวี
ฤาถิ่นนี้ขอครอบครองจึงต้องใจ
จึงยิ่งเลือดขึ้นหน้าบ้าระห่ำ
บาปและกรรมมิคำนึงถึงโลกไหน
ขอชาตินี้เถลิงบัลลังก์วาดหวังไป
อยากยิ่งใหญ่จึงก่อการใครต้านตาย
อ้างศาสนาบังหน้าว่าถูกต้อง
รวมพวกพร้องร่วมอุดมการณ์ด้วยมั่นหมาย
เข่นฆ่ากันทุกวันมิเว้นวาย
เจตจิตคล้ายกวนให้ขุ่นวุ่นทั่วเมือง
ให้เกิดความสับสนอลหม่าน
ทุกหย่อมย่านเป็นมิคสัญญีที่ลือเลื่อง
กลยุทธ์ใดนำมาใช้ไม่เปล่าเปลือง
เพื่อให้เรื่องขยายใหญ่ไว้ต่อรอง
พยายามสร้างเงื่อนไขไม่หยุดหย่อน
ทุกบทตอนดำเนินไปได้แคล่วคล่อง
จึงทุกศพทบท่าวคาวเลือดนอง
เพื่อสนองความมักใหญ่ใครบางคน.
๔ พ.ย. ๒๕๔๘
--------------------------------------------------------
*****ในสามจังหวัดภาคใต้การก่อการร้ายยังคงดำเนินไปดุจกิจกรรมอันธรรมดา โดยมีชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นเดิมพัน
....................................................................
11 พฤษภาคม 2549 15:34 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
....................................................................................................
เมื่อชีวิตถูกขีดให้ว่ายเวิ้งทุกข์
มิอาจหาความสุขสักเสี้ยวฝัน
ทอดถอนใจภายใต้แสงตะวัน
เก็บความทุกข์มหันต์อนันตกาล
จะเรียนรู้ความทุกข์อันวิปโยค
ให้ซึ้งโศกลึกกว่าใครเคยไขขาน
หอบหัวใจปวดร้าวเศร้าวิญญาณ
แม้นับนานก็จะพร้อมยอมจำนน
เมื่อโลกนี้มีที่ให้ได้เรียนรู้
ขอก้าวสู่ห้วงทุกข์ทุกแห่งหน
จะบอบช้ำกี่บอบช้ำก็จำทน
จะมิยอมก้าวผ่านพ้นจนสิ้นใจ
เอาความทุกข์เป็นเพื่อนเสมือนญาติ
จักองอาจอยู่เสมอเมื่อฝันใฝ่
อัดแน่นทุกข์เอ่อท่วมท้นล้นทรวงใน
แบกทุกข์ไปให้กระจ่างดั่งสัจธรรม
อย่าได้รินน้ำใจมาให้ยาก
ขอบั่นบากในห้วงทุกข์ดุจสุขล้ำ
ทั้งกายใจล้วนพลีให้ทุกข์ทุรกรรม
จะน้อมนำดุจธรรมะพุทธองค์
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
11 พฤษภาคม 2549 15:23 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
..................................................................................................................
เอาอากาศธาตุเป็นกระดาษผืนใหญ่........ให้เจ้าวาดจินตนาการหวานฝัน
เอาทุกข์หนักวางลงพักสักคืนและวัน.......สรรเสกสร้างสุนทรีย์แห่งชีวิต
หมองไหม้ ณ วิถีที่เจ้าผจญ..................ก่นด่าทอโชคชะตาฟ้าลิขิต
เปล่าประโยชนเฝ้าหมกมุ่นแต่ครุ่นคิด........มิปล่อยจิตบรรเจิดเพริศภิรมยา
เมื่อความจริงล้วนเจ็บปวดรวดร้าว ..........จงก้าวสู่วิมานฝันปรารถนา
เจ้าจักมีเสรีอิสรา ...............................พ้นสภาวะพันธนะอนันตกาล
วิถีเจ้ามีแต่ความแพ้พ่าย......................แม้เหนื่อยหน่ายว่ายเวิ้งวนอลหม่าน
จำดิ้นรนทุรนทุรายไปนับนาน................จนกว่ากาลจักกลืนร่างอย่างรันทด
เจ้าครุ่นคิดจิตหม่นหมองไป...................ใยมิใช่ยิ่งปวดร้าวเศร้าสลด
เถิดจินตนาการหวานล้ำงามงด.................มีเจ้าเป็นผู้กำหนดทุกบทชีวี
ทุกข์ใดใดวางลงพักหากหนักเหลือ............เพื่อบรรเจิดจินตนะ ณ ฝันนี้
ให้พิสุทธิ์ฝันอมตะสุนทรีย์........................คลายความทุกข์ทุกวิถีที่เผชิญ
๒ พฤษภาคม ๒๕๓๙
ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพฯ
ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ นิตยสารละครทีวี ฉบับที่ ๒๘/๒๕๔๑