28 พฤศจิกายน 2547 14:19 น.
ู^*^ ปีกแห่งเวทมนตร์ ^*^
เรื่องจริงก็มีอยู่ว่า
8.15 น. ระเบิดปรมาณูถูกทิ้งลงเหนือเมืองฮิโรชิม่า พริบตาเดียวตามรัศมีแห่งการทำลาย เมืองกับอีก 60,000 ชีวิตดับสิ้นลง อีกห้าเดือนต่อมายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 140,000 คน จากพิษร้ายของสารกัมมันตภาพรังสีที่ยังก่อให้เกิดการล้มเจ็บตามมาอีกนับไม่ถ้วน
เมืองแห่งดวงอาทิตย์คล้ายสิ้นแสงไปด้วยความเศร้า ใบหน้าของชาวญี่ปุ่นล้วนนองไปด้วยน้ำตา เวลาผ่านไป 9 ปีให้หลัง ผลพวงของสงครามนิวเคลียร์ยังตามติดมามิหยุดหย่อน เด็กหญิงซาดาโกะ ซาซากิ ผู้ร่วมเหตุการณ์ระเบิดในวัย 2 ขวบ ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัย 11 ปี แสงอรุณดวงน้อยของชาวญี่ปุ่นหม่นหมองลงอีกหนึ่งดวง ซาดาโกะเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน จนมาวันหนึ่ง ด้วยความรักเพื่อนและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังจาก ชิซึกะ เพื่อนของเธอ ชิซึกะ ได้บรรจงตัดกระดาษสีทอง และพับขึ้นเป็นนกกระเรียนมามอบให้ซาดาโกะ
"เราเชื่อกันว่านกกระเรียนมีอายุถึงพันปี ถ้าหากคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยพับนกกระเรียนได้พันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะประทานความหวังให้ ทำให้คนๆ นั้นมีสุขภาพ แข็งแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง"
จากนกกระเรียนตัวแรกที่ได้จากเพื่อน คล้ายแสงสว่างอันอบอุ่นสาดส่องสู่ซาดาโกะอีกครั้ง เด็กหญิงตัวน้อยเกิดกำลังใจมหาศาล และเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ซาดาโกะลุกขึ้นต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเข้มแข็ง เริ่มพับนกกระดาษหวังให้ครบ 1,000 ตัวพร้อมคำอธิษฐานให้หายป่วย จากตัวที่ 2 เป็นสาม เป็นสิบ เป็นร้อย ...ขอให้ฉันหาย ...ขอให้ฉันได้กลับบ้าน ได้อยู่กับครอบครัว ...ขอให้ฉันได้กลับไปเรียน
นกกระเรียนตัว 644 ตัววางอยู่ข้างเตียง ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที แต่แล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็สิ้นลมหายใจ
...ในพิธีศพของซาดาโกะเพื่อนนักเรียนจึงช่วยกันพับนกกระเรียนอีก 356 ตัว ซาดาโกะจึงมีนกกระเรียนครบ 1,000 ตัวนอนอยู่ข้างกาย ชีวิตอันโหดร้าย ความทุกข์ และความหวังของซาดาโกะ สั่นสะเทือนจิตใจของชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศอีกครั้งหลังจาก 10 ปีที่ความเศร้าสลดในสงครามยังไม่จางหายไป รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจัดสร้างอนุสาวรีย์ของซาดาโกะยืนชูมือที่มีนกกระเรียนอยู่ในอุ้งมือยื่นออกไปข้างหน้า ณ สวนสันติภาพ หรือ พีซ เมมโมเรียล ปาร์ค เมืองฮิโรชิมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ชาวญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงพิษภัยแห่งสงคราม
วันสันติภาพที่ 6 สิงหาคม ของทุกๆ ปี จะมีผู้คนพับนกกระเรียนมาวางไว้ที่ฐานอนุสาวรีย์ของซาดาโกะนับพันนับหมื่นตัว เพื่อระลึกถึงเด็กหญิงผู้แข็งแกร่งและมีความหวัง การพับนกกระเรียนกระดาษจากช้านานที่เคยสื่อความหมายถึง ความมีอายุยืนยาว ซึ่งชาวญี่ปุ่นพับขึ้นและนำมามอบกับมือ พร้อมการตั้งจิตให้ผู้ป่วยหายจากโรคภัย หรือแม้แต่การอธิษฐานจากการพับนกของผู้ป่วยเอง
ทว่าเรื่องของซาดาโกะและชะตากรรมที่ชาวญี่ปุ่นผ่านมาร่วมกันในสงครามที่รุนแรง นกกระเรียนกระดาษจึงสื่อความหมายรวมไปถึง ความหวังแห่งสันติภาพ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
กล่าวมาถึงตรงนี้ของกระเรียน ชาวญี่ปุ่นโบราณยังยกย่องนกกระเรียนเป็นสัตว์ประเสริฐประจำองค์จักรพรรดิ ด้วยความเชื่อดั้งเดิมว่า นกกระเรียนมีอายุยืนยาวถึง 1,000 ปี ทั้งยังเสมือนสัญลักษณ์แห่งความผาสุก
............................................................................................................
นกกระดาษแห่งสันติภาพ...........ตั้งใจอธิษฐานก่อนพับพร้อมกันทั้งประเทศไทย
9 กันยายน 2547 17:32 น.
