19 พฤษภาคม 2549 12:37 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
เมื่อราตรีคลี่คลุมชวนรุ่มร้อน
แม่สาวน้อยไม่ยอมนอนอยู่ในบ้าน
แว่วเพลงแดนซ์ที่ดังช่างทรมาน
จึงทะยานไปเต้นร่าให้สาใจ
แม่สาวน้อยสมัยนี้ล้วนนอนดึก
เพราะใจคึกคะนองยิ่งหรือนิ่งไหว
ต้องออกร่ายส่ายเอวเย้วเย้วไป
ท่ามแสงไฟและดนตรีที่มีมนต์
ดื่มดื่มดื่มเต้นเต้นเต้นเห็นไหมนั่น
คือสวรรค์ของสาวน้อยคอยเกี่ยวผล
ในเมื่อเกิดขึ้นมาชื่อว่าคน
ต้องตักตวงความสุขล้นก่อนพ้นวัย
แค่สายเดี่ยวเกาะอกยกแข้งขา
อย่ากล่าวหาให้เห็นเป็นเรื่องใหญ่
ถือเสียว่าช่วยทำบุญหนุนกันไป
หนูไม่มาสนใจใครจะมอง
เราต่างมาร่วมสุขสนุกสนาน
ควรเบิกบานเข้าไว้ใช่ขุ่นหมอง
ชีวิตล้วนดำเนินไปในครรลอง
ใยจะต้องคิดมากไปให้เสียเวลา.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๙
******อยากจะเขียนที่แตกต่างออกไปบ้าง****
18 พฤษภาคม 2549 18:18 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
เพ่งมองโลกกว้างใหญ่
ความเป็นไปที่เราเห็น
รู้ได้ไม่ยากเย็น
ทั้งดีงามและความเลว
เพ่งมอง ณ ภายใน
ดุจเพ่งไปในหุบเหว
มืดมิดสนิทเปลว-
ไฟสว่างพร่างตระการ
มิอาจจะรู้เห็น
สิ่งหลบเร้นที่ขับขาน
ว่าในจิตวิญญาณ
คือเลวทรามหรือความดี
ใครฤาจะขบคิด
จะเพ่งพิศในสิ่งนี้
เพ่งหาค่ามณี
ที่อยู่ในหัวใจคน
๖ เม.ย.๒๕๔๑
ขนส่งสายใต้ใหม่/กรุงเทพฯ
17 พฤษภาคม 2549 16:53 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
.................................................................................
อยากจะให้มวลมนุษย์หยุดเข่นฆ่า
ละดวงใจอันโฉดช้าและบ้าบิ่น
อีกไม่นานก็สลายกลายเป็นดิน
เมื่อดับสิ้นที่ความตายก็คล้ายกัน
อยากจะให้มวลมนุษย์หยุดโหดร้าย
ละเป้าหมายการครอบครองผยองฝัน
ชะล้างใจให้บริสุทธิ์ผุดผ่องพัน
ร่วมแบ่งปันน้ำมิตรสนิทนาน
อยากจะให้มวลมนุษย์หยุดริษยา
ใครดีกว่าก็ร่วมกันมั่นกล่าวขาน
ใครอ่อนแอก็กอบเกื้อและเจือจาน
ประดุจธารน้ำใจที่ไหลริน
อยากจะให้มวลมนุษย์หยุดขัดแย้ง
หวาดระแวงใดใดลบให้สิ้น
สานสัมพันธ์ฝั้นสายใยเชื่อมใจจินต์
เฝ้าถวิลรังสรรค์หล้าค่างดงาม
อยากจะให้มวลมนุษย์พิสุทธิ์ค่า
ไร้เล่ห์เหลี่ยมมายาน่าเกรงขาม
โลกนี้คงสดใสใต้ฟ้าคราม
มิครั่นคร้ามอันตรายไร้ภัยพาล.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙
16 พฤษภาคม 2549 20:22 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
หากเธอยังมีใจจะใฝ่ฝัน
คืนยังงามท่ามแสงยวนของนวลจันทร์
และกลางวันอาทิตย์จ้าอย่างท้าทาย
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
อย่าเพิ่งหลั่งน้ำตาอย่าแพ้พ่าย
ทางเลือกเธอยังมีอีกมากมาย
จงเพ่งสายตามองลองแย้มยล
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
เธออย่าขังตัวเองไว้ในหมองหม่น
จงเดินหน้าอย่างทรหดและอดทน
มิจำนนต่อหนทางกลางมรรคา
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
ทรุดกายนั่งหากเธอเมื่อยเธอเหนื่อยล้า
อาจหลับลงในห้วงแห่งนิทรา
แล้วลืมตาขึ้นค้นฝัน ณ อโณทัย
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
ก้าวสู่ฝั่งแห่งความฝันอย่าหวั่นไหว
แม้ไร้สิ้นแสงทองผ่องอำไพ
แต่ไฟใจยังสว่างพร่างตระการ
ยังมีหวัง...ชีวิตนี้ยังมีหวัง
สติตั้งใจทายท้าอย่างกล้าหาญ
เพียงไฟใจไม่มอดดับลงยับลาญ
เธอย่อมสานใยต่อก่อฝันพราว
๑๒ ส.ค.๒๕๔๑
เกรียงไกร หัวบุญศาล
16 พฤษภาคม 2549 19:27 น.
เกรียงไกร หัวบุญศาล
......................................................................................
อรุณอุ่นอาบหล้า
เริ่มทิวา ณ ฟ้าใหม่
หลอมฝันหวานละไม
ประจักษ์ในความเป็นจริง
ราตรีที่หลับฝัน
ผันผ่านไปไม่หยุดนิ่ง
หาใช่ฝันทุกสิ่ง
จะดิ่งดับไปกับกาล
หากยังต่อเติมฝัน
ด้วยมุ่งมั่นและกล้าหาญ
หมื่นทุกข์ทรมาน
ก็อย่าหวั่นสะท้านไหว
ชีวิตต้องต่อสู้
และเรียนรู้คู่กันไป
เก็บความฝันหวานละไม
เป็นอนุสรณ์ก่อนวายวาง
รู้สึกว่าท้อแท้
และพ่ายแพ้ย่อมมีบ้าง
ขอเพียงอย่าจืดจาง
ความฝันในดวงใจเธอ
ราตรีที่หลับฝัน
ดวงตะวันส่องฝันเสมอ
ให้ฝันอันเลิศเลอ
งามวิจิตรชั่วนิจกาล
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๓๑ มีนาคม ๒๕๔๙