ู^*^ ปีกแห่งเวทมนตร์ ^*^
เกริ่นนำ
..........มัมมี่" คือ ศพที่ดอง หรืออาบน้ำยาพิเศษ โดยชาวอียิปต์โบราณ ศพมัมมี่จะถูกนำไปฝัง ในลักษณะนอนตามยาว ใต้พื้นทราย ที่ก่อตัวเป็นเนิน โดยลมที่เกิดขึ้น ในแถบทะเลทรายอาราเบียน และทะเลทรายอียิปต์ นอกจากนั้น มัมมี่ยังใช้น้ำมันถูตามตัว เพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยด้วย
มหาพีระมิด แห่งกิซา"
การก่อสร้าง พีระมิดแห่งกิซานั้น เริ่มตั้งแต่ เมื่อฟาโรห์คูฟู ขึ้นปกครองอียิปต์ โดยสถาปนิกหลวง "เฮมอน" ซึ่งได้รับการถ่ายทอดความรู้ มาจากอิมโฮเทป (ผู้สร้าง พีระมิดขั้นบันได ของกษัตริย์โซเซอร์) แต่ม้วนปาปิรุส ที่กล่าวกันว่า เป็นบันทึกที่อิมโฮเทป เขียนคาถา สำหรับป้องกันพีระมิด ให้ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว และฟ้าผ่า ซึ่งเป็นอาวุธร้าย ของเทพ เสตผู้ชั่วร้าย กลับหายไป และไม่มีใครหามันพบ
จนกระทั่งราชบุตรองค์หนึ่ง คือ เจ้าชายฮอร์เดเดฟ (Hordedef) ได้ขอเข้าเฝ้า พระบิดา แล้วทูลว่า ข้าพระองค์ ได้พบนักเวทมนต์ ที่แข็งแกร่ง และมหัศจรรย์ยิ่งกว่าผู้ใด ในราชอาณาจักร ของพระองค์แล้ว เขามีนามว่า "เตตา" อาศัยอยู่ที่ไมดุม ใกล้กับพีระมิด ของเสด็จปู่ เสเนเฟรูไม่มีใครในอียิปต์ เหมือนเขาผู้นี้อีกแล้ว เพราะเขามีอายุถึง 110 ปี เขามีชีวิตอยู่ตั้งแต่ สมัยฟาโรห์โซเซอร์ และอิมโฮเทป ผู้สร้างพีระมิดองค์แรก เขากิน ขนมปังวันละ 500 ชิ้น เนื้อวัวซีกหนึ่ง และดื่มเบียร์สด วันละร้อยเหยือก เขารู้วิธี เก็บรักษาหัวสัตว์ ที่ถูกตัดออกจากร่าง รู้วิธีที่จะทำให้สิงโต เชื่องราวสุนัข และเขายังบอก อีกว่า เขารู้วิธีที่จะช่วยพระองค์ หาปาปิรุสของอิมโฮเทปด้วย
เมื่อได้ฟังคำกราบทูล ฟาโรห์คูฟู ก็มีราชโองการ ให้เจ้าชายฮอร์เดเดฟ แล่นเรือไปหา เตตา โดยด่วน เจ้าชายทรงเดินทาง ทวนกระแสน้ำขึ้นไป จนมาถึงพีระมิดไมดุม ของ ฟาโรห์เสเนเฟรู หลังจากเรือจอดเทียบท่า เจ้าชายก็ทรงเสด็จ พระราชดำเนิน สู่พีระมิด แล้วอ้อมไปด้านหลัง ซึ่งเป็นหมู่บ้าน ที่เตตาอาศัยอยู่
คณะของเจ้าชาย พบกับชายชรา กำลังนอนบน ตั่งไม้ปาล์ม มีคนใช้ กำลังโบกพัด และนวดน้ำมันให้ เจ้าชายฮอร์เดเดฟ ทรงทักทายชายชรา ด้วยความเคารพ
"ข้าอัญเชิญพระราชสาสน์ จากพระบิดา ฟาโรห์คูฟูผู้ยิ่งใหญ่มา พระองค์ทรงมีรับสั่ง ให้ท่านเข้าเฝ้า"
"ข้าพระองค์จะเดินทาง ไปเฝ้าฟาโรห์กับพระองค์ แต่โปรดให้ผู้ติดตามของข้า และคัมภีร์ของข้า ได้ติดตามไปในเรือ อีกลำหนึ่งด้วยเถิด"
คาถาทั้งหลายของอียิปต์
เครื่องรางของเครื่องผูกรัด
นี่คือโลหิตแห่งเทพไอซิส ความแข็งแรงและคำพูดที่ทรงอำนาจของไอซิสจะเป็นเหมือนอำนาจที่ปกป้องของสิ่งนี้และเจ้าของจากการกระทำและสิ่งที่เขารู้สึกเกลียด
เครื่องรางหัวใจ
หัวใจของฉัน มารดาของฉัน หัวใจของฉัน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ฉันมีชีวิต ขอให้ไม่มีสิ่งใดอยู่ตรงข้ามในการตัดสินใจของฉัน ไม่มีสิ่งที่อยู่ตรงข้ามเมื่อยอู่ต่อหน้าพระเจ้า เจ้าชายขอให้ตราชั่งอยู่ในสมดุล ท่านอยู่กับฉันในตัวของฉัน เพทคเนมผู้มัดและทำให้แขนขาของฉันแข็งแรง ขอท่านจงนำฉันไปสู่ทางแห่งความสุขและไร้มลทิน ขอเทพเชอนิต ผู้ทำให้เกิดการมีชีวิตอย่าทำให้ชื่อเสียงขอฉันเสื่อม ขอให้มันเป็นสิ่งที่น่าพอใจกันฉัน เป็นที่แห่งความสนุกสนานแห่งหัวใจด้วยน้ำหนักของคำพูด อย่าให้มีสิ่งไม่ดีถูกกล่าวคัดค้านต่อหน้าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ขอให้ฉันได้ชัยชนะ
.................................................................................................